14 มิ.ย. 2022 เวลา 02:56 • หนังสือ
“วะบิ ซะบิ” เป็นหลักการในการมองชีวิต โดยยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบ และความไม่ยั่งยืนในทุกสรรพสิ่งที่ล้วนแล้วแต่เป็นธรรมชาติของโลกใบนี้
รวมการมองเห็นถึงความงดงามในความไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ไม่จีรังยั่งยืน และ ความไม่สมบูรณ์แบบ
ที่แต่ละสิ่งเป็นอยู่
หลักความจริง 3 ประการตามหลักพุทธศานาที่เชื่อมโยงกับหลัก
วะบิ ซะบิ
1. ความไม่เที่ยง – กุญแจดอกที่ 1 ของชีวิต
ไม่มีสิ่งใดในโลกและจักรวาลที่หยุดนิ่ง ไม่เว้นแม่แต่ความคิด อารมณ์ และตัวตนของเรา
ทุกสิ่งอย่างล้วนเลื่อนไหลแปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง
2. ความทุกข์ - กุญแจดอกที่ 2 ของชีวิต
ความทุกข์คือ ระยะห่างระหว่างความจริง กับสิ่งที่เราปรารถนา/ สิ่งที่เราคาดหวังให้ได้มา แต่ยังไม่มีในตอนนี้
คล้ายสมการความสุขที่ = ความจริง – ความปรารถนา
3. ความว่างเปล่า - กุญแจดอกที่ 3 ของชีวิต สุญญตา เป็นองค์ประกอบที่เป็นจริงของจักรวาลนั้น ๆ เป็นสภาวะที่เป็นอยู่ในแต่ละขณะ โดยที่เราไม่ได้ใส่อะไรเข้าไปเพิ่มเติมแต่ง หรือไม่ได้ขจัดอะไรออกมาจากการเป็นอยู่ของสิ่ง ๆ นั้น
ถ้าเราไม่ได้ใส่ความคิด อารมณ์ หรือตัวตนของเราเข้าไปในของแต่ละสิ่ง และมองมันในแบบที่มันเป็นจริง ๆ
เราจะรู้สึกได้ถึงความเชื่อมโยงของตัวเรากับธรรมชาติ ตัวเราจะกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อม และเราจะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติรอบตัวเรา
จงเป็นคนไม่สมบูรณ์แบบที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะเป็นได้
หลักปรัชญา วะบิ ซะบิ ทำให้เรา
ยอมรับในความไม่แน่นอนของชีวิต
หมายความว่า เราไม่จำเป็นต้อง
คาดหวังให้ตัวเราเป็นคนสมบูรณ์แบบ เก่งที่สุดในสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำ
แต่ให้มองตัวเราในแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดก็เพียงพอ เพราะชีวิตจริงก็มีความไม่แน่นอนเข้ามาเกี่ยวพันด้วย
โอบรับความเศร้าโศก
ชีวิตไม่ใช่การมีความสุขเต็ม 100%
แต่เป็นการโอบรับความเศร้าโศกที่ชีวิตมอบให้ และมองมันเป็นบทเรียนสอนใจ ทั้งในเรื่อง การรู้จักตัวเองให้ดียิ่งขึ้น ผ่านภาพสะท้อนในเรื่องที่ตัวเองเศร้าโศก ทำให้เรามีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นมากขึ้น
เพราะความเศร้าเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ ทำให้เรามองเห็นความงดงาม และสร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้มากลุ่มลึกขึ้น จากรสสัมผัสที่หลากหลาย
สิ่งที่ดี่ที่สุดที่เกิดขึ้นในชีวิต มักจะห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบเสมอ มองในสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราจะ เห็นว่าการเดินทางของเราล้วนผ่านเส้นทางที่ขรุขระ เต็มไปด้วยหลุมบ่อ และหลายครั้งก็ต้องอ้อมไปหลายโค้ง กว่าจะขับขึ้นไปบนยอดเขาได้
หลายครั้ง ชีวิตไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่เราก็มักได้รับโอกาสใหม่ๆ ที่ชีวิตยื่นให้อยู่เสมอ หรือบางครั้งเราก็ได้มองเห็นคุณค่าในบางเรื่องที่เราอาจไม่เคยรับรู้มาก่อน
ความไม่สมบูรณ์แบบในมนุษย์รวมอยู่ในชิ้นงานที่ถูกสรรค์สร้างออกมา
จินตนาการถึงการเล่นเปียโน
แม้จะเล่นเพลงเดิมจนจำโน้ตและจังหวะได้แม่นยำแล้ว
แต่ทุกครั้งที่เราเล่น อารมณ์และความคิดของเราก็ไม่เหมือนเดิมในทุก ๆ ผลงานที่เราทำ ไม่ใช่เฉพาะเปียโน หรืองานศิลปะ กีฬา ธุรกิจ การจัดบ้าน เรื่องต่าง ๆ ในชีวิต ล้วนแล้วแต่เกิดจากการที่เราเอาตัวตนของเราใส่เข้าไปด้วย
เราจึงไม่จำเป็นต้องสร้างสรรค์งานให้สมบูรณ์แบบ แต่การทำงานของเรา ก็เหมือนการแสดงให้ได้เห็นถึงความไม่สมบูรณ์แบบที่สอดคล้องกับการเป็นอยู่ของธรรมชาติ
สร้างพื้นที่ว่างในชีวิต มองหาสิ่งที่สูบพลังของเราออกไป หลักการ
วะบิ ซะบิ บอกชัดเจนว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ถ้าเราไม่สมบูรณ์แบบ”
เราเป็นมนุษย์ที่เต็มไปด้วยข้อผิดพลาด
การตั้งเป้าหมายยิ่งใหญ่ แล้วรีบเร่งกับชีวิตเพื่อจะไปสู่เป้าหมายนั้นอาจกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายตัวเราเอง
ดังนั้นต่อจากนี้ ลองใช้ชีวิตให้ช้าลง
เริ่มจากการหาพื้นที่ว่างในชีวิตดูบ้าง
หาเวลาอยู่เฉยๆ แล้วจัดระเบียบชีวิตเสียใหม่.
ในแต่ละวัน ให้เราชื่นชมยินดีกับ 3 สิ่งต่อไปนี้
1. ชื่นชมยินดี กับ “ความไม่สมบูรณ์แบบ” ในแต่ละวัน เช่น ถ้าเจอถ้วยชามที่มีรอยแตก ก็ให้คิดว่ารอยแตกนั้นก็มีเรื่องเล่า ในแบบที่มันเป็น
2. ชื่นชมยินดี กับ “ความไม่เสร็จสมบูรณ์” ในแต่ละวัน
ชีวิตเราไม่มีบทสุดท้ายเขียนไว้ ชีวิตเหมือนงานที่ยังไม่เสร็จเสมอ
เราใช้ชีวิตนี้เพียงชั่วคราว แล้วก็ต้อง “ผ่านไป”
ในทุก ๆ วันมีเรื่องให้เราเรียนรู้ใหม่ได้อยู่เสมอ
การยอมรับว่าชีวิตไม่เสร็จสมบูรณ์ ทำให้รู้จักถ่อมตัว และรู้ว่าจะก้าวเดินต่อไปในทิศทางใดได้บ้าง
3. ชื่นชมยินดี กับ “สิ่งที่ดับหายไป” ในแต่ละวัน
ชีวิตเราเป็นสิ่งชั่วคราว เช่นเดียวกับชีวิตของทุกคน และทุก ๆ สิ่ง
เราจึงควรทำดีกับผู้อื่นไว้ทุกเมื่อที่มีโอกาส
ลองใช้ชีวิต ช้า ๆ แล้วอยู่กับปัจจุบัน ขณะ ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
มองความงามของสิ่งรอบตัว ดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาต่าง ๆ ที่เข้ามา
อย่าเอาความคิดตัวเองไปผูกโยงกับอดีต หรืออนาคต
จงใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย เป็นข้อคิดชีวิตที่เราควรย้ำเตือนตัวเองอยู่
เสมอๆ เมื่อได้รู้จักกับ วะบิ ซะบิ
“ทุกสิ่งล้วนมีเวลาของมัน เหนื่อยก็พักได้” - Wabi Sabi
We don’t need to push all the time. - “เราไม่จำเป็นต้องพยายามตลอดเวลา”
.
Every push needs a pull. - “ทุกการผลักย่อมมีการดึง”
.
Every expansion needs a contraction. - “ทุกการขยายก็ต้องมีการย่อ”
** ในทีนี้เปรียบเทียบเหมือนการขยายขอบเขตต่างๆ เช่น การเรียนรู้ การทำงาน
.
Every effort needs a rest. - “ทุกการทุ่มเท/พยายาม ก็ต้องการการพักผ่อนเสมอ”
— — — — — — — — — —
“ทุกสิ่งบนโลกล้วนมีขีดจำกัดครับ หากอะไรที่มากจนเกินพอดีก็ไม่ดี น้อยเกินไปก็ไม่ดีเช่นกัน”
Wabi Sabi จึงบอกว่า การใช้ชีวิตของเราก็ไม่ได้ต่างกัน
การทุ่มเท หรือพยายามทำสิ่งใดสิ่งนึงในชีวิตของเรามันคือการฝืนขีดจำกัด / ก้าวออกจาก Comfort Zone ของตัวเองมากๆ เมื่อทำไปเรื่อยๆย่อมเหนื่อยเป็นธรรมดา
ดังนั้นการพักผ่อนซัก 5-10 นาที หรือถ้าเหนื่อยมากเราจะพักผ่อนซักวันก็ได้ ถ้ามันทำให้เราสดชื่นและพร้อมที่จะลุยต่อ
การโหมงานหนักแบบไม่มีพัก อาจจะได้งานที่เยอะ ได้เงิน ได้ผลตอบแทน แต่ถ้ามันต้องแลกด้วยสุขภาพ ทั้งทางกายและจิตใจ ก็ไม่คุ้ม
ไม่งั้นเราคงไม่ได้เห็นพวก quote หรือ มุขตลกที่คนวัยทำงานชอบใช้กันว่า ทำงานหนักมาเพื่อจ่ายค่ารักษาให้โรงพยาบาล
— — — — — — — — — —
นอกเหนือจากการตีความเรื่องการพักผ่อนบ้างด้านบนแล้ว Wabi Sabi ยังสามารถตีความได้อีกแบบนึงว่า
Wabi Sabi มองว่าจังหวะในชีวิตของเรานั้นต่างมีจังหวะของมันเอง
การฝืนธรรมชาติทำสิ่งใดสิ่งนึงจนมากเกินไป แต่ผิดจังหวะ ผิดโอกาสก็ไม่เกิดผล
หรือการที่จังหวะที่ดีได้ผ่านมา แต่เรากลับไม่ลงมือทำก็ไม่เกิดผลเช่นกัน
สิ่งที่ดีที่สุดคือการทุ่มเททำงาน ในจังหวะที่เหมาะสม นั่นจะทำให้เราได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Wabi Sabi สอนให้เราปล่อยวาง และยอมรับกับความไม่สมบูรณ์แบบที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเราได้
หากมีสิ่งใดที่เรายังไม่ได้มานั้นไม่ได้หมายความว่าเราไม่เก่ง / ไม่เหมาะสม แต่แค่จังหวะมันยังไม่ได้ หากทุกอย่างพร้อม สิ่งที่ดีๆก็จะตามมาเอง อย่าเร่ง อย่าฝืน อย่าเครียด 🥺
===================
แนวคิดแบบนี้อาจจะไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้อง 100% บางท่านจะมองว่าคิดแบบนี้แล้วไม่ก้าวหน้า แต่ก็เป็นหนึ่งแนวคิดที่เหมาะกับยุคนี้ที่อะไรๆก็เครียด ก็ productive กันไปหมด
เว้นช่องว่างให้ตัวได้พักผ่อนลดความเครียดวักหน่อยก้เป็นทางเลือกที่ดีครับ แล้วไว้ผมจะเอาแนวคิดดีๆจาก Wabi Sabi และหนังสือแนวปรัชญาความคิดของต่างชาติมาแนะนำกันอีกเรื่อยๆ ยังไงฝากติดตามไว้ได้นะครับ
===================
สำหรับคนที่สนใจสามารถ สั่งซื้อ Wabi Sabi ฉบับภาษาอังกฤษได้ที่
🔥อย่าลืมใส่ Code “AB300LP” รับส่วนลด 300 บาทกันด้วยนะครับ (ขั้นต่ำ 1,200 บาท)🔥
🟠🟠 ใครถนัด Shopee ใช้โค้ดใช้คอยน์จัดไปลิ้งค์นี้ 🟠🟠
ภาษาอังกฤษ : https://shope.ee/7zYrpxsvkO
ภาษาไทย : https://shope.ee/4KfZTKmKDg
** สังเกตุดีๆว่าจะต้องเป็นปกสีเขียวพาสเทลนะครับ ถ้าเป็นสีขาวชมพูจะเป็นคนเขียนคนละคนกัน เล่มนั้นผมยังไม่มีเลยยังไม่ได้แนะนำแต่คิดว่าเนื้อหาคงไปในทางเดียวกันครับ
====================
ถ้าใครชอบเนื้อหาเน้นๆตามสไตล์เพจ “เล่า” ของผมก็สามารถกด Like เพจเพื่อติดตามเนื้อหาใหม่ๆของทางเพจได้นะครับ จะมีมาเล่าให้ในหลายๆเรื่องเลย ตามเพจเล่าไม่มีเบื่อแน่นอน เพราะแอดมินขี้โม้ หามาเล่าได้ทุกเรื่องครับ 😂😂
อยากให้เล่าเรื่องไหน รีเควสได้ ถ้าไม่นอกเหนือความสามารถก็จะไปหามาให้ครับ 😎😎
ติดตามเรื่อง “เล่า” ผ่านช่องทางต่างๆได้ดังนี้
Clubhouse : @withptns , เล่า’s Bookclub
Blockdit “เล่า” : https://www.blockdit.com/unfold
Instagram “เล่า” @withptns : https://instagram.com/withptns
Twitter “เล่า” @withptns : https://twitter.com/withptns
ติดต่อโฆษณา ฝากลิ้งค์สั่งหนังสือ หรือ ติดต่อร่วมงานกับเพจ “เล่า” ได้ที่อีเมล์ ptns81@gmail.com ครับ
#เล่า #เล่าหนังสือ #เล่าความรู้ #unfold #ส่งเสริมการอ่าน #ส่งเสริมการเรียนรู้ #WabiSabi #BethKempton
โฆษณา