2 มิ.ย. 2022 เวลา 16:12 • ปรัชญา
เพราะทุกคนเป็นอิสระ… อิสระจากพันธนาการของปีศาจ ที่แฝงมาในคราบของความทะเยอทะยาน ที่ยืนแสยะยิ้มเลวทรามบนซากกองของความภาคภูมิในโลกจอมปลอม
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผมรู้สึกประทับใจงานเขียนของคอลัมนิสต์ชื่อดังท่านหนึ่ง เกี่ยวกับคนประเภทต่างๆ ที่สรุปออกมาตามนี้
คนประเภทที่ [ 1 ] ที่เต็มไปด้วยแพสชั่นมีชีวิตอยู่เพื่อสร้างผลงานให้ดีที่สุด
คนประเภทที่ [ 2 ] ที่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ไปอยู่จุดสูงสุดให้ได้
และ คนประเภทที่ [ 3 ] ที่ทำงานไปวันๆ แบบซังกะตาย ไม่ต่างจากซากอ้อยไร้รสชาติ หรือซากไม้ที่ตายแล้ว
ซึ่งกับบุคคลประเภทแรกที่เต็มไปด้วยแพสชั่นนี่แหละ ที่หากมีโอกาสได้ร่วมงานกันแล้ว มันจะ “ออกรสออกชาติ” ด้วยการแลกเปลี่ยนความเห็น โต้แย้งกันทางความคิด ด้วยเพียงเหตุผลเดียวนั่นก็เพื่อ “สร้างสิ่งที่สุดยอดที่สุด” ออกมาให้ได้
แต่... กับคนแบบที่สอง ก็ไม่ได้มีอะไรผิดแปลกแต่อย่างใด และแรงขับดันของคนประเภทนี้ก็ช่วยให้บริษัทหรือองค์กรก้าวหน้าได้เช่นกัน แต่ “ความมัน” ของการทำงานในบางครั้งจะถูกสลับไปกับการ “ก่อดราม่า” ที่ค่อนข้างจะกินเวลาและพลังชีวิตไปอย่างไม่จำเป็น
อย่างไรก็ตาม... ประเด็นที่น่าสนใจมากๆ คือเมื่อไม่กี่วันที่แล้ว ทุกคนคงเห็นได้ว่า คนๆหนึ่งได้แสดงจุดยืนของแพสชั่นในการทำงานอย่างเต็มที่ โดยไม่ได้ใส่ใจไปกับการโจมตีใคร เพื่อยกตัวเองให้สูงขึ้นด้วยการกดคนอื่นให้ต่ำลงเลยแม้แต่น้อย
และสุดท้าย คนๆนี้ก็ได้รับการยอบรับจากคนนับล้าน
นั่นแปลว่า คนส่วนใหญ่ในสังคม “เลิกซื้อ” พิธีกรรมอันฉาบฉวย “เล่นง่าย” แบบเก่าๆกันไปแล้ว นับได้ว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่ได้สัมผัสถึงความก้าวหน้าทางความคิดของคนเช่นนี้
เพราะภาพการเปลี่ยนแปลงนี้ มันยังเกิดขึ้นได้แม้ในระดับใหญ่ กับคนนับล้านๆ
ย้อนกลับมาในระดับเล็กอย่างองค์กร และปัจเจกบุคคลคนทำงาน ทั้งวัฒนธรรม ความคิด ความเชื่อ และจุดมุ่งหมายในการทำงาน
คงพออนุมานได้ว่า “น่าจะ“ เริ่มขยับเปลี่ยนแปลงไปใน “ทิศทางที่ดีขึ้น” แล้วด้วยเช่นกัน
โฆษณา