1 มิ.ย. 2022 เวลา 17:10 • นิยาย เรื่องสั้น
“สีหมอก” ยอดม้าอาชาไนย
ขึ้นชื่อว่านักรบผู้เก่งกล้าสามารถในสมัยก่อนล้วนแล้วแต่จะต้องมีสัตว์ที่เป็นพาหนะคู่ใจในการออกโรมรันกับข้าศึกศัตรู แต่สำคัญสัตว์นั้นๆจะต้องมีคุณสมบัติพิเศษแตกต่างจากตัวอื่นๆ เพราะหาไม่แล้วจะเป็นสิ่งที่ร่วมบุญบารมีกันมิได้
ตัวอย่างเช่นพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชมีม้ายูนิคอร์นชื่อ “บิวเซเฟอลัส” กวนอูแห่งสามก๊กมีม้าที่ได้รับมาจากโจโฉชื่อ “เซ็กเทา”  รินัลโด อัศวินเอกคนหนึ่งของพระเจ้าชาลมาญ  กษัตริย์ฝรั่งเศสสมัยสงครามครูเสดมีม้าชื่อ “เบยาร์ด”
และที่สำคัญกลับมาที่ไทยเรา ขุนแผนแสนสะท้าน พระเอกจากเรื่องขุนช้างขุนแผนก็มีม้าศึกคู่กายชื่อว่า “สีหมอก” โดยสีหมอกเป็นม้ารุ่นที่ติดท้องแม่มาจากเมืองมฤท (มะริด) นัยว่าพ่อมันเป็นม้าไทยถูกเขาต้อนมาจนถึงเพชรบุรี มันซุกซนและเกเร เที่ยวไล่กัดม้าหลวงซึ่งเป็นม้าเทศตัวอื่นในกองม้าวุ่นวายอยู่ตลอดจนเป็นที่เอือมระอา
ไม่น่าเชื่อว่าสีหมอกซึ่งขณะนั้นขนาดยังเป็นลูกม้าไทยที่ยังโตไม่เต็มที่แต่ว่ามีพละกำลังแข็งแรงมหาศาลผิดปกติ สามารถขบกัดและเตะม้าเทศซึ่งตัวสูงใหญ่ได้ทั้งฝูงซึ่งมีเกือบร้อยตัวได้สบายๆ!!
ลักษณะของม้าสีหมอกเป็นที่ถูกอกถูกใจขุนแผนยิ่งนัก ทั้งสวยงามและสง่าโดยที่ขุนแผนบอกว่าไม่เคยเห็นม้าตัวใดที่ถูกชะตาเช่นนี้มาก่อน
อีกทั้งไม่มีใครสามารถจับตัวเจ้าสีหมอกได้ยกเว้นขุนแผนคนเดียว ซึ่งต่อมาขุนแผนก็ได้ทำพิธีถอนหญ้าขึ้นมากำหนึ่ง เป่าสะกดด้วยพระเวทอันศักดิ์สิทธิ์ยื่นให้สีหมอกกิน จากนั้นเจ้าสีหมอกก็เกิดผูกใจจงรักภักดีต่อขุนแผน ฝากตัวเป็นทาส ซึ่งขุนแผนก็รักเจ้าสีหมอกอย่างมากมายเช่นกัน
จะขอเล่าเหตุการณ์สั้นๆเกี่ยวกับช่วงตอนที่ขุนแผน นางวันทอง เกี่ยวข้องผูกพันกับม้าสีหมอกกันสักนิด…
วันหนึ่ง ขุนแผนคิดถึงนางวันทองซึ่งถูกขุนช้างหลอกไปเป็นเมีย จึงบุกขึ้นไปบนเรือนขุนช้าง แล้วชวนนางวันทองหนีเข้าป่าไปด้วยกันพร้อมกับม้าสีหมอก
ขุนแผนกับม้าสีหมอกพานางวันทองหนี
ขุนช้างยกพลตามไปก็รบแพ้ขุนแผน  พระพันวษาให้ยกทัพตามไปจับตัว  ตอนนี้ขุนแผนมีดาบฟ้าฟื้น และกุมารทองแล้ว ขุนแผนเสกหญ้าเป็นหุ่นยนต์ถืออาวุธออกรบกับกองทัพหลวง จนกองทัพถูกตีแตกแม่ทัพสองคนตายในที่รบ
ขุนแผน วันทองและม้าสีหมอกหลบอยู่ในป่าหลายเดือน จนนางวันทองตั้งท้องกลางป่า  ขุนแผนนึกถึงความผิดที่รบกับกองทัพพระพันวษา จึงเข้ามอบตัวกับพระพิจิตรที่เมืองพิจิตร แล้วฝากสีหมอกไว้กับพระพิจิตร
นางวันทองไหว้ม้าสีหมอก
ระหว่างที่ขุนแผนและนางวันทองถูกคุมตัวกลับมากรุงศรีอยุธยา เมื่อมาถึงลพบุรี ขุนแผนได้ซ่อนดาบฟ้าฟื้นไว้ในโพรงต้นไทรริมน้ำแล้วร่ายคาถาปิดปากโพรงไม่ให้ใครเห็นดาบได้  และเมื่อถูกนำตัวขึ้นศาล ขุนแผนก็เล่าความจริงให้พระพันวษาฟังเรื่องที่ขุนช้างแย่งนางวันทองไป  ขุนแผนชนะคดีความกับขุนช้าง
ส่วนความผิดที่รบกับทัพหลวงทั้งยังฆ่าแม่ทัพตายไปสองคนนั้นพระพันวษาทรงยกโทษให้เพราะมีความชอบเมื่อครั้งอาสาไปรบเชียงใหม่จนได้ชัยชนะ
เมื่อมีศึกเชียงใหม่ครั้งที่สอง พลายงามลูกชายขุนแผนที่เกิดกับนางวันทองอาสานำทัพและขอตัวขุนแผนมาช่วย  ขุนแผนซึ่งติดคุกอยู่เพราะไปทูลขอนางลาวทองซึ่งถูกกักบริเวณอยู่ในวังจึงได้ออกจากคุก  ช่วยลูกชายนำทัพไปตีเชียงใหม่  ระหว่างทางได้แวะเมืองพิจิตร ขุนแผนได้พบม้าสีหมอกอีกครั้งหนึ่ง
แม้เป็นช่วงระยะเวลาที่พบกันแล้วจากกันไปนาน แต่ความผูกพันระหว่างม้าสีหมอกกับขุนแผนไม่เคยจางหาย
ยังมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ในเรื่องนี้อีก ซึ่งแน่นอนว่าสัตว์ที่ดีก็คือเจ้าม้าสีหมอก ส่วนสัตว์ร้ายที่แปลงตัวมาก็คือจระเข้เถรขวาดซึ่งได้ต่อสู้กับพลายชุมพลซึ่งเป็นลูกของขุนแผน
แต่เอาแค่นี้…เดี๋ยวจะนอกเรื่องกันไปใหญ่!!
ศาสตรา สุมาลยศักดิ์/เรียบเรียง
ภาพจากหนังสือเรื่องขุนช้างขุนแผนฉบับ ป.อินทรปาลิต
โฆษณา