8 มิ.ย. 2022 เวลา 14:00 • ธุรกิจ
-- 5 สิ่งที่อย่าหาทำ ถ้าไม่อยากเจ๊งไปก่อนเวลาอันควร --
จากกการที่อยู่ในตลาดร้านอาหารนี้มากว่า 5 ปี เห็นร้านอาหารที่เกิดใหม่มาก็เยอะ ล้มหายตายจากไปก็เยอะ บางแบรนด์เริ่มต้นมาได้เป็นอย่างดี ยอดขายเติบโตหลายร้อยล้าน แต่สุดท้ายกลับเจ๊งไปในระยะเวลาไม่กี่ปี จากมีเป็นสิบๆ สาขาตอนนี้เหลือเพียง 1-2 สาขา เท่านั้น ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น ?
แล้วจะทำยังไงให้ร้านอาหารเราเติบโตอย่างยั่งยืนได้ ?
ไม่มีคำตอบที่เป็นสูตรสำเร็จตายตัวครับ แต่อย่างน้อยหากคุณไม่อยากเจ๊งไปก่อนเวลาอันควร คุณควรเลี่ยงการหาทำทั้ง 5 ข้อนี้ละกัน มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1. อย่าโลภให้มาก
หลายร้านพอเริ่มเปิดสาขาแรกขายดีมาก เลยตัดสินใจขยายสาขาสอง สาขาสามทันที เพราะยิ่งมีสาขาเยอะเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสสร้างกำไรมากเท่านั้น
จนลืมคิดไปว่าการขยายสาขาที่เร็วเกินไป ก็เหมือนกับการรีบๆ สร้างบ้านให้เสร็จโดยไม่คิดถึงโครงสร้างว่าแข็งแรงดีหรือยัง พอวันนึงมีลม มีพายุ มีน้ำท่วม บ้านหลังนั้นที่โครงสร้างไม่แข็งแรงก็ล้มพังครืนลงมา
ไม่ต่างอะไรกับการทำร้านอาหาร ที่หากคุณเร่งขยายเพราะความโลภที่อยากได้เงินมากๆ โดยไม่สนวางระบบร้านให้แน่น สร้างทีมงานให้พร้อมก่อน วันนึงที่โดมิโน่ตัวแรกมันล้มมันก็พาพาตัวอื่นๆ ล้มลงไปทั้งหมดด้วย
1
2. อย่าทำร้านแบบเสียมากไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้
ทุกวันนี้เราไม่ได้ทำร้านเพราะอยากได้เพียงตัวเงินเพียงอย่างเดียว เราทุกคนอยากได้หน้าด้วย เราอยากทำร้านที่สวยพอที่เราจะสามารถถ่ายรูปลงออนไลน์ได้ว่านี่คือร้านของเรา อยากทำร้านที่เรากล้าที่จะพาเพื่อนมาทานที่ร้านที่เราสามารถอวดได้
2
ทำให้คนยุคนี้กล้าที่จะลงทุนแต่งร้านเป็นจำนวนเงินที่มาก กล้าจ้างดีไซเนอร์แพงๆ มาออกแบบร้าน โดยที่เค้าไม่สนเลยว่า Over budget ไปเท่าไหร่แล้ว และลงไปขนาดนี้จะคืนทุนจริงๆ รึเปล่า
ยิ่งคุณลงทุนทำร้านมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้คุณมีโอกาสที่จะคืนทุนช้าลงเพิ่มขึ้นเท่านั้น
สิ่งที่คุณควรจะต้องทำคือการประมาณตนว่าลงทุนแค่ไหนถึงจะพอดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ไม่ใช่หมายถึงไม่ต้องลงทุนเลยนะ แต่ลงทุนให้สวยเพียงพอที่จะดึงลูกค้าเข้าร้าน และนำเงินส่วนที่เหลือเก็บไว้เป็นเงินสดสำรองในการทำการตลาดหรือใช้ในยามฉุกเฉินแทน
1
3. อย่าทำร้านโดยสนใจแต่ประโยชน์ส่วนตัว จนละเลยลูกค้าและสังคม
ไม่ผิดครับที่คุณจะทำร้านอาหารขึ้นมาเพื่อต้องการกำไร แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าคุณเป็นร้านอาหารที่สร้างกำไร แต่ไม่มีใครรัก และเมื่อไหร่ที่คุณทำผิดพลาดแทนที่ลูกค้าจะให้อภัยและช่วยเหลือคุณ เค้ากลับจะเหยียบคุณซ้ำเพราะคุณไม่เคยช่วยเหลืออะไรเค้าหรือสังคมเลย
แต่เมื่อไหร่ที่คุณได้ Profit แล้วลองกลับมาย้อนดูว่าคุณสามารถให้อะไรกับ People ซึ่งก็คือพนักงานหรือลูกค้าคุณได้บ้าง และคุณจะให้อะไรกับ Planet ซึ่งหมายถึงโลกและสังคมที่คุณอยู่ได้บ้าง จะทำให้แบรนด์คุณเป็นแบรนด์ที่มีคนรักมากขึ้น และพร้อมจะสนับสนุนไปตลอด
ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเอากำไรที่ได้ไปบริจาคตามที่ต่างๆ แต่หมายถึงคุณสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานและลูกค้าคุณได้อย่างไร เช่น คุณเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพที่ดีขึ้น วัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ หรือให้สิทธิ์ลูกค้าได้รู้ถึงที่มาของวัตถุดิบ
ในขณะเดียวกันคุณอาจช่วยสังคมได้ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบบางส่วนที่ปลูกหรือผลิตโดยคนในชุมชน นอกจากเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนแล้ว ยังช่วยทำให้ชุมชนที่คุณอยู่เติบโตขึ้นอีกด้วย
4. อย่าตัดสินอะไรด้วยความรู้สึก แต่จงตัดสินใจจากข้อมูล
พื้นฐานที่สำคัญของการทำร้านอาหารคือ ความรู้ความเข้าใจในธุรกิจร้านอาหารอย่างแท้จริง ไม่มีทางที่คุณจะทำร้านให้ประสบความสำเร็จโดยปราศจากข้อมูลหรือความรู้ไปได้เลย
ต่อให้การปรุงอาหารจะเป็นเหมือนศิลปะ แต่แท้จริงแล้วมันแฝงไปด้วยระบบและข้อมูลมากมายอยู่เบื้องหลังด้วยกันทั้งสิ้น อย่างการที่คุณจะทำข้าวผัดกระเพรามา 1 จาน มันต้องผ่านการกำหนดสเปกวัตถุดิบที่ดี ต้องผ่านการถอดสูตรวัตถุดิบออกมาเป็นกรัมซะก่อน ต้องมี SOP ในการทำอาหารที่ถูกต้อง ถึงทำให้ข้าวผัดกระเพราะจานนั้นออกมาได้ถูกต้องทั้งรสชาติและปริมาณ
รวมถึงไปการตัดสินใจในเรื่องอื่นๆ ด้วย ที่ไม่ควรใช้ความรู้สึกเข้ามาตัดสิน คุณจะสามารถใช้สัญชาตญาณหรือความรู้สึกในการตัดสินอะไรก็ตามได้ก็ต่อเมื่อคุณมีประสบการณ์กับสิ่งๆนั้นมามากพอแล้ว
แต่ถ้าคุณยังเป็นมือใหม่ในธุรกิจนี้ คุณจงทำการเก็บข้อมูลและนำมาวิเคราะห์เพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจในทุกครั้งและทุกเรื่อง จะลดโอกาสในการตัดสินใจที่ผิดพลาดลงไปได้มาก
5. อย่าเอาตัวรอดเพียงคนเดียว
อยากไปใกล้ให้ไปคนเดียว อยากไปไกลให้ไปหลายคน จะมีประโยชน์อะไรถ้าคุณเติบโต แต่คุณไม่เหลือใครข้างๆ กายเลย อย่าคิดที่จะเอาตัวรอดไปเพียงคนเดียว หากคุณเติบโตไปได้ดีแล้ว จงพาเพื่อนในธุรกิจอื่นๆ เติบโตไปพร้อมกับคุณด้วย
ทุกวันนี้การที่คุณจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนจำเป็นที่ต้องมีเพื่อน มีพันธมิตร ไม่มีใครที่จะเก่งคนเดียวไปได้ตลอด การที่คุณสามารถเปลี่ยนจากคู่แข่งขัน มาเป็นเพื่อนในธุรกิจแล้วร่วมกันแบ่งปันได้ ถือเป็นการลดคู่แข่งและเพิ่มทีมงานคุณให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
เมื่อไหร่ที่คุณสามารถสร้างคอมมูนิตี้ทางธุรกิจที่คุณอยู่ได้ เปรียบเสมือนคุณเป็นปลาเล็กที่รวมตัวกันเป็นปลาฝูงใหญ่ เป็นเสมือนเกราะกำบังเวลาภัยอันตรายเข้ามา และเพื่อไปสู้กับปลาตัวใหญ่ที่ต้องการที่จะเข้ามากินคุณ
#torpenguin #ต่อเพนกวิน #เริ่มทำธุรกิจ #อยากทำธุรกิจ #เทคนิคร้านอาหาร #เปิดร้านอาหาร #ความรู้ร้านอาหาร #ร้านอาหาร #ธุรกิจ #ทำธุรกิจ #business #restaurant #restaurantmanagement
โฆษณา