• หากจะให้เลือกสัก 1 คำถึง ดาร์วิน นูนเยซ ผมขอใช้คำว่า “penetration” หรือ “ทะลุทะลวง”
• ความหมายของมันมีได้ทั้ง “โพสิทีฟ” และสามารถเป็น “เนกาทีฟ” ได้เช่นกัน
• ความสามารถในการทะลุทะลวง แน่นอนมัน คือ ความดุดัน (aggression), รวดเร็ว (speed) และอาจจะแข็งแกร่ง (strength) ตรงตามคอนเซปต์ของลิเวอร์พูลยุค เยอร์เกน คลอปป์ ที่นักเตะควรจะต้องมี “คุณสมบัติ” เหล่านี้เป็นพื้นฐานเพื่อจะเล่นฟุตบอล 4-3-3 แบบลิเวอร์พูลได้
• ในมุม “ลบ” หากใครได้ชมคลิปที่กำลังแพร่สะพัดในโลกออนไลน์ตอนนี้แบบใจเป็นกลางเสียหน่อย หรือไม่ “เห่อ” มากไปนักก็จะเห็นความ “ไม่เนียน” แทรกอยู่บ้างในทักษะ, เทคนิค การเล่น
• เช่น ประตูลากไป “สับขา” หลบ เอริค การ์เซีย แบบโรนัลโด ก่อนตัดในไปยิงผ่าน อันเดร แทร์ สเตเกน ใน UCL ที่เจอบาร์เซโลน่า ก็จะเห็นว่า เก้ ๆ กัง ๆ สับขาไม่ได้ว่องไว (คือ ไม่ได้อยากเปรียบเทียบกับทั้งโด้ บราซิล และโด้ โปรตุเกส นะ) แบบเนียนเป็นธรรมชาติ
• หรือ นี่น่าจะเป็น VDO ไฮไลต์แรก ๆ ที่ผมได้เห็นช็อตการเล่นไม่จบแทรกอยู่มากมาย ประมาณจับบอลสวย, หลบได้คนสองคน, โหม่งเช็ด หรือทำชิ่ง 1-2 ฯลฯ แล้วตัดไปอีกช็อตโดยไม่ใช่ช็อตเต็มแบบ assist หรือทำประตูได้ หรือแค่ได้จบการเล่นเพลย์นั้น ๆ แบบจบกระบวนท่า
• นั่นแหละครับที่สามารถมองได้ว่า 80 +20 ล้านยูโร หรือประมาณ 85 ล้านปอนด์เต็ม ๆ ดูเหมือนจะทำให้ลิเวอร์พูลได้แค่นักเตะที่มี “ศักยภาพ” จะก้าวเป็น lone striker ที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกเท่านั้น
• ราคานี้ไม่ได้การันตีตัวจริง ไม่ได้การันตีความสำเร็จ ทั้งที่ควรจะ “การันตี” ได้
• นูนเยซ ยังไม่ใช่ และไม่ถึงเลเวลของ คิเลียน เอมบัปเป และเออร์ลิง ฮาลันด์ แม้วัยใกล้กัน 22 ปี หรือยี่สิบต้น ๆ
• และไม่ถึง แฮร์รี เคน, โรเบิร์ต เลอวานดอฟสกี้ หรืออาจจะรวม ดูซาน วลาโฮวิช ด้วยอีกคน
• อย่างไรก็ดี เขาดีกว่า “เทพ” ดิว็อค โอริกี้ และน่าจะสวมตำแหน่ง “ซูเปอร์ซับ” ไปก่อนได้สบาย และด้วยความชื่นชมส่วนตัวจาก คลอปป์ และจูเลียน วอร์ด กับงานดึงนักเตะจากลีกโปรตุเกสคนที่ 2 ต่อจาก หลุยส์ ดิอาซ ก็น่าจะทำให้ “อุ่นใจ” ได้ประมาณหนึ่ง
• ทั้งนี้ “ค่าตัว” จะถูก หรือแพง? นอกจากเรา ๆ ท่าน ๆ ประเมิน ประมวล และรู้สึกกันแล้ว
• สิ่งสำคัญที่สุดไม่ได้อยู่แค่ เบนฟิกา กับความสามารถในการขายนักเตะออกไปหลังปั้นไม่นาน เช่น เคสนี้, เจา เฟลิกซ์ (127 ล้านยูโร), รูเบน ดิอาส (68), เอแดร์สัน (40), เนมันยา มาติช (21), วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ (32), แอกเซล วิตเซล (34) ฯลฯ
• แต่เป็นว่า ลิเวอร์พูล เองรู้สึกว่า แพงหรือเปล่า? กับการจะทุบสถิติซื้อของสโมสรแทนที่ เวอร์จิล ฟาน ไดต์ (76) ที่ยังครองสถิติค่าเหนื่อยสูงสุดของสโมสรอีกด้วย
• อย่างไรก็ดีกับค่าเหนื่อยแค่วีคละ 100,000 ปอนด์ที่น้อยกว่า ฮาลันด์ ไปแมนฯซิตี้ ต้องมี 3 เท่ากว่า (375,000 ปอนด์ต่อวีค หรือสูงสุดในลีกเทียบเท่าเกรด โรนัลโด, เดอ บรอย และเด เกอา) ขณะที่ค่าตัวฮาลันด์หากจัด add-on เข้าไปจนครบก็จะไม่ต่างกับ 100 ล้านยูโรของ นูนเยซ
• ดังนั้น หากเทียบกันแล้ว แพ็คเกจค่าเหนื่อยฮาลันด์จะแพงกว่าประมาณปีละ 13 ล้านปอนด์ หรือ 5 ปีก็ประมาณ 60 ล้านปอนด์ อันจะทำให้ “แพ็คเกจ” นูนเยซ vs ฮาลันด์ ต่างกันอย่างมาก หรืออย่างน้อย ๆ ก็ต้องมี 50-60 ล้านปอนด์ภายใน 5 ซีซั่น
• ผมอธิบายแบบนี้ เพื่อให้ได้เห็น “ทั้งภาพ” แต่ไม่ได้จะพูดว่า อันไหนถูก หรือแพง
• เพราะหากราคาสูงแต่คุ้ม มันก็คือ “ถูก”
• แต่หากถูกต่อให้แค่ 10 ล้านยูโร แต่เล่นไม่ได้ มันก็คือ “แพง” ได้เหมือนกัน
• สุดท้าย หากเรามามองที่ “อนาคต” ผมแอบมองว่า วิธีการพุ่งแบบ penetrate เข้าทำ ทำให้นึกถึง รุด ฟาน นิสเตอรอย นิด ๆ
• รูปร่าง แบบนี้ตอนเด็ก ๆ 187 เซนติเมตร ดูเหมือน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (195) ที่ตอนหลังตัวหนาขึ้น (โรนัลโด โปรตุเกส ก็เช่นกัน) และในอนาคตเรามีสิทธิ์ได้เห็นนูนเยซในเวอร์ชั่นแบบนั้น...ซึ่งดี
• วิธีการเล่นได้ทั้งตัวเป้า, วิ่งหลังไลน์ หรือพักหน้าไลน์ จะทำให้หงส์แดงได้ตัวนักเตะรูปร่างดีที่เล่นได้เหมือนนักเตะรูปร่างเล็ก
• มากกว่านั้น “ความเร็ว” ที่ดูเหมือนไม่เร็ว แต่จริง ๆ แล้วคือ เร็ว น่าจะเป็น “อาวุธลับ” อีกประการในร่างกายที่ใหญ่ที่ไม่ควรจะมีความเร็วได้ขนาดนั้น
• เทคนิค และทักษะ (หรือการใช้ “เท้าซ้าย”) ผมขอดูยาว ๆ ว่าจะพัฒนาไปได้แค่ไหน และแบบใคร แต่ยิง “เน้นแรง” แทบจะ “อีขวา” ข้างเดียวแบบนี้ทำให้นึกถึง กาเบรียล บาติสตูตา อยู่เหมือนกัน
• อย่างไรก็ดี ผมใช้คำว่า “นึกถึง” แต่ทว่า ดาร์วิน นูนเยซ จะ “ไปถึง” จุดต่าง ๆ แห่งความสำเร็จหรือเปล่าในอนาคต เราต้องติดตามกันครับ
☕ณัฐวุฒิ ประเทืองศิลป์
#ไข่มุกดำ
#KMDAnalysis
#ดาร์วินนูนเยซ
#ลิเวอร์พูล
#liverpool
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
