1 มิ.ย. 2022 เวลา 12:20 • หุ้น & เศรษฐกิจ
5 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ “เล่นหุ้น”
แบบละเอียด มือใหม่ต้องอ่าน ?
ใครๆ ก็ว่า “เล่นหุ้น” ไม่ใช่เรื่องยาก และมีข้อดีหลายอย่าง ตั้งแต่การสร้าง Passive income, การมีหุ้นก็เหมือนเป็นเจ้าของธุรกิจ ไปจนถึงการเล่นหุ้นคือการลงทุนที่ดีที่สุด
แต่โลกความเป็นจริงไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะโลกของการลงทุนมีทั้งกำไรและขาดทุน หรือหากจะลงทุนเฉพาะในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ก็มีหุ้นให้เลือกมากกว่า 600 บริษัทฯ
ชวนคุณมาเตรียมตัวลงทุนด้วย 5 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนลงทุนกัน
1.สำรวจตนเองว่า ทำไมถึงอยากลงทุน
ก่อนจะกระโดดเข้าสนามการลงทุน เราอาจต้องสำรวจพื้นฐานของตัวเอง รวมถึงเป้าหมายของตัวเราก่อน เพื่อที่เราจะสามารถหารูปแบบ และวิธีการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง เช่น
-ต้องการลงทุนและสร้างเงินเก็บ 100,000 บาทภายใน 5 ปี
-ลงทุนเพื่อสร้าง Passive income (รายได้ที่ไม่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง) ระหว่างที่ ยังทำงานประจำ
-ลงทุนเพื่อมีเงินปันผล
-ลงทุนเพื่อเก็บเงินก้อนให้ลูก
-ลงทุนเพื่อเก็บออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณ
-และอีกหลากหลายเป้าหมาย (หรือเราอาจจะแบ่งการลงทุนตามแต่ละเป้าหมายก็ย่อมได้)
2. สไตล์การลงทุน เล่นหุ้นแบบไหนดี?
การเล่นหุ้น อาจจะมีหลายแบบ แต่สามารถแบ่งประเภทนักลงทุนได้ 2 สไตล์หลัก ๆ คือ
2.1 สายลงทุนพื้นฐาน เป็นกลุ่มนักลงทุนที่มองระยะยาว (มากกว่า 1 ปีขึ้นไป) เมื่อจะถือหุ้นระยะยาวก็ทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้ต้องดูที่พื้นฐานของหุ้นเป็นหลัก (Fundamental) และบางคนก็เลือกที่จะทยอยเข้าซื้อหุ้นแบบ DCA หรือ Dollar Cost Average หรือการเข้าซื้อหุ้นจำนวนเท่ากันทุกเดือนเพื่อให้ได้ราคาหุ้นที่ถัวเฉลี่ยกันไป
2.2 สายเก็งกำไร เป็นกลุ่มนักลงทุนที่อาจเชื่อว่า ตลาดหุ้น มีจังหวะที่ต้องเข้าซื้อ และขายออกเพื่อทำกำไร ดังนั้นจะเน้นการลงทุนระยะสั้น (น้อยกว่า 1 ปีลงมา) และจะเน้นที่การวิเคราะห์เชิงเทคนิค (Technical Analysis) โดยสายนี้จะมักให้ความสำคัญกับราคา
ทำให้ผลตอบแทนที่นักลงทุนกลุ่มได้มักจะเป็น “ส่วนต่าง” ในการซื้อหุ้นที่ราคาถูก และขายในช่วงที่ราคาแพงกว่าที่ซื้อมา จุดนี้เรียกว่า Capital Gain
3. เลือกโบรกเกอร์ (และวิธีการเปิดบัญชี)
4. ศึกษาข้อมูลพื้นฐานหุ้น
ข้อ 4 เป็นหัวข้อที่สั้นที่สุด แต่ต้องเรียนรู้มากที่สุด เพราะก่อนจะเข้าซื้อหุ้นสักตัว ต้องทำการบ้าน ทั้งข้อมูลของบริษัทฯ ที่จะเข้าไปซื้อหุ้น เช่น ประเภทธุรกิจ, ภาวะตลาด, โมเดลธุรกิจ, ผลประกอบการย้อนหลัง ฯลฯ
รวมถึงติดตามข่าวสารของที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของหุ้นนั้นๆ ว่ามีทิศทาง หรือปัจจัยที่อาจได้รับผลบวก หรือผลกระทบอย่างไร
5. ถ้ายังไม่มั่นใจ “ทดลองเล่นหุ้น” ก่อนได้
สุดท้ายแล้ว หากยังไม่แน่ใจว่า ข้อมูล เทคนิค และรูปแบบการลงทุนที่เลือกจะ “ใช่” แบบที่คิดไหม และยังไม่มั่นใจ
เราสามารถ “ทดลองเล่นหุ้น” ผ่านการเปิดพอร์ตในเว็บไซด์ Click2win ซึ่งเป็นโครงการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จุดเด่นคือ
ทดลองซื้อ ขายหุ้น และอนุพันธ์บนมือถือคล้ายกับ Steaming ที่หลายคนใช้เทรดหุ้นจริง
มีเงินทุนจำลองให้พอร์ตละ 5 ล้านบาท (แต่ระบบจะลบข้อมูลพอร์ตทุก 3 เดือน)
1
อ้างอิง – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET), ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท).
โฆษณา