• สั้นกว่านี้มีอีกมั้ย?
'วาซา' เรือรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสวีเดน แต่กลับลอยเหนือน้ำแค่ 20 นาทีเท่านั้น
ช่วงต้นศตวรรษที่ 17 สวีเดนภายใต้การนำของพระเจ้ากุสตาฟที่ 2 อดอล์ฟ (Gustav II Adolf) พระองค์ต้องการให้สวีเดนเป็นชาติมหาอำนาจของยุโรป
หนึ่งในสิ่งที่จะวัดได้ว่า ชาติไหนเป็นมหาอำนาจในตอนนั้น ก็คือการมีเรือรบ สวีเดนต้องแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อควบคุมทะเลบอลติก
พระเจ้ากุสตาฟที่ 2 อดอล์ฟ กษัตริย์แห่งสวีเดน (ครองราชย์ 1611-1632)
ดังนั้นในเดือนมกราคม 1625 กษัตริย์ผู้ได้รับฉายา 'ราชสีห์แห่งทิศเหนือ' (Lion of the North) จึงลงนามว่าจ้างนายช่างเรือชาวดัตช์นามว่า เฮนริค ไฮเบิร์ตส์สัน (Henrik Hybertsson) ให้สร้างเรือรบจำนวน 4 ลำด้วยกัน
โดยหนึ่งในนั้น จะต้องเป็นเรือรบที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในยุโรปหรืออาจจะของโลก เรือลำนี้ถูกตั้งชื่อว่า 'วาซา' (Vasa) ตามชื่อราชวงศ์ของพระเจ้ากุสตาฟ
เรือวาซาเริ่มต้นสร้างในปลายฤดูหนาวปี 1626 ที่อู่ต่อเรือในกรุงสตอกโฮล์ม แต่ไม่นานหลังจากนั้น แกนหลักสำคัญอย่างไฮเบิร์ตส์สันเกิดล้มป่วยและเสียชีวิต ไฮน์ จาคอบส์สัน (Hein Jakobsson) ผู้ช่วยของเขารับหน้าที่ดูแลการสร้างเรือต่อไป
ท้ายที่สุดเรือวาซาอันทรงพลัง ก็สร้างเสร็จในปี 1627 โดยมันมีความยาว 69 เมตร มีความสูงจากกระดูกงูถึงยอดเสาเรือ 50 เมตร มีใบเรือ 10 ใบ บรรจุปืนใหญ่อีก 64 กระบอก น้ำหนักรวมทั้งหมดของเรืออยู่ที่ 1,200 ตัน
งานแกะสลักไม้ตราราชลัญจกรของพระเจ้ากุสตาฟ
แต่ดูเหมือนจะยังหนักไม่พอ เพราะยังมีการติดประติมากรรมที่แกะสลักจากไม้ บอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์สวีเดน รวมถึงติดตราราชลัญจกรของพระเจ้ากุสตาฟอีกด้วย
วันที่ 10 สิงหาคม 1628 ชาวสวีเดนหลายพันคนก็ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวเรือวาซา แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า วันนี้จะเป็นวันแรกและวันเดียวที่พวกเขาจะได้ยลโฉมเรือรบลำนี้
เพราะหลังจากที่เรือวาซาแล่นออกจากอู่ต่อเรือได้แค่ 1 กิโลเมตรกว่า ๆ ลมกระโชกแรงก็ทำให้เรือเกิดเอียงขึ้นมา น้ำจำนวนมากไหลทะลักเข้าสู่ท้องเรือ และเพียง 20 นาทีหลังจากเรือวาซาแล่นออกมา มันก็ได้จมลงต่อหน้าต่อตาชาวสวีเดน
ลูกเรือราว 150 คนที่อยู่บนเรือวาซาว่ายน้ำเอาชีวิตรอด แต่มีอย่างน้อย 30 คนที่โชคร้ายจมน้ำเสียชีวิต ความภาคภูมิใจของสวีเดน ตอนนี้ได้จมดิ่งสู่พื้นน้ำความลึกกว่า 32 เมตรแล้ว
เรือวาซาจมต่อหน้าต่อหน้าชาวสวีเดน
ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้น?
ก่อนหน้าที่จะปล่อยเรือ ซอฟริง แฮนส์สัน (Söfring Hansson) ผู้รับหน้าที่เป็นกัปตันเรือวาซา พร้อมด้วยลูกเรือและบรรดาช่างต่อเรือที่สร้างเรือลำนี้ พวกเขาทั้งหมดต่างรู้ดีว่า เรือลำนี้จะต้องมีปัญหาแน่ ๆ
เรือวาซามีน้ำหนักมากเกินไปกว่าที่โครงสร้างของมันจะรับได้ ทีมงานที่สร้างเรือก็ไม่เคยมีประสบการณ์สร้างเรือที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน
การวางแผนที่ผิดพลาด การขาดประสบการณ์ และการยัดนู่นยัดนี่ใส่ไปในเรือจนเกินความจำเป็น ทั้งหมดคือปัจจัยที่ทำให้เรือวาซามีชะตากรรมที่จบแบบนี้
กัปตันแฮนส์สันเคยทำการทดสอบว่า เรือวาซาจะสามารถทรงตัวและมีอาการโคลงเคลงหรือเปล่า โดยเขาสั่งให้ลูกเรือ 30 คน วิ่งไปวิ่งมาบนเรือ ผลปรากฏว่า เรือวาซาเกิดอาการเอียงจนเห็นได้ชัด จนเกือบจะพลิกคว่ำคาอู่ต่อเรือ
กัปตันแฮนส์สันนำสิ่งที่เกิดขึ้น ไปแจ้งกับพลเรือโท คลาส เฟลมิ่ง (Klas Fleming) ผู้แทนของพระเจ้ากุสตาฟ แต่เฟลมิ่งรวมถึงคนอื่น ๆ กลับไม่มีใครกล้าพูดเรื่องนี้กับพระเจ้ากุสตาฟเลย
หลังจากเกิดเรื่อง พระเจ้ากุสตาฟทรงพิโรธอย่างมาก พระองค์สั่งให้จัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาคนผิดมารับผิดชอบ หลังการสอบสวน หวยก็ตกไปที่ผู้วางแผนสร้างเรือตอนแรกอย่าง เฮนริค ไฮเบิร์ตส์สัน แต่เมื่อไฮเบิร์นส์สันเสียชีวิตไปก่อนหน้านั้นแล้ว สุดท้ายจึงไม่มีใครต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้
เรือวาซาจมดิ่งอยู่ใต้พื้นน้ำยาวนานกว่า 333 ปี ก่อนที่จะมีการขุดซากเรือขึ้นมาในปี 1961 ปัจจุบันเรือวาซาได้ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ Vasa Museum กรุงสตอกโฮล์ม โดยมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากแวะมาเยี่ยมชม ในฐานะเรือที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่ที่สุดของชนชาติสวีเดน
ซากเรือวาซาในพิพิธภัณฑ์ Vasa Museum
*** Reference
• Britannica. Vasa Swedish warship. https://bit.ly/3xBoRBs
• Vasa Museet. https://bit.ly/3Om0TzJ
• Travel Notes & Beyond. https://bit.ly/3H4YfeY
• Smithsonian Magazine. The Bizarre Story of ‘Vasa,’ the Ship That Keeps On Giving. https://bit.ly/3MOIdrb
#HistofunDeluxe
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
