Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Everythinghobby
•
ติดตาม
13 มิ.ย. 2022 เวลา 21:18 • การเมือง
ยุวชนเรดการ์ดนั้นน่ากลัวมากและเป็นมุมมืดของเหมาอิสต์ที่คนจีนไม่อยากจะพูดถึง
เพราะสิ่งที่หล่อเลี้ยงเก้าอี้ของแก็งค์ออฟโฟร์ ( 四人幫) นางเจียง ชิง, จาง ชุนเฉียว, หวัง หงเหวิน, เหยา เหวินหยวน ที่มีบทบาทสำคัญในยุคปฏิวัติวัฒนธรรมของจีนนั้นทำลายสิ่งที่เป็นจีนและรากเหง้าเสียจนคนรุ่นปัจจุบันไม่ให้อภัยเลยก็ว่าได้ ทุกวันนี้คนที่เป็นวัยรุ่นที่เป็นสมาชิกของยุวชนเรดการ์ดนั้นไม่กล้าพูดให้ลูกหลานฟังว่าตัวเองคือหนึ่งในคนที่ทำลายประเทศในยุคนั้น
ข่าวทีวีย้อนหลังไปเมื่อต้นปีจะเห็นผู้หาเสียงพรรคใหม่ที่ชูความใหม่ ความทันสมัย จับตลาดคนหนุ่มสาวแล้วผมเห็นว่าความจริงนั้นไม่ได้ใหม่อะไรเลย เป็นแนวคิดย้อนหลังไปในยุค "เหมาอิสต์" เสียด้วยซ้ำไป มันเลื่อนลอยตกยุคมานานแล้วไม่ต่ำกว่าห้าสิบปี
ถ้าเหมาอิสต์ยังอยู่ในประเทศจีนผมบอกได้เลยว่าจีนจะไม่มีทางยิ่งใหญ่แบบวันนี้ และความเสียหายที่เกิดขึ้นกับจีนในยุค แก็งค์ออฟโฟร์ นั้นใหญ่หลวงนักกับนโยบาย ทำลายรากเหง้าของจีน นิสัยเก่า, ความคิดเก่า, ประเพณีเก่า, และวัฒนธรรมเก่า แบบถอนรากถอนโคนที่แม้แต่ประธานเหมาเองก็ไม่คิดว่าจะทำไปไกลถึงขนาดนี้ แต่แก็งค์ออฟโฟร์ของนางเจียงจิงกล้าที่จะทำ
วันที่ 6 ตุลาคม ที่ตรงกันโดยบังเอิญนั้นทั้งประเทศไทยและประเทศจีนมีเรื่องตรงกันอยู่อย่างหนึ่งคือแนวความคิดแบบเหมาอิสต์ในสังคมของคนหนุ่มสาวโดนกวาดทิ้งไปจากประเทศ ขณะที่ไทยเองก็เป็นวันที่น่าเศร้าอีกวันที่เรามีความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคม
ผมจะไม่พูดถึงเรื่องเหตุการณ์นี้ในเมืองไทยแต่จะข้ามไปพูดเรื่องของจีนแทน เพราะเรากับจีนเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งที่ช่วงเวลานั้นมีการใช้มือของคนหนุ่มสาวและเยาวชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพียงแต่ของจีนนั้นสร้างความเสียหายยาวนานกว่าเรา รวมแล้วเป็นสิบปี ขณะที่ไทยที่มีเวลาสั้นๆ เพียงสามปีเท่านั้น
วันที่ 6 ตุลาคม 1976 นั้นคือวันที่จีนล้มแนวคิดเก่าแล้วก้าวไปสู่จีนใหม่ วันนั้น นายเติ้ง เสี่ยวผิง นายหวาง ตง ชิง นายพล เย่ เจิ้น อิง ได้ล้มระบบเหมาอิสต์แปรรูปแปลงร่างที่นางเจียงจิง ภริยาประธานเหมาเอามาเชิดร่วมกับแก็งค์ออฟโฟร์ ตั้งแต่ปลายยุคเหมาโดยใช้เยาวชนเรดการ์ดเป็นมือเท้า
โดยเริ่มใช้ความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ การใช้มือเยาวชนนั้นเป็นเรื่องง่ายเพราะเด็กพวกนี้ไม่มีประสพการณ์ ไม่เคยมีอำนาจเหนือผู้ใหญ่ เมื่อไรที่เสพติดอำนาจที่ตัวเองไม่คิดว่าจะมี เด็กพวกนี้ก็พร้อมจะยอมทำทุกอย่าตามแต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่อำนาจบางส่วนอยู่ในมือของแกงค์ออฟโฟร์ของนางเจียงจิงจะบัญชา
เด็กพวกนี้โดนล้างสมองและถูกยื่นอำนาจที่ตัวเองไม่เคยมีให้ กล้าแม้จะลากแม้กระทั่ง ครู พ่อ แม่ ออกมาประจานในที่ชุมชน ถ้าทำตัวผิดจากนโยบายทำลาย 4 สิ่งเก่าของพรรคคอมมิวนิสต์ ทำลายวัดและสุสาน ที่เป็นตัวแทนของสิ่งเก่า แม้กระทั่งสุสานของขงจี้อและห้องสมุดของขงจื้อที่อยู่มานับพันปีก็ถูกทำลาย สิ่งเคารพต่างๆ ถูกทุบเผาทิ้ง
บัญฑิตในสังคมที่ยึดถือแนวจีนเก่าถูกลากออกมาทำโทษ หรือแม้กระทั่งฆ่าทิ้งกลางถนนโดยฝีมือเยาวชน ห้องสมุดเก่าตามวัดที่เก็บหนังสือทางศาสนาอายุย้อนไปเป็นพันปีทั่วประเทศก็ถูกรื้อเอามาเผาทิ้ง เรียกว่าในช่วงเวลานั้นจีนสูญเสียวัตถุทางวัฒนธรรมไปมหาศาล เสียหายไม่ต่างกับห้องสมุดอเล็กซานเดียของอียิปต์โดนเผาในอดีตเลยทีเดียว
ผมเองนั้นรู้ว่าความคิดแนวนี้รุนแรงและอิมแพคกับคนหนุ่มสาวเพียงใด เพราะเวลานั้นตัวผมเองในวัยหนุ่มก็ยังอินกับความคิดแบบนี้ จะบอกว่าเวลานั้นผมยังอยู่ในกระสวนทางความคิดของคนหนุ่มสาว "ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง ฉันจึงมาหาความหมาย"
และแนวทางของเหมาอิสต์แปลงร่างในยุคนางเจียงจิงนั้นเข้าใจง่าย จับตลาดเยาวชน ดูเป็นรูปธรรมกว่าแนวคิดอื่น จะบอกว่าต่อให้คนโง่ที่สุดอ่านแล้วก็เข้าใจ ซึ่งการเข้าใจง่ายแบบนี้ไม่ใช่เลยกับหนังสือด้านสังคมนิยมและเศรษฐศาสตร์มวลชนที่อ่านยากของ อาดัม สมิธ, ทอมัส มอร์, คาร์ล มาร์กซ์, ฌ็อง-ฌัก รูโซ, ปิแอร์ โจเซฟ ปรูดอง ฯลฯ ที่ผมเองกว่าจะเข้าใจข้อความจากหนังสือพวกนี้อย่าถ่องแท้ก็อายุเกินสามสิบไปแล้ว
แนวคิดซ้ายจัดนั้นเป็นภัยพอๆ กับขวาจัด บ้านเมืองเราก็เคยผ่านยุคขวาจัดหรือขวาพิฆาตซ้าย "เปรี้ยงๆ คือเสียฟ้าฟาด" ของสถานีวิทยุยานเกราะในช่วงปี 2519 มาแล้ว เวลานั้นผมเองต้องฟัง อุทาน อุทิศ สมัคร สามผู้จัดรายการตัวหลักทุกเย็นเพราะบ้านในซอยจะเปิดดังๆ กันทุกบ้าน
และถึงวันนี้ทุกอย่างก็พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า "ขวาจัดนั้นเลวร้ายไม่ต่างกับซ้ายจัด" เพราะแนวคิดทั้งคู่สร้างความเสียหายแก่ชาติรุนแรงและฝังลึกเป็นบาดแผลของชาติไม่ต่างกัน
ผมถึงได้บอกว่าผมดูข่าวทีวีวันนี้ แนวคิดหลงยุค เก่าและล้าสมัย ได้กลับมาในกล่องใหม่และไหลออกจากปากของนักการเมืองหน้าใหม่ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ อ้างว่ามีความคิดแบบใหม่ อ้างว่าจะสร้างอนาคตใหม่ให้แก่ชาติ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย เพราะที่หลุดออกมาจากปากคือวาทะกรรมหลงยุคล้าสมัยไปห้าสิบปีแล้วทั้งนั้น
แต่เด็กที่เกิดไม่ทัน ไม่เคยฟังแบบนี้มาก่อน นั้นไม่ใช่เลย สิ่งนี้กระทบใจแบบรุนแรงไม่ต่างกับคนรุ่นผมที่เคยโดนวาทะกรรมแบบนี้กระทบใจมาแล้ว
……………
บทความของ . Pat Hemasuk ปี2019
https://www.facebook.com/100001380665898/posts/5388621157860520/
การเมืองการปกครอง
การเมืองไทย
จีน
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย