ใกล้ความจริงแล้วกับยางไร้ลม อีกหนึ่งนวัตกรรมเปลี่ยนโลก มาทำความรู้จักผ่าน3แบรนด์ยักษ์ใหญ่แห่งวงการยาง
credit: magcarzine
คำว่าไม่แตก ไม่รั่ว ไม่ตำ กับยาง NPT หรือย่อมาจาก Non-Pneumatic Tire หรือ “ยางที่ไม่ใช้ลม” ดูเหมือนจะอีกไม่นานเกินรออีกต่อไป
โดยยางชนิดนี้ จะมีโครงสร้างยางที่มีลักษณะเหมือนการถัก ไม่ต้องใช้ลมเมื่อประกอบล้อ เพื่อเพิ่มความสามารถในการรับน้ำหนักให้กับล้อยาง
และในเมื่อไม่ต้องเติมลม ก็สามารถตัดปัญหาเรื่องลมรั่ว ลมอ่อน สามารถวิ่งได้บนหลากหลายสภาพพื้นผิว และหมดห่วงเรื่องของมีคมทำให้ยางแตก จนรถวิ่งไม่ได้ นั่นเองค่ะ
เริ่มกันที่แบรนด์ที่เพิ่งทดสอบสมรรถนะยางNPTกันไปหมาดๆอย่างGoodyear
credit: amarin
โดยขณะนี้ได้ยาง NPT ของ Goodyear ได้ผ่านการทดสอบแล้วเป็นระยะทางกว่า 1.2 แสนกิโลเมตร ด้วยระดับความเร็วสูงสุดที่ราว 160 กม./ชม. โดยได้มีการนำไปทดสอบกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นดัง “Tesla Model 3” ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ทั้งการขับขี่หลบสิ่งกีดขวาง เข้าโค้งรัศมีแคบ ก็สามารถทำได้โดยดี แถมรักษาระดับความเร็วไว้ได้อย่างน่าพอใจ
Goodyear ชี้แจงว่า ยางล้อนี้มีจุดประสงค์เพื่อใช้ในสถานการณ์การขับขี่แบบอัตโนมัติ เช่น ยางนี้สามารถรองรับการบรรทุกที่หนักได้ สามารถนำไปใช้สำหรับรถบัส รถโดยสารต่าง ๆ หุ่นยนต์ขนส่งของ รถขนส่งผู้โดยสารแบบไร้คนขับได้ และเหมาะกับการขับในเมือง
ด้านผู้บริหารของ Goodyear มองว่านี่เป็นก้าวสำคัญของบริษัท ในการพัฒนาวงการยานยนต์ และบริษัทมีแผนจะนำยาง NPT ออกสู่ตลาดภายในปลายปี 2030
มาต่อกันที่ Michelinแบรนด์ยางชั้นนำของโลกจากฝรั่งเศส ที่จับมือกับ“General Motors (GM)” พัฒนายางรถยนต์ไร้ลมในชื่อรุ่น “UPTIS” ซึ่งเป็นตัวย่อของคำว่า “Unique Puncture-proof Tire System” หรือ ระบบยางล้อรถยนต์กันรั่ว ที่ไม่ว่าจะเป็นตะปู เศษแก้ว หรือเศษหิน ก็ไม่สามารถทำให้ Uptis หยุดวิ่งได้
credit: thomasthailand
แถมยังแล่นฉิวได้บนหลากหลายพื้นผิวถนน พื้นถนนยางมะตอย, พื้นดิน และพื้นผิวที่ขรุขระ แบบไม่ต้องกลัวยางแตก ยางรั่วอีกต่อไป
ด้วยเทคโนโลยีที่ใช้พลาสติกเสริมใยแก้วที่มีความเหนียวสูงเพื่อรองรับดอกยาง ซึ่งมีความยืดหยุ่นและดูดซับแรงกระแทกได้ดี ซึ่งสามารถสวมทับล้อแม็กทั่วไปได้เลย
โดย Michelin ซึ่งนำเสนอนวัตกรรมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง กล่าวว่าUPTISได้ช่วยโลกประหยัดเงินและทรัพยากร จากปัญหายางเสื่อมสภาพซึ่งเกิดจากปัญหายางเสื่อม ยางแตกได้ถึง 20% คิดเป็นยาง 200 ล้านเส้นต่อปี หรือคิดเป็นน้ำหนักเท่ากับหอไอเฟลรวมกันถึง 20 แห่ง
ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งแบรนด์ยักษ์ใหญ่วงการยางล้อรถยนต์ Bridgestone จากญี่ปุ่น ก็ได้ซุ่มพัฒนายางไร้ลมของตัวเองเช่นกัน แม้จะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก แต่เอกลักษณ์ที่กินขาดเจ้าอื่น คือการเลือกใช้ “สีเขียวมะนาว” บริเวณแก้มยาง ที่นอกจากทำให้รถของคุณโดดเด่นกว่ารถคันอื่นๆ บนถนนแล้ว ยังแสดงออกถึงความใส่ใจที่คุณมีต่อสิ่งแวดล้อมด้วย โดย Bridgestone ได้กล่าวถึงข้อดีของยาง NPT ไว้ดังนี้
credit: thomasthailand
-ลดการปล่อย CO2 โดยยาง NPT ที่ Bridgestone พัฒนาขึ้นนี้จะคงรูปได้ดีขึ้น และขับเคลื่อนรถของคุณได้แบบประหยัดพลังงานมากขึ้น
นอกจากเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แล้วยังช่วยลดต้นทุนมหาศาล แถมไม่ต้องพกยางอะไหล่ให้เปลืองพื้นที่และพลังงานอีกด้วย
แม้หลายแบรนด์จะพัฒนายาง NPT และทดสอบการใช้งานจนใกล้ความเป็นจริงมากๆแล้วก็ตาม ทั้งนี้ก็ยังต้องใช้เวลาศึกษา ทดลอง และทดสอบเพิ่มเติม เพื่อให้มั่นใจในทุกๆด้านและความพร้อมใรการผลิต โดยคาดการณ์กันว่ายางไร้ลมเหล่านี้วางขายจริงได้ในช่วงปี 2024 - 2030 ไม่ใกล้ไม่ไกลนี้เองค่ะ
ยางรถยนต์เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีลักษณะภายนอกมาเป็น100กว่าปี แอดเองก็ตื่นเต้นที่จะได้เห็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนโฉมใหม่ของยางรถยนต์มากๆ หากมีข่าวอัพเดตแอดรับรองว่าจะมานำเสนอที่นี่แน่นอนค่ะ
แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะคะ
- 38
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
