11 มิ.ย. 2022 เวลา 09:54 • ปรัชญา
เราสูงขึ้นได้ (อีก)
ตอน รักในสิ่งที่ทำ หรือ ทำในสิ่งที่รัก ดีกว่ากัน
สวัสดีท่านผู้อ่านที่รักในการพัฒนาตนเองทุกท่าน สำหรับ EP นี้ผมอยากเขียนจากประสบการณ์ที่ได้มีโอกาสในการโค้ชเยาวชนไปจนถึงผู้ใหญ่หลายท่านและทั้งสองวัย หรือไม่ว่าจะวัยไหนก็ตาม (ส่วนใหญ่คือวัยที่ยังไม่เก๋าเกินไปคือยังทำงานอยู่ครับ) ก็จะประสบปัญหาคล้ายๆ กันที่เกี่ยวกับเรื่องานก็ คือ ความรู้สึกว่าไม่ได้ชอบในงานที่ทำอยู่
ต้องบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่งานคือสิ่งที่คนทั่วไปไม่ชอบโดยพื้นฐานครับ เพราะงานคือความตึงเครียดในระดับนึง หรืออาจะเป็นความน่าเบื้อน่าเบื่อ ก็เป็นได้ แต่ที่แน่ๆ เราต้องลงมือทำมันเพื่อเลี้ยงชีพครับ
ดังนั้นเอง คำถามที่ว่าสนุกกับงานได้ไหม หรือเปลี่ยนไปหางานที่รักชอบดีจึงเป็นปัญหาโลกแตก เพราะคำว่างานที่ชอบ จนถึงปัจจุบันนี้เราเองกายังไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืองานอะไร (ฮา) แต่ที่แน่ๆ งานเบา งานสบาย ได้เงินเยอะ ไม่มีจ้า (หากมีช่วยคอมเมนท์ใต้ Article ได้เลยนะด่วนเลย 555)
ถ้าถามถึงรากของที่มาในเรื่องนี้ ทางผู้เขียนเองต้องขอแชริ่งให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องในวัยเด็กสักหน่อยครับ เพราะถือว่าเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้ปกครองในเรื่องการเลี้ยงลูกได้บ้างไม่มากก็น้อย ผมเป็นลูกคนจีนครับ โดยวัฒนธรรมก็จะต้องเชื่อฟังเพราะส่วนใหญ่คนจีนจะขีดเส้นให้ลูกไว้แล้วว่าอะไรดี อารมณ์ประมาณว่าเหมือน ‘อั๊วะเลือกให้แล้วลื้อก็ทำไป’ โดยเฉพาะขุ่นแม่ท่านเป็นครู อะไรดีแม่รู้ดีที่สุดดิ่… ประมาณนั้น
ซึ่งก็ทำให้การเรียนของผมจะอยู่ในสายของคณิตศาสตร์ ตัวเลข และอะไรที่มันยากๆ อย่างสายวิทย์ และต้องตามมาด้วยวิชาชีพประเภทวิศวะ หมอ แต่….. ป๊าม๊าไม่ได้รู้ว่าลูกตัวเองอ่อนเลขมากๆๆๆๆ (ฮา) แต่ผมก็ตั้งใจเรียนบ้าง เล่นบ้าง ตามประสาวัยรุ่นนะครับ เพียงแต่ ….มันไม่เข้าใจอ๊า
ที่ยิ่งแล้วใหญ่เลยคือ ผมเอ็นท์ไม่ติดครับ ตอนนั้นต้องบอกว่าชีวิตวัยรุ่นของผมค่อนข้างเคว้งเลยทีเดียว เพราะในมุมมองของบ้านคนจีนที่ไม่ได้มีฐานะมากอย่างผม มองเอ็นทรานซ์เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตมั่กๆ สุดท้ายก็ต้องไปเรียน ม.เอกชน ในสายวิศวะกรรม
เชื่อในความพยายามของตนว่ากูต้องทำได้ดิ่ ความพยายามอยู่ที่ไหนอ่ะ ความสำเร็จก็ต้องตามมาดิ่ครับ สุดท้ายวิศวะ….กรรม จริงๆ ครับ เพราะก็เรียนไม่ได้อีกคนอื่นๆ เค้าได้ A ได้ B เราเรียนเขียนอ่านแทบตาย ...ได้ C ครับ
ตอนคุยกับที่บ้านว่าเราเรียนไม่ไหวนี่เป็นบรรยากาศอะไรที่เครียดมากจนถึงมากที่สุด บรรยากาศมาคุ ไม่คุยกันเป็นเดือนหลังจากที่ได้เกริ่นคุณพ่อคุณแม่ไปว่าเรียนไม่ไหว สุดท้ายเราตัดสินใจเดินไปทำเรื่องย้ายคณะเอง เพราะหากเรารอคำตอบที่บ้านต่อไปจะทำให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ โดยยังไม่ได้ข้อสรุปอะไรเสียที
ผมตัดสินใจเรียนโฆษณาเพราะเป็นคนที่ชอบคิดฝัน จินตนาการอะไรแปลกบ้าง เว่อร์บ้าง ฮาบ้าง เพื่อนบอกมึงมีไอเดียนะ เรียนโฆษณาน่าจะดี เราก็เปลี่ยนสายไปเรียนโฆษณา ปรากฏว่าคะแนนออกมา A อ๊า..... ก็ดีใจมากครับ และสุดท้ายก็เรียนได้จนจบ
ขอให้พยายามติดตามตอนต่อไปนะครับ และผมจะบอกว่า รักในสิ่งที่ทำ กับทำในสิ่งที่รัก มันตรงกับชีวิตหรือประสบการณ์ผมซึ่งผมมั่นใจว่ามันจะตรงกับของเพื่อนๆ ผู้อ่านทุกท่านอย่างไร ต่อไปครับ
เมื่อเราเห็นทุกวันไม่ใช่ตัวตนของเรา
โฆษณา