2 มิ.ย. 2022 เวลา 10:25 • ประวัติศาสตร์
เรื่องราวความรักระหว่าง “นโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoleon Bonaparte)” และ “โจเซฟีน เดอ โบอาร์แน (Joséphine de Beauharnais)”
1
หากใครที่ติดตามเพจผม คงจะรู้จัก “นโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoleon Bonaparte)” เป็นอย่างดี
ผมเคยเขียนเรื่องราวของเขาเป็นตอนๆ แต่ขอเล่าย่อๆ ว่าเขาคือรัฐบุรุษและผู้นำทางทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของฝรั่งเศสและประวัติศาสตร์โลก
หากแต่บทความนี้ จะเป็นเรื่องราว “ความรัก” ของนโปเลียน
ความรักของนโปเลียนกับ “โจเซฟีน เดอ โบอาร์แน (Joséphine de Beauharnais)” ไม่มีอะไรที่เรียบง่ายปกติ แม้แต่ครั้งแรกพบ
ในปีค.ศ.1795 (พ.ศ.2338) “พอล บาร์รัส (Paul Barras)” นักการเมืองชาวฝรั่งเศสได้แนะนำให้นโปเลียนรู้จักกับโจเซฟีนเป็นครั้งแรก
ในเวลานั้น โจเซฟีนเป็นคู่รักของบาร์รัส หากแต่บาร์รัสนั้นทนกับนิสัยใช้จ่ายมือเติบของโจเซฟีนไม่ไหว และต้องการจะทิ้งโจเซฟีน
เมื่อเป็นอย่างนี้ บาร์รัสจึงคิดว่าคนอย่างโจเซฟีน น่าจะเหมาะเป็นคู่กับนโปเลียนมากกว่า
โจเซฟีน เดอ โบอาร์แน (Joséphine de Beauharnais)
นโปเลียนนั้นอายุน้อยกว่าโจเซฟีนหกปี และกำลังเป็นนายทหารดาวรุ่ง ส่วนโจเซฟีนนั้นอายุ 32 ปี เป็นแม่ม่ายที่มีลูกติดมาถึงสองคน และกำลังมองหาคู่รักที่มีฐานะร่ำรวย พร้อมที่จะจ่ายให้กับชีวิตเลิศหรูของตน
ส่วนนโปเลียน ก็กำลังมองหาหญิงจากสังคมชั้นสูง เพื่อที่ตนจะได้แต่งงานและก้าวขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่
เรียกได้ว่าทั้งสองเป็นคู่ที่เหมาะเจาะ
นโปเลียนนั้นตกหลุมรักโจเซฟีนตั้งแต่แรกพบ และหลงอย่างหัวปักหัวปำ
โจเซฟีนนั้นไม่ได้ชอบนโปเลียนตั้งแต่แรกเห็น แต่ก็เห็นได้ว่านายทหารหนุ่มผู้นี้จะสามารถเลี้ยงดูและให้ชีวิตที่เธอต้องการได้ โจเซฟีนจึงเริ่มความสัมพันธ์กับนโปเลียน โดยมีการส่งจดหมายรักหานโปเลียน
ไม่กี่เดือนหลังจากรู้จักกัน นโปเลียนก็ได้ขอโจเซฟีนแต่งงาน หากแต่ครอบครัวของนโปเลียนนั้นไม่มีใครเห็นด้วยเลย เนื่องจากโจเซฟีนนั้นเป็นแม่ม่ายลูกติด
ทางด้านโจเซฟีน เพื่อนๆ ของโจเซฟีนก็ไม่สนับสนุน เนื่องจากในเวลานั้น นโปเลียนก็เป็นนายทหารดาวรุ่งธรรมดาๆ ยังไม่ได้ก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่ และไม่น่าจะให้การช่วยเหลือโจเซฟีนได้
หากแต่โจเซฟีนมองเห็นอะไรบางอย่างในตัวของนโปเลียน
ภายหลังจากแต่งงาน นโปเลียนก็ลุ่มหลงในเซ็กส์ที่โจเซฟีนปรนเปรอให้ตน และก็ว้าวุ่นใจเมื่อต้องห่างจากโจเซฟีน
ส่วนเหล่าคนรับใช้มองว่าเซ็กส์ของทั้งคู่นั้นรุนแรงและน่าหนวกหู โดยขณะมีเซ็กส์ ทั้งคู่มักจะทำกิจกรรมกันรุนแรงจนตกเตียง และทำให้เหล่าคนรับใช้ทั้งบ้านตื่นจากภวังค์
2
จากบันทึกนั้น กล่าวว่าอวัยวะเพศของนโปเลียนนั้นมีขนาดเล็กแต่ทรงพลัง โดยมีความยาวเพียงหนึ่งนิ้วครึ่ง โดยภายหลัง มีการชันสูตรศพของนโปเลียน แพทย์ได้ทำการตัดองคชาตของนโปเลียน ซึ่งภายหลัง เศษองคชาตนี้ก็ถูกส่งต่อไปเรื่อยๆ ผ่านหลายมือ
2
ในไม่ช้า โจเซฟีนก็เริ่มจะเบื่อนโปเลียน
นโปเลียนมักต้องเดินทางไปสนามรบ ทำให้โจเซฟีนเปลี่ยวเหงา โจเซฟีนจึงมีสัมพันธ์กับชายอื่นในช่วงที่นโปเลียนไม่อยู่ ซึ่งเมื่อนโปเลียนทราบ ก็โมโหและเสียใจเป็นอย่างมาก
ภายหลัง นโปเลียนก็ได้มีหญิงอื่นเช่นกัน ทำให้โจเซฟีนหึงหวงและเกรงว่าจะเสียนโปเลียนไป จึงได้พยายามทุกทางเพื่อไม่ให้นโปเลียนทอดทิ้งเธอ ซึ่งก็มักจะจบลงด้วยเรื่องบนเตียง
ห้าปีหลังจากที่โจเซฟีนขึ้นเป็นจักรพรรดินี โจเซฟีนก็ต้องสูญเสียตำแหน่ง เนื่องจากนโปเลียนได้ขอหย่าจากโจเซฟีน สาเหตุก็เพราะโจเซฟีนมีลูกให้ตนไม่ได้
ในค่ำคืนที่นโปเลียนคุยเรื่องนี้กับโจเซฟีน ทุกคนได้ยินเสียงโจเซฟีนตะโกนลั่นด้วยความเจ็บปวด
แต่ถึงจะหย่ากัน แต่ทั้งคู่ก็ยังคงใกล้ชิดกัน และช่วยเลี้ยงลูกติดของโจเซฟีน
นโปเลียนได้แต่งงานใหม่ และมีลูกชายสมใจ หากแต่รักเดียวของนโปเลียนก็คือโจเซฟีน
ห้าปีหลังจากหย่าจากโจเซฟีน นโปเลียนก็ถึงช่วงขาลง และถูกเนรเทศไปยังเกาะเอลบาในเมดิเตอเรเนียน
ภายหลังจากนโปเลียนถูกเนรเทศได้เพียงหนึ่งเดือน โจเซฟีนก็ล้มป่วย และเสียชีวิตด้วยโรคปอดบวม
เมื่อนโปเลียนทราบข่าวการเสียชีวิตของโจเซฟีน นโปเลียนก็ขังตัวเองอยู่ในห้องเป็นเวลากว่าสองวัน และไม่ยอมให้ใครเข้ามาในห้อง
ภายหลังจากถูกปล่อยจากการกักขังที่เกาะเอลบา นโปเลียนก็ได้ไปบ้านของโจเซฟีน และเก็บดอกไม้ที่โจเซฟีนชอบ นำมาใส่ในล็อกเก็ตติดตัว และเขายังคงทำเช่นนี้เรื่อยไปจนเสียชีวิตในอีกเจ็ดปีต่อมา
นโปเลียนไม่เคยลืมโจเซฟีนเลย โดยเมื่อถึงคราวที่นโปเลียนเสียชีวิตเมื่อปีค.ศ.1821 (พ.ศ.2364) คำพูดสุดท้ายของนโปเลียนก็คือ
“ฝรั่งเศส กองทัพ โจเซฟีน”
ตลอดชีวิตผู้ยิ่งใหญ่อย่างนโปเลียน มีหญิงผู้เดียวที่อยู่ในใจของเขา นั่นก็คือ “โจเซฟีน”
1
โฆษณา