Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
•
ติดตาม
5 มิ.ย. 2022 เวลา 13:58 • การ์ตูน
EP : 1,069
วิทยุหลังความตาย
ว่ากันตามความสนใจแล้วโดยส่วนตัว ... มังงะแนวภูตผีวิญญาณหรือเรื่องเล่าสยอง ก็เป็นอีกแนวที่ตัวผมสนใจและหาอ่านอยู่เสมอนะครับ ซึ่งผมเชื่อว่ามังงะแนวนี้ได้รับความนิยมในตลาดการ์ตูนมากๆแนวนึง และถือว่าเป็นสายหลักที่ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร
ความนิยมในตลาดจะมูฟไปในพล็อตเรื่องแบบไหน เรื่องของภูติผีปีศาจก็ยังจะได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลายและไม่มีทางที่จะหายไปจากตลาดมังงะอย่างแน่นอน
เพราะความนิยมอย่างมากของพล็อตเรื่องแนวนี้ ผมเลยมีโอกาสได้หาอ่านแนวผีอยู่เสมอ และในบรรดาเรื่องผีที่มีหลากหลายการนำเสนอ ด้วยเนื้อหาและพล็อตเรื่องที่ออกโทนน่ากลัวแบบจริงจังนั้น มังงะเรื่องที่ผมกำลังจะรีวิวอยู่ตอนนี้ ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมชอบมากๆ
ด้วยสไตล์การนำเสนอเป็นเรื่องสั้นร้อยเรียงสลับกันไปบนไทม์ไลน์ที่ชวนสับสน แต่สัมพันธ์กันด้วยแก่นของเรื่องอย่างที่เรียกความสนใจของนักอ่านอย่างผมได้อย่างไม่น่าเชื่อ
บทสรุปของความเกี่ยวข้องที่ชวนสยองได้แม้เราจะยังไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวข้องกันอย่างไร คือจุดเด่นที่เรื่องนี้สามารถนำเสนอและสื่อสารออกมาได้อย่างแตกต่าง จนเกินที่นักอ่านแนวนี้จะมองข้ามและไม่สนใจมันได้ และนี่คือเรื่องที่ผมจะมารีวิวให้อ่านกันครับกับเรื่อง “วิทยุหลังความตาย”
...ขณะที่เธอ..กำลังจะเดินทางกลับบ้าน ด้วยรถไฟตามปกติของการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่แบบนี้ อยู่ๆ เธอก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติ... ภาพสะท้อนตัวเธอจากกระจกข้างคนนั่ง ระหว่างรถไฟวิ่งนั่น ทำไมถึงสะท้อนภาพตัวเธอที่ “ไม่มีผม” อยู่บนหัวล่ะ? และทันใดทันทีที่เธอเริ่มสงสัยในสิ่งที่เห็น
ผมของเธอก็ถูกดึงอย่างแรง จนสร้างความเจ็บปวดให้กับเธออย่างเฉียบพลัน ใครกันที่ดึงผมเธอ แต่ระหว่างนั้นอยู่ๆ ภาพความทรงจำในวัยเด็กของเธอกับยายที่บ้านนอก ก็แทรกขึ้นมา “เธอต้องตัดผมอีกครั้งตอนอายุ xx และ xx อย่าลืมนะ ไม่อย่างนั้นท่านเกศาจะมาทวง....”
ว่าแต่ทำไมเธอจำไม่ได้ว่าท่านเกศาคือใคร และอายุ xx นั้นคือเมื่อไหร่ .. นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความสยองที่เกิดขึ้นมากมายกับใครหลายๆคน ในหลายๆพื้นที่ แต่ทั้งหมดเชื่อมโยงกันอย่างไม่น่าเชื่อใน “วิทยุหลังความตาย”
ด้วยความที่เรื่องนี้มีวิธีการเล่าที่ชวนงงเอามากๆ ทำให้ต้องออกตัวก่อนว่า สิ่งที่ผมกำลังเล่าอยู่นี้เกิดจากความเข้าใจส่วนตัวของผมนะครับ หากมันผิดจากความเป็นจริง ต้องขออภัยด้วยนะครับ
อย่างแรกที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ วิธีการเล่าเรื่องนี้มีความโดดเด่นและชวนงงเป็นอย่างมากครับ ด้วยสไตล์การเล่าเรื่องแบบสั้นๆ กับเหตุการณ์สยองต่างๆมากมาย ที่เรียกว่าไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไม่มีที่มาที่ไป อะไรคือจุดเริ่มต้นของเรื่อง และลงท้ายแบบห้วนๆ นี่คือวิธีการเล่าที่จะมีไปตลอดทั้งเรื่อง เพราะแบบนั้นเรื่องนี้จึงแตกต่างจากเรื่องอื่นๆด้วยการใช้สไตล์การเล่าในแบบนี้ครับ
ซึ่งถ้าพูดถึงเฉพาะการเล่าแบบนี้ แม้จะไม่ใช่อะไรที่ใหม่ของวิธีการเล่าในมังงะที่ผ่านมา แต่การที่ยึดวิธีนี่ไปตลอดทั้งเรื่อง เป็นอะไรที่ไม่ค่อยเจอครับ ส่วนใหญ่มักจะใช้ในตอนแรกก่อนจะกลับเข้าสู่วิธีการเล่าแบบต่อเนื่องเป็นส่วนใหญ่ อาจจะเป็นเพราะเนื้อเรื่องจะต้องซับซ้อนหรือกันการสับสนเนื้อหาที่เริ่มลึกขึ้น หลายๆเรื่องจึงเลือกวิธีการเล่าแบบนี้ใช้เฉพาะแค่ในช่วงแรกเท่านั้น
แต่เรื่องนี้กลับใช้วิธีนี้เล่าไปทั้งเรื่องเลย เลยเป็นอะไรที่แปลกเอามากๆครับ แล้วถ้าถามว่า อ่านรู้เรื่องไหม สำหรับผมแล้วก็ต้องบอกว่า “รู้เรื่องครับ”
ที่บอกว่ารู้เรื่องผมคิดว่าผมเข้าใจนะครับ ส่วนหนึ่งเลยก็คือแม้จะใช้วิธีการเล่าแบบหาที่มาที่ไปในตอนแรกไม่ได้และใช้เนื้อหาแบบสั้นๆไม่กี่หน้าในแต่ละตอนเท่านั้น แต่ก็ยังอ่านรู้เรื่องและเข้าใจ ก็เพราะไทม์ไลน์ที่เราได้อ่าน ผมว่า อ. ผู้เขียนเขาวางแผนไว้ให้อยู่แล้ว ว่าต่อให้เริ่มต้นเรื่องด้วย ลำดับที่ 20 และวิ่งไปที่ 50 แล้วค่อยมาเล่าที่ 9 ต่อ
อย่างไรก็รู้เรื่องด้วยการวางแผนในการเล่ามาตั้งแต่ต้นครับ ผมเปรียบเหมือนจิ๊กซอว์ที่แม้จะถูกแยกเอาไว้ แต่ถ้าได้คนที่ช่วยหยิบที่มีประสบการณ์ส่งให้เราทีละตัว ต่อให้มันไม่ได้ลำดับเป็น 1 2 3 สุดท้ายผมก็เชื่อว่าเราก็จะต่อจิ๊กซอว์ให้เป็นภาพสมบูรณ์ได้ เพราะแบบนั้นผมมองว่าด้วยการเรียงตอนให้อ่านแบบนี้ ผมก็ยังเข้าใจเนื้อหาและความเชื่อมโยงที่เกิดขึ้นมากระดับนึงเลยทีเดียว
ผมว่าเป็นความท้าทายอย่างมาก กับการเล่าเรื่องราวโดยวิธีนี้ไปตลอดทั้งเรื่องนะครับ ซึ่งต้องยอมรับว่าทำออกมาได้น่าสนใจและชวนให้คนอ่านอย่างผมตามอ่านเป็นอย่างมาก แต่ไม่ใช่แค่วิธีการเล่าที่ทำออกมาได้น่าสนใจ น่าติดตามเท่านั้น ส่วนอื่นๆก็ยังคงทำออกมาได้ดีเช่นกันครับ
อย่างการเล่าภายใต้กรอบเรื่องสั้น หากตัดวิธีการเล่าที่ไม่ได้เป็นตอนต่อกันออกไป ตัวเนื้อเรื่องแต่ละตอนในเรื่องนี้ที่ใช้หน้ากระดาษราวๆ 6 หน้า(3แผ่น) จนถึง 20 หน้า+-(10แผ่น) ก็ยังคงสิ่งสำคัญของเรื่องราวการนำเสนอเกี่ยวกับผีและวิญญาณเช่นเดิม นั้นก็คือการสื่อสารให้เห็นถึงความน่ากลัว ด้วยบรรยากาศ หรือโทนของเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ถ้าวัดกันแค่จุดนี้ ก็ทำออกมาได้ดีมากๆแล้วครับ
หลายเรื่องเล่าแล้วผมเครียดเลย ด้วยหน้ากระดาษไม่เยอะนี่แหละ และแม้บางตอนจะไม่รู้ที่มาที่ไปว่าสิ่งนั้นมันเกิดจากอะไร(ไปรู้ทีหลังในตอนอื่น) แต่วัดแค่ความน่ากลัว เนื้อหาในแต่ละตอนที่สั้นๆก็สามารถทำให้ผมรู้สึกแบบนั้นได้ ความอึมครึม อึดอัด เครียด กับสิ่งที่ตัวละครได้เห็น หลายครั้งมันยิงได้เข้าเป้าความรู้สึกผมเป็นอย่างมาก โดยที่ผมมองข้ามรายละเอียดสำคัญที่หลายๆเรื่องต้องมี
แต่เรื่องนี้ไม่มีก็ไม่เป็นไร ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่า เขาทำได้ทั้งความน่ากลัวในแบบฉบับของมังงะสายผี และความน่าสนใจด้วยวิธีการเล่า ที่ยิ่งอ่าน เราจะยิ่งเข้าใจ ถึงสาเหตุและที่มาที่ไปของเรื่องราว ที่แม้ตอนอ่าน ผมจะยังสงสัยอยู่ก็ตาม บางครั้งความสงสัยใคร่รู้ในเรื่องราวก็อาจจะแพ้ความน่ากลัวของเรื่องราวที่ผมกำลังได้อ่านอยู่ นี่เป็นความรู้สึกที่หลายๆเรื่องทำออกมาไม่ได้ครับ
ความน่ากลัวที่ได้อ่านในแต่ละตอน ผมว่าผู้แต่งเขาร้อยมันเข้ากันได้เป็นอย่างดีนะครับ ถือว่ามีฝีมือในการวางวิธีการเล่า และไทม์ไลน์ในแบบที่ต้องการเล่าได้เป็นอย่างดี เพราะอย่างที่บอกว่าสุดท้ายแล้วเมื่อเราอ่านไปเรื่อยๆเราจะเข้าใจถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ที่เราได้อ่านไป
แม้จะเป็นตอนที่อ่านไปก่อนหน้านี้ 10 ตอนก็ตาม แต่นั่นผมคิดว่าขึ้นอยู่กับนักอ่านแต่ละคนด้วยนะครับ เพราะผมยอมรับว่าการที่บอกว่าอ่านรู้เรื่องเข้าใจในสิ่งที่เรื่องเล่า แต่หลายครั้งที่ต้องหยุดคิดว่าตัวละครในตอนนี้ใช่คนจากตอนนั้นหรือเปล่า เพราะใช่ว่าเขาจะใส่รายละเอียดเพื่อการเชื่อมต่อเอาไว้ทุกจุดทุกแบบให้เราเข้าใจง่าย ส่วนใหญ่ก็ยังรู้สึกว่ามันห้วนๆ อยู่ดีครับ
แต่ในความห้วนๆ มันมีอะไรที่เราเชื่อมต่อเองได้โดยไม่ต้องลงรายละเอียด เพราะแบบนั้นเลยคิดว่า จะอ่านเข้าใจมากน้อยหรือไม่อย่างไรต้องแล้วแต่ แต่ละคนด้วยครับ
และสิ่งที่ขาดไปไม่ได้สำหรับเฉพาะตัวผมก็คือเรื่องเหตุและผลครับ แม้นี่จะเป็นเรื่องผี ซึ่งมีความแฟนตาซีสูงอยู่แล้วก็ตาม แต่โดยส่วนตัว หากขาดซึ่งเหตุและผล แม้จะเป็นในรูปแบบเหตุและผลเฉพาะเรื่องก็ตาม แต่หากสามารถใส่ลงไปให้ลงตัวได้ มันจะเพิ่มความสนุกและรู้สึกคล้อยตามไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ไม่ยากครับ
ซึ่งเรื่องนี้ให้เหตุผลต้นขั้วส่วนนึงไว้ดีมาก เหมาะกับการใช้กับสิ่งลี้ลับแบบนี้ครับ ยิ่งอ่านยิ่งคล้อยตาม แม้ในเหตุและผลที่ว่า ตัวเรื่องจะบอกเอาไว้ว่ามันไม่ใช่เหตุและผลที่เข้าใจได้ในแง่ของมนุษย์ทั่วไปก็ตาม
แต่ผมโอเคมากๆกับเหตุผลที่เรื่องให้ไว้ เพราะมันเป็นเรื่องลี้ลับที่เกินจะที่มนุษย์จะเข้าใจในหลักเหตุและผลทุกอย่างได้ ซึ่งสำหรับเรื่องนี้แล้ว มันเป็นสิ่งที่ทำให้ “ต้นเหตุ” ของเรื่องมีน้ำหนัก ชวนให้คนอ่านอย่างผมเชื่อได้อย่างดีครับ
รวมถึงวิธีการนำเสนอในเล่มที่หยิบภาพปริศนามาคั้นระหว่างตอน โดยภาพนั้นจะค่อยๆถูกซูมออกไปเรื่อยๆ ซึ่งภาพนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับตัวละครสำคัญในตอนนั้น ซึ่งนอกจากจะทำให้เราลุ้นว่าภาพนี้แท้จริงคือภาพอะไรแล้ว ภาพที่เลือกมาใช้ยังน่ากลัวด้วยลักษณะการวาดชวนขนลุกไม่น้อยอีกด้วยครับ ผมว่านี่เป็นวิธีการนำเสนอในเล่มที่เหมาะสมและทำออกมาได้ดีสอดคล้องกับพล็อตของเรื่องมากครับ
แน่นอนครับ ตั้งแต่แรกเห็น ผมคิดว่าสิ่งที่ช่วยผลักดันให้วิธีการเล่าแบบนี้น่าติดตาม รวมถึงเนื้อหาในแต่ละตอนดูน่ากลัวอย่างที่ต้องการเล่านั้น ส่วนสำคัญมากๆก็ด้วย “ลายเส้น” ในเรื่องที่ต้องทำหน้าที่สำคัญเป็นตัวสอดประสานและเป็นตัวการสำคัญในมังงะแบบนี้ครับ แม้แรกเห็นผมจะรู้สึกว่าลายเส้นเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรมากเท่าไหร่นัก
แต่ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่า มันโครตดีเลย งานทั้งละเอียดในแต่ละฉากแต่ละตอนที่นำเสนอ ถูกใจสายภาพใส่รายละเอียดเยอะๆแบบผมมาก แม้บางภาพจะดูทั่วไปแต่สังเกตดีๆ เขาอัดแน่นลายเส้นมาให้อย่างจุใจเลยครับ เรียกว่ายิ่งเห็นรูปจากงานนี้ไปเรื่อยๆ จะถูกสะกดและกลัวไปกับสิ่งที่นำเสนออย่างไม่ต้องสงสัยครับ ใช่ครับ และการวาดสิ่งลี้ลับออกมาในเรื่องก็ดีไซน์ให้ออกมาได้ดีมากๆเช่นกัน
ด้วยหน้าในบางตอนน้อย การวาดที่ดีจะทำให้หน้าน้อยๆไม่ใช่ประเด็นที่ต้องเป็นห่วง เพราะมันก็สามารถสื่อสารให้เข้าถึงความกลัวได้ด้วยหน้าน้อยๆนี้เช่นกัน ส่วนตัวผมชอบทุกรายละเอียดและดีไซน์ในเรื่องนี้มากๆ
มันไม่ได้สวยด้วยลายเส้นตั้งแต่ได้เห็น หรือไม่ได้น่าขยะแขยงด้วยภาพอันน่าสะอิดสะเอียดที่วาดลงมา แต่มันน่ากลัวและน่ากลัวมากๆ ด้วยการใส่รายละเอียและดีไซน์ภาพการนำเสนอด้วยบรรยากาศที่ควรจะเป็นในมังงะสายสยองแบบนี้ครับ ยกนิ้วให้เลย
“วิทยุหลังความตาย” เรื่องและภาพโดย อ.Masaaki Nakayama ซึ่งตอนนี้ออกมาทั้งหมด 6 เล่ม ยังไม่จบนะครับ โดย สนพ LC อย่าง Bongkoch ครับ ซึ่งค่ายนี้มีการ์ตูนดีๆ ที่เรายังไม่ได้สนใจหรือหามาอ่านเยอะมาก ชอบค่ายนี้มากครับ
เพราะถ้าเทียบราคาต่อเล่มแล้วค่ายนี้ยังถือว่าเป็นงาน LC ที่ราคาดีต่อใจที่สุดในตอนนี้นะครับ ซึ่งเรื่องนี้ เหมือนเขาใช้กระดาษกรีนรีดแล้วด้วย ในราคาที่ 65-70 บาทอยู่เลยครับ และในเซ็ทนี้ผมชอบการออกแบบขอบปกอ่อนทั้ง 2 ด้านมากๆที่ใช้ภาพในเล่มมาต่อกันให้เป็นภาพเดียวกันได้ ส่วนตัวแนะนำให้รีบหาอ่านเพื่อเพิ่มยอดในทันทีครับ มันน่าอ่านจริงๆครับ
อ้อ ที่สำคัญท้ายเล่มบางเล่มจะมีประสบการณ์ที่ทำงานเก่าของ อ. เขาที่ใช้เขียนเรื่องนี้แล้วพบเรื่องน่ากลัวที่ส่งผลต่อ อ. และคนรอบข้างอย่างมากด้วยนะครับ ขอบอกว่าน่ากลัวเอามากๆ อ่านแล้วเครียดเลย เป็นของแถมในเล่มที่น่าสนใจมากๆครับ
แม้ว่า ณ เวลานี้ผมอาจจะยังไม่เข้าใจกับการใช้ชื่อเรื่องว่า “วิทยุหลังความตาย” ว่ามันเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องราวในเล่มก็ตาม และผมก็ยังรู้สึกว่าในเล่มน่าจะมีบางตอนที่เป็นเรื่องราวเฉพาะที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวหลัก เพราะดูแล้วน่าจะไม่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งในอนาคตมันอาจจะถูกเฉลยด้วยเนื้อเรื่องที่กำลังรอลงให้อ่านกันในเล่มหน้าๆก็ตาม แต่ด้วยความสัดจริง
นี่คือเรื่องที่ผมชอบมากๆ ในยุคนี้เลย กับแนวภูตผีปีศาจแบบเพียวๆ ที่ไม่ได้หยิบไปผสมกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ ตามสมัยนิยม ซึ่งหาไม่ค่อยได้ในยุคนี้แล้วนะครับ ยิ่งสไตล์การเล่าที่ทำออกมาแบบนี้อีกด้วยแล้วนั้น หายากยิ่งกว่ายากอีกครับ แต่ก็นั่นแหละ
ก็ทำให้เรารู้ว่า อ. มีฝีมือดีแค่ไหน เพราะนอกจากจะวัดกับคนดูด้วยวิธีการเล่าที่ไม่ได้ต่อเนื่องแบบนี้ให้ออกมาต้องน่าติดตาม ไม่งง และคนอ่านไม่ด่าแล้ว ยังต้องใช้วิธีนี้สื่อสารถึงความน่ากลัวที่เป็นหัวใจสำคัญหลักๆของงานแนวเหนือธรรมชาติแบบนี้ให้ได้ด้วย ซึ่งเขาทำได้ และทำออกมาได้ดีเอามากๆ
ทำให้สำหรับผมแล้ว เรื่องนี้ ถ้าวัดกันที่เนื้อเรื่องเพียวๆ ก็ยังจัดให้อยู่ในระดับสูงของความสนุกในแบบที่ต้องการ หรือจะวัดกันในแง่วิธีการนำเสนอก็ยืนอยู่ในอันดับต้นๆ ของวิธีแปลกที่ทำออกมาได้ดีเลยครับ
และหากวัดกันที่ลายเส้นเพียวๆ คิดว่าเรื่องนี้ไม่น้อยหน้าเรื่องผีเรื่องไหนจากท่านอื่นเช่นกัน องค์ประกอบดีๆครบถ้วนอย่างนี้ แฟนมังงะผี ห้ามพลาด ผมเตือนแล้วนะครับ ว่าห้ามพลาด ขนาดนี้ก็หวังว่าทุกท่านจะไม่มองข้ามเรื่องนี้ไปอย่างเด็ดขาดนะครับ ผมไหว้ละ ของดีจริง ซื้อเหอะครับ please…..
*** คะแนนที่ให้ไว้นี้สำหรับอ่านเล่ม 6 จบเท่านั้นหากอนาคตได้มีโอกาสอ่านเรื่องนี้จนจบ จะกลับมารีวิวและให้คะแนนใหม่อีกครั้งนะครับ ***
ภาพ 9.8/10
เรื่อง 9.8/10
ความประทับใจ 9.8/10
.
อ่านรีวิวเรื่องอื่นๆที่ทางเพจเคยรีวิวไว้มีกว่า 1,000 กว่าเรื่องตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ.
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1803100219800016&id=998161640293882
.
#Manga #รีวิวการ์ตูน #ยังไม่จบ #BongkochComics #การ์ตูนแนวภูติผีปีศาจ #การ์ตูนแนวลึกลับ #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวสยอง #9คะแนน #วิทยุหลังความตาย #หนังสือการ์ตูน #Rate15
1 บันทึก
2
4
1
2
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย