#living #forward
การเลือกตั้งครั้งแรกของกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา หลังจากสภาวะเงียบที่ครอบงำประเทศไทยมาหลายต่อหลายปี ก่อให้เกิดสึนามิทางการเมืองและก่อให้เกิด after shock ที่น่าสนใจ!!!
การเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ไม่ใช่แค่ส่งผลต่อคนกรุงเทพและผู้ที่อาศัยในกรุงเทพเท่านั้น แต่ส่งผลต่อคนในจังหวัดอื่น ๆ ที่มีความประสงค์และมีความปรารถนาอยากจะใช้สิทธิใช้เสียงในการกำหนดทิศทางการพัฒนาในพื้นที่ของตนเอง
ตามที่ นิด้าโพล ได้ทำการสำรวจ "ความพร้อมในการมีผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากการเลือกตั้ง" ผลของการสำรวจระบุว่า จำนวน 47.84% มีความพร้อมในการเลือก อีก 28.80% ที่ตอบค่อนข้างพร้อม เราจึงเห็นคำตอบกว่า 75% ที่มีความปรารถนาอยากจะกำหนดทิศทางตัวเอง ในการกำหนดงบประมาณ โครงสร้างการบริหาร ความคล่องตัวในการตัดสินใจ ฯลฯ อีกทั้งมีอีกหลายเพจที่นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งเราก็เห็นด้วยกับการกระจายอำนาจ
แม้ว่าเจตนาของรัฐธรรมนูญประสงค์จะให้เกิดการกระจายอำนาจ แต่ก็ยังไม่สามารถเกิดเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยข้ออ้างใดใดก็ตาม อาทิ การหวงอำนาจของส่วนกลาง (ส่วนกลางมักจะบอกว่าพร้อมมาก แต่ท้องถิ่นไม่พร้อม) ความไม่พร้อมของท้องถิ่น (ท้องถิ่นบอกว่าพร้อมมาก แต่ส่วนกลางไม่ยอมปล่อย) หรือปัจจัยใดก็ตามที
หลังจากเราได้ผ่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมาหลายยุคสมัย มีจิตสำนึกประชาธิปไตยในการเลือกตั้ง ถ้าเลือกผิดก็รอไปอีก 4 ปี กว่าผู้ว่าจะหมดวาระ ค่อยเลือกใหม่ (น่าสงสาร ความรู้สึกเหมือนต้องเสี่ยงดวงและลุ้นหวย)
เราค้นพบว่า แม้ว่าการเลือกผู้ว่าราชการของตนจะมีข้อดี แต่เส้นทางก็ไม่ได้ปูด้วยกลีบกุหลาบอันสวยงาม เพราะระเบียบการบริหารราชการที่เป็นอุปสรรคในหลาย ๆ ประการ ขนาดองค์กรที่เทอะทะ ความซ้ำซ้อนกับบทบาทของส่วนกลางหลายอย่าง จนนโยบายและงบก่อให้เกิดปัญหาและข้ออ้างของผู้ว่า กทม หลายท่านที่ผ่านมา (ทุกท่านคงได้รับทราบตามข่าวทั่วไป)
เราได้บทเรียนที่น่าสนใจ จากการบริหารงานกรุงเทพและพัทยา ข้อดีข้อเสีย หรือถ้าจะให้พูดจริง ๆ ก็คือ เราได้เห็นบทเรียนจากหน่วยงานราชการท้องถิ่นที่ปกครองอยู่ในปัจจุบันนี้ ที่มีอุปสรรค ข้อจำกัด และความเสี่ยงในหลายอย่างอยู่แล้ว และเราเชื่อว่ามีหลายท่านไม่พอใจ ถึงเป็นที่มาว่าอยากจะเลือกผู้ว่าราชการจังหวัดเอง
สิ่งที่แต่ละท้องถิ่นน่าจะหารือและเตรียมในขณะนี้คือ
กรณีเราได้เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเอง โครงสร้าง นโยบาย กฎหมายแบบไหน การจัดสรรงบประมาณแบบไหน ที่รองรับการตัดสินใจของท้องถิ่น
องค์ประกอบใดที่ กรุงเทพมหานคร (ในฐานะมหานครขนาดใหญ่) และพัทยา (ในฐานะเมืองขนาดกลาง) นั้นมีและเป็นสิ่งที่ดี ควรแก่การนำมาประยุกต์ใช้ สิ่งใดที่กรุงเทพมหานครและพัทยาไม่มี แต่ท้องถิ่นเราควรจะมี การตรวจสอบ การติดตามงานผู้ว่าราชการควรจะเป็นแบบไหน ที่ไม่ต้องรอให้อยู่ 4 ปี หรือไม่ต้องรอให้เขาต้องมาลาออกเอง
เพราะเมื่อเรายอมรับการพัฒนาก็จะมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง ท้องถิ่นน่าจะถอดบทเรียนของกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยาออกมา (น่าจะมีงานวิจัยหรือการเสวนาในเรื่องนี้อยู่พอสมควรเพื่อให้เป็นรากฐานในการพัฒนา)
และสร้างแนวคิด ฉันทามติของท้องถิ่นว่านี่คิดทิศทางที่เราอยากก้าวไปด้วยกัน เพื่อไม่ให้เราตกหล่มการพัฒนาที่ กรุงเทพมหานคร และ พัทยา พบเจอ
มิเช่นนั้นจะกลายเป็นหนีเสือปะจระเข้ ไม่สามารถสร้างพื้นฐานของประชาธิปไตยได้จริงคือ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค ได้อย่างแท้จริง
แทนที่จะเปลี่ยนรวยกระจุก จนกระจาย ภายใต้การบริหารส่วนกลาง ให้มีความเท่าเทียม กลายเป็นโยกความรวยกระจุก จนกระจาย มาบริหารภายใต้องค์กรปกครองท้องถิ่นแทน อีกทั้งเพื่อแสดงถึงความพร้อมของท้องถิ่นให้ส่วนกลางได้เห็นว่า หมดเวลาของการหวงอำนาจไว้แล้ว ควรจะกระจายตามเจตนาของรัฐธรรมนูญเสียที
ที่สำคัญ The Owls City ขอเป็นส่วนหนึ่งร่วมสนับสนุนให้เกิดการหารือและผลักดันให้ทุกคนมีพื้นที่และโอกาสในการพัฒนา
#ปลดล็อกท้องถิ่น
#กระจายอำนาจ #ผู้ว่าราชการจังหวัด
ถ้าที่ไหนมีการหารือกันแล้วมาเล่าให้ฟังด้วยนะ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
