13 ก.ค. 2022 เวลา 06:00 • หนังสือ
You can’t rush art
คุณปู่อีวานเป็นช่างทำไวโอลินชั้นสูง ตระกูลคลาลิสโซ่ของคุณปู่เป็นช่างทำไวโอลินมาช้านานตั้งแต่สมัยเรเนซองส์ ทวดของทวดของทวดคุณปู่อีวานเป็นช่างทำไวโอลินประจำตัวพระราชาอิตาลี ลูกของทวดของทวดของทวดก็เป็นช่างทำไวโอลินให้กับราชารุ่นต่อมาเช่นกัน
ตระกูลคลาลิสโซ่ของคุณปู่ขึ้นชื่อเรื่องความละเมียดละไม ละเอียดละออ และความใส่ใจในการทำไวโอลินเป็นพิเศษ ในเวลาหนึ่งปีตระกูลคลาลิสโซ่จะทำไวโอลินออกมาเพียงหนึ่งตัวเท่านั้นเนื่องจากเหตุผลสำคัญที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น
“You can’t rush art”
นายจะเร่งงานศิลปะไม่ได้เด็ดขาด ตั้งแต่ปี 1570 จนถึงปัจจุบัน ตระกูลคลาลิสโซ่จะทำไวโอลินหนึ่งตัวทุกปีๆ ไม่น้อยกว่านั้น ไม่มากกว่านั้น หนึ่งตัวเท่านั้นในแต่ละปี
แรกเริ่มนั้นไวโอลินของตระกูลคลาลิสโซ่เป็นที่ต้องการของขุนนางและชนชั้นสูงทั่วไปทั้งยุโรป ช่างทำไวโอลินตระกูลคลาลิสโซ่จะเข้าป่าไปเลือกไม้ด้วยตัวเอง ต้องเป็นไม่ที่ไม่แข็งเกินไป ไม่อ่อนเกินไป มีวงปีที่สูง ลายไม้ที่สวย สีไม้ที่พอดี แต่ละส่วนของไวโอลินต้องการไม้คนละชนิดกันตามความเหมาะสมของส่วนต่างๆ
คันชักไวโอลินก็เช่นกัน ต้องตรงแด่ว ขนาดเท่ากันทั้งก้าน หางม้าที่เลือกมาก็ต้องเป็นหางม้าแข่งหนุ่มวัยกลัดมันเท่านั้น ทำให้ขั้นตอนในการเลือกวัตถุดิบก็กินเวลาไปกว่า 3 เดือนแล้ว
อีก 9 เดือนที่เหลือช่างตระกูลคลาลิสโซ่จะให้ในการตัดไม้ให้พอดีไม่ขาดไม่เกินไปแม้แต่มิลลิเมตรเดียว ประกอบร่างไวโอลิน เหลาหัว แกะสลักลาย ลงสีผสมวานิช และเก็บรายละเอียด
หากทำพลาดไปแม้แต่จุดเดียว ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นทั้งหมด เพราะจะทำให้เสียงคลาดเคลื่อนไป และที่สำคัญที่สุด ต้องทำตอนที่มีอารมณ์ศิลป์เท่านั้น หากยังไม่มี ช่างต้องออกไปเดินเล่นพักผ่อน ชมนกชมไม้ ดูโอเปร่า ฟังเพลงคลาสสิกในวังก่อน เพราะเหตุผลสำคัญ
“You can’t rush art”
เหตุนี้เองเสียงไวโอลินของช่างตระกูลคลาลิสโซ่จึงถูกขนานนามว่าเสียงแห่งสวรรค์ที่พระเจ้าประทานมาให้ ไม่มีใครสามารถทำไวโอลินได้มีเสียงเพราะเท่าเทียมกันกับตระกูลคลาลิสโซ่อีกแล้วในโลกใบนี้
หลายร้อยปีผ่านล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน แม้กาลเวลาล่วงเลยแต่ชื่อเสียงของตระกูลยังคงอยู่ แต่อนิจจังช่างไวโอลินตระกูลคลาลิสโซ่หลงเหลืออยู่เพียงคนเดียวนั้นคือคุณปู่อีวาน ไม่ใช่ว่าคุณปู่ไม่พยายามถ่ายทอดวิชาการทำไวโอลินให้ลูกหลานแต่อย่างใด
คุณปู่พยายามสอนทั้งโนเอลลูกชายคนเดียวของครอบครัวก็แล้ว ฮันเซลกับอีฟริด หลายชายฝาแฝดก็แล้ว แต่ไม่มีใครมีความอดทนพอที่จะทำไวโอลินเพียงหนึ่งตัวต่อปีได้ คุณปู่จึงเลิกล้มความตั้งใจไป เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ
“You can’t rush art”
ราคาไวโอลินของตระกูลคลาลิสโซ่ในปัจจุบันแตะหลักร้อยล้าน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาด ทุกคนจะรุมกันประมูลไวโอลินของคุณปู่อีวานทุกครั้งที่ปล่อยออกมา แต่ยิ่งนับวันไวโอลินของคุณปู่ยิ่งออกมาช้าลงทุกที จากปีละตัว เป็น 3ปีตัว 8ปีตัว จนปัจจุบัน 15 ปีเข้าไปแล้ว ยังไม่มีปล่อยออกมาสักที ผู้คนเริ่มสงสัยว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
คุณปู่ให้สัมภาษณ์ว่าด้วยร่างกายที่ชราลง ทำให้ทำงานฝีมือไม่ถนัด ตัดเบี้ยวบ้าง ลงสีพลาดบ้าง ต้องเริ่มทำใหม่ทั้งหมดอยู่บ่อยๆ แต่ไวโอลินที่ออกมาต้องเนี้ยบไม่มีจุดด่างพร้อยแน่นอน ขอให้รอเวลากันต่อไป และจงจำเอาไว้
“You can’t rush art”
บ่ายวันหนึ่งมีคนพบศพคุณปู่อีวานอยู่ในท่านั่งตัดไวโอลิน สภาพศพดูผอมซูบเหมือนคนอดอาหาร และจากผลการชันสูตรพบว่าคุณปู่อีวานเสียชีวิตเนื่องจากอดตายจริงๆ ดูเหมือนว่าเงินเก็บของคุณปู่อีวานจะไม่เหลืออยู่เลยแม้แต่จะซื้ออาหารมายาไส้ เพราะนิสัยใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายตามภาษาคนชั้นสูง พอไม่มีรายได้จากการขายไวโอลินเป็นสิบปี เงินที่เก็บไว้ก็เริ่มร่อยหรอลง จนกระทั่งไม่มีจะกินและอดตายในที่สุด
ตำรวจหลายคนเกิดข้อสงสัยเพราะเขาเห็นเศษซากไวโอลินตั้งหลายตัวที่ใกล้เสร็จในห้องทำงานของคุณปู่อีวาน ทำไมคุณปู่ถึงไม่เอาไวโอลินเหล่านี้ออกมาขายยาไส้ไปก่อนเล่า จะได้มีชีวิตรอด เหล่าแฟนคลับของคุณปู่ก็หัวเราะออกมาพร้อมกันหลังจากได้ยินคำถามนั้นจากในโทรทัศน์ คำตอบนั่นง่ายนิดเดียว
“You can’t rush art”
เด็กชายความสุข 13/7/2022
ปล.1 ตัวละครในเรื่องเป็นเรื่องสมมุติทั้งสิ้น
ปล.2 ถ้าถามว่าทำไมเด็กชายความสุขไม่เขียนลงเพจบ่อยๆ ก็คงตอบได้แค่ว่า
“You can’t rush art”
1
โฆษณา