นักธุรกิจรัสเซีย ซื้อแมคโดนัลด์ทุกสาขา เอามาเปลี่ยนโลโกใหม่
ก่อนหน้านี้แมคโดนัลด์ได้หยุดธุรกิจในรัสเซีย แต่ใครจะไปคิดว่ามีนักธุรกิจชาวรัสเซียคนหนึ่งขอซื้อทุกสาขาจากแมคโดนัลด์ และมาวันนี้เขาได้ทำการเปิดตัวโลโกใหม่ ซึ่งจะเปิดร้าน 15 สาขาแรกในวันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน นี้
โลโกใหม่ในรูปสื่อถึง เบอร์เกอร์ 1 ชิ้น และเฟรนช์ฟรายส์ 2 ชิ้น ประกอบกันเป็นรูปตัว M ซึ่งคนไทยอาจจะมองว่าคล้ายโลโกของ MOS Burger
โดยก่อนหน้านี้แมคโดนัลด์ได้หยุดดำเนินการไปในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และได้ประกาศว่าจะถอนธุรกิจออกจากรัสเซียในเดือนพฤษภาคม
แต่แล้วก็มีนักธุรกิจชาวรัสเซียชื่อ Alexander Govor ซึ่งเป็นเจ้าของร้านแมคโดนัลด์ 25 แห่งในประเทศเซอร์เบียอยู่แล้ว ได้เจรจาขอซื้อแมคโดนัลด์ทั้งหมด 847 สาขาในรัสเซีย
โดยนักธุรกิจคนนี้สัญญาว่าจะจ้างงานพนักงานรัสเซียทั้ง 62,000 คนต่อไปอย่างน้อย 2 ปี และแมคโดนัลด์สามารถซื้อกิจการกลับคืนได้ภายใน 15 ปี
มาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่า ถ้านักธุรกิจคนนี้ได้กิจการแมคโดนัลด์ 847 สาขาในรัสเซียไป ร้านนี้จะยังขายดีเหมือนเดิมหรือไม่
เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นในรูปแบบคล้ายกันในประเทศไทยมาแล้ว โดยที่หลายคนอาจยังจำได้ นั่นก็คือ Pizza Hut กับ The Pizza Company
โดยตอนเริ่มแรก บริษัทไมเนอร์ได้ขอซื้อแฟรนไชส์ Pizza Hut เข้ามาดำเนินกิจการในไทยในปี พ.ศ. 2523 และขยายกิจการเรื่อยมา
เมื่อ Tricon เจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์ Pizza Hut ในตอนนั้น เห็นว่าธุรกิจในประเทศไทยกำลังไปได้สวย Tricon จึงต้องการเอา Pizza Hut มาบริหารเอง
เรื่องนี้ถึงขนาดนำไปสู่การฟ้องร้องเป็นคดีความ ซึ่งสุดท้ายแล้วบริษัทไมเนอร์ก็เลยปั้นแบรนด์พิซซาแบรนด์ใหม่ขึ้นมาเอง โดยใช้ชื่อว่า “The Pizza Company” และเปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2544
ซึ่งตอนนั้นหลายคนคิดว่าทุกคนจะหันไปทาน Pizza Hut แต่จริง ๆ แล้วทางไมเนอร์มีข้อได้เปรียบคือ มีหน้าร้าน มีครัว มีพนักงานเดิม และก็มี know-how ในการทำธุรกิจอยู่แล้ว ซึ่งสามารถเปลี่ยนป้ายจากแบรนด์ Pizza Hut เป็น The Pizza Company ได้ทันที
ในทางกลับกัน Pizza Hut ต้องมานั่งเปิดสาขาเองใหม่ทั้งหมด ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการนานมาก
และนั่นก็คือ จุดเริ่มต้นของสงครามพิซซา ระหว่าง 2 ค่าย ในประเทศไทย นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ถ้าดูจากเคสของพิซซาในประเทศไทย ร้านเบอร์เกอร์ใหม่ในรัสเซีย ก็อาจจะยังขายได้ ถ้าหากร้านใหม่นี้สามารถรักษารสชาติ รักษาคุณภาพ และบรรยากาศของร้านให้ดีได้
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นแบบนี้ก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะในประเทศไทยมีอีกกรณีที่คล้ายกัน นั่นก็คือ บริษัทเสริมสุขมีช่องทางจำหน่ายเครื่องดื่มที่แข็งแกร่งในประเทศไทย ที่เมื่อก่อนได้สิทธิ์ในการจำหน่ายเครื่องดื่มเป๊ปซี่
ต่อมาบริษัทเป๊ปซี่จากต่างประเทศเอากลับไปจำหน่ายเอง ส่วนเสริมสุขได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในชื่อ est Cola
และหลังจากนั้นเราก็คงรู้กันดีว่า เป๊ปซี่ กับ est Cola ใครขายดีกว่ากัน
เรื่องนี้ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า ร้านเบอร์เกอร์ใหม่ในรัสเซีย จะเป็นแบบไหน
แบบ The Pizza Company หรือ est Cola
แล้วเพื่อน ๆ คิดว่าเป็นแบบไหน ? แสดงความคิดเห็นกันได้ใต้โพสต์นี้
- 62
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
