14 มิ.ย. 2022 เวลา 00:00 • ปรัชญา
“ชีวิตก็เหนื่อยจะตายห่าแล้ว ถ้ายังต้องมาเหนื่อยเรื่องความรักอีกก็ช่างแม่งเถอะ”
เคยได้ยินประโยคนี้จากเพื่อนคนหนึ่ง เป็นประโยคที่เจือน้ำเสียงเกรี้ยวกราดด้วยการปนหัวเราะหน่อยๆ ซึ่งตอนนั้นเราฟังด้วยความรู้สึกตลก เพราะคิดว่ามันระบายออกมาตอนเมา แต่ไปๆมาๆเราก็พบว่าประโยคง่ายๆแบบนี้
👉🏻 แม่งจริงชิบหาย
พอยิ่งโต เราก็ยิ่งค้นพบว่าชีวิตไม่ได้ง่ายและไม่เคยง่าย เราต้องทำงาน เราต้องหาเงินเพื่อจ่าย จ่ายและจ่ายในแต่ละเดือน เราต้องสู้กับทั้งงาน ทั้งคน ทั้งสังคม แบกความหวังของตัวเองและคนรอบข้าง ใช้ทุกวันเข็นตัวเองก้าวไปข้างหน้า ก้าวหน้าบ้าง ก้าวถอยบ้าง แต่สุดท้ายเราก็พยายามสู้อยู่อย่างนั้นเพื่อหวังถึงความมั่นคงในชีวิต
ใช้ชีวิตก็เหนื่อยจะตายแล้วจึงไม่ใช่คำที่เกินจริงเลย
ดังนั้นการมีความรักของคนรุ่นเรา มันจึงไม่ใช่อาหารหอมหวานชวนให้ไปหยิบกิน มันไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องมีเพราะมันต้องมี ไม่ใช่สิ่งที่ต้องควานหาเพื่อให้มี หรือไม่ใช่สิ่งที่ต้องใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อให้มันมี
เพราะในชีวิตเรามันมีเรื่องอีกมายมายที่เหนื่อยจะตายห่าจริงๆ
ความรักที่เราต้องการในวัยนี้ มันจึงกลับไม่ใช่ความรักที่หวือหวา ไม่ใช่ความรักกุ๊กกิ๊กที่ต้องเดากันไปมา ไม่ใช่ความรักที่เข้าหาแล้วงงๆว่าตกลงเราเป็นอะไรกัน หรือไม่ใช่ความรักที่แค่อยากให้มีเราอยู่รอบๆ แต่ไม่ได้ให้สถานะอะไร
มันทำให้เราเหนื่อยกว่าเดิม
พอโตขึ้น เรากลับต้องการแค่ความรักที่ง่าย ความรักที่ไม่ต้องใช้พลังมากมายในการที่จะได้มันมา หรือความรักที่ซับซ้อนจนกินพลังชีวิต
เราต้องการแค่คนที่เรียบง่ายธรรมดา คนที่เข้าใจได้โดยง่ายว่ารักกัน คนที่พร้อมเดินไปกับเราโดยไม่ต้องกั๊กสถานะ คนที่ให้กำลังใจในวันที่เหนื่อย และคนที่คอยยินดีและ Support กันในทุกช่วงที่สำคัญของเรา
👉🏻 “ซึ่งก็ไม่ได้หาง่ายๆ” เพื่อนคนเดิมพูดขึ้นมา
และถูก มันหาไม่ได้ง่ายๆ หลายคนในวัยเราจึงตัดสินใจที่จะโสดเพราะมันง่ายกว่าในการใช้ชีวิต และเราไม่ได้มีพื้นที่สำหรับความวุ่นวายเพิ่มเติมอีกแล้ว
สุดท้ายมันจึงกลายเป็นว่า ถ้าความรักทำให้ชีวิตเราดีขึ้นหรืออย่างน้อยก็เท่าเดิม เราก็มี แต่ถ้ามีแล้วมันทำให้ชีวิตเราปั่นป่วนแย่ลงและเป็นอุปสรรคในการทำมาหาแดก
“ชีวิตก็เหนื่อยจะตายห่าแล้ว ถ้ายังต้องมาเหนื่อยเรื่องความรักอีกก็ช่างแม่งเถอะ”
รัก
 
CR. ช่า บันทึกของตุ๊ด
1
โฆษณา