8 มิ.ย. 2022 เวลา 00:01 • ไลฟ์สไตล์
#ไม่รู้ไม่ได้ป่ะ อารมณ์โกรธสร้างผลเสียในชีวิตหลายด้านแบบคาดไม่ถึง😡👎
การจัดการความโกรธ ด้วยการหยุดสิ่งที่กำลังทำ แล้วนึกย้อนถึงสิ่งที่ทำให้มีความสุข
เมื่อไหร่ก็ตามหากรู้สึกว่าตนเองกำลังพบเจอกับเรื่องที่ทำให้โกรธสุด ๆ ให้หยุดทำในเรื่องดังกล่าวทันที รวมถึงหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ออกไปให้ห่างจากสถานการณ์ดังกล่าว จากนั้นลองนึกถึงเรื่องราวดี ๆ ในอดีตที่เคยเกิดขึ้น เช่น อาจนึกถึงสิ่งดี ๆ ที่บุคคลผู้นั้นเคยทำเอาไว้, นึกถึงสิ่งที่บริษัทเคยมอบหมายโอกาส ฯลฯ จะทำให้รู้สึกถึงความผ่อนคลาย ซึ่งก็เป็นเทคนิคการจัดการความโกรธที่จะช่วยให้ใจเย็นและมีสติมากขึ้น
การจัดการความโกรธด้วยวิธีหายใจเข้า-ออกให้สุด
เป็นเทคนิคง่าย ๆ ที่จะจัดการกับความโกรธได้อย่างดีเยี่ยม และถือเป็นวิธีพื้นฐานซึ่งเชื่อว่าหลายคนเคยนำไปใช้ โดยสังเกตหรือไม่ว่าวิธีนี้ช่วยให้อารมณ์ของคุณเบาลงได้จริง นั่นเพราะเมื่อเราเริ่มหายใจเข้า-ออกให้สุดสมาธิและความคิดจะจดจ่ออยู่กับลมหายใจ และบรรเทาอารมณ์ที่เคยฉุนเฉียวก่อนหน้าเอาไว้นั่นเอง
นับ 1-10 ในใจเพื่อให้อารมณ์เย็นลง
จะมีลักษณะคล้าย ๆ กับวิธีหายใจเข้า-ออก แต่เหมาะกับสถานการณ์ที่กำลังโกรธ โมโหอย่างหนัก ซึ่งแค่การหายใจไม่กี่ครั้งอาจยังไม่รู้สึกดีขึ้น การนับ 1-10 ในใจช้า ๆ จะช่วยให้สมองละจากความคิดที่กำลังโมโหอย่างหนักเอาไว้ชั่วคราว เมื่อเริ่มดึงสติของตนเองกลับมาได้อารมณ์ที่กำลังฉุนเฉียวก็เบาลง ช่วยให้สถานการณ์ต่าง ๆ ดีขึ้น
ไตร่ตรองด้วยสติและเหตุผล
การจัดการความโกรธวิธีนี้อาจต้องอาศัยหลักของเหตุผลเข้ามาช่วย จึงเหมาะกับคนที่มีพื้นฐานด้านเหตุผลเป็นทุนเดิม เมื่อเห็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกโกรธ ลองคิดทบทวนด้วยสติของตนเองว่า หากไปโมโหหรือใช้อารมณ์รุนแรงกับบุคคลหรือสิ่งของมันถูกต้องแค่ไหน แล้วมีวิธีแก้ไขเรื่องนี้อย่างไรบ้าง หากคิดได้ด้วยเหตุผลทุกอย่างก็จะคลายความกังวลและอารมณ์ก็จะเย็นลงด้วย
เมื่อโกรธจัด ๆ ลองดื่มน้ำเย็น ๆ ให้ชื่นใจ
อาจดูเป็นเรื่องที่แปลกแต่มันช่วยได้จริง เมื่อไหร่ก็ตามหากรู้สึกกำลังมีความโกรธแบบสุด ๆ ให้เดินไปหาน้ำเย็น ๆ มาดื่มสักแก้วเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย พอร่างกายได้รับอะไรเย็น ๆ เข้าไปจากอารมณ์ที่กำลังร้อนแรงจะช่วยให้ผ่อนคลายลงได้ในระดับหนึ่ง
หรือในระหว่างที่ดื่มน้ำก็คิดทบทวนถึงสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นว่ามาจากอะไร และควรแก้ไขอย่างไรให้เหมาะสมมากที่สุด คงไม่มีใครชอบหากจะระบายอารมณ์โกรธออกมาเป็นกริยา ท่าทาง คำพูด หรือพฤติกรรมแย่ ๆ
ฝึกความอดทนของตนเองให้มากพอ
การจัดการความโกรธวิธีนี้ต้องอาศัยความอดทน อดกลั้นอย่างหนัก ซึ่งเข้าใจดีว่ากับหลาย ๆ สถานการณ์มันเป็นเรื่องยากมาก แต่ให้ลองย้อนคิดกลับไปว่า พื้นฐานคนเราไม่มีใครชอบให้คนอื่นมาดุด่าว่ากล่าว แม้แต่ตัวเราเองก็ไม่ชอบเช่นกัน ดังนั้นเมื่อเริ่มสัมผัสได้ถึงอารมณ์โกรธที่เกิดขึ้น
ลองคิดว่านี่คือวิธีฝึกความอดทนอีกรูปแบบที่ไม่ต้องใช้ร่างกาย แต่เป็นการใช้พลังใจล้วน ๆ หากผ่านไปได้เรื่องราวใด ๆ ที่เข้ามาในชีวิตก็จะไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลใจอีกต่อไป
ปลดปล่อยอารมณ์นั้นออกมาเลย
อีกวิธีสำหรับการจัดการความโกรธที่ตอบโจทย์มาก ๆ คือ ปลดปล่อย ระบายอารมณ์นั้น ๆ ออกมาเลย ซึ่งเราจะพบเห็นได้บ่อย หากพยายามทำด้วยวิธีต่าง ๆ แล้วก็ยังรู้สึกว่าอารมณ์นี้ไม่ยอมหายไปเสียที อย่างไรก็ตามการปลดปล่อยให้ออกมาก็ต้องอยู่บนพื้นฐานแห่งความถูกต้อง
ไม่ระรานหรือสร้างความเสียหายให้กับบุคคลหรือสิ่งของ หลายคนจึงมีวิธีระเบิดอารมณ์ที่ต่างกันออกไป เช่น ไปออกกำลังกายหนัก ๆ, หาของอร่อย ๆ ทาน หรืออาจแค่ขยำกระดาษทิ้ง ทุบกำแพง ฯลฯ เมื่อได้ทำสิ่งเหล่านี้อารมณ์จะผ่อนคลายขึ้น
ปรับนิสัยของตนเอง
นี่อาจไม่เชิงเป็นเทคนิคการจัดการความโกรธตรง ๆ นัก แต่หากใครรู้ว่าตนเองเป็นคนมีนิสัยโกรธง่าย เห็นอะไรขัดตาก็หงุดหงิดไปหมด บางทีมันอาจมาจากนิสัยของตนเองที่ควรต้องปรับแก้ไข อย่าให้โลกหมุนรอบตัวเรา แต่ควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติบ้าง ทุกคนมีอุปนิสัย การกระทำ ความคิดไม่เหมือนกัน ดังนั้นจะให้ทุกคนทำทุกสิ่งถูกใจหมดคงเป็นเรื่องยาก เมื่อปรับคนอื่นไม่ได้ก็คงต้องเริ่มปรับที่ตนเองดีที่สุด
ติดตาม Papa Expert ได้ที่
Website - papaexpert.com
โฆษณา