15 มิ.ย. 2022 เวลา 03:44 • การศึกษา
เปิดมุมมอง สตรองแบบฉลาด
ทำไมคนเก่งมาก ถึงไม่ยอมลุยเดี่ยว แต่กลับไขว่คว้าที่จะได้ใกล้ชิดกับคนที่เก่งกว่าตนเสมอ
แต่คนไม่เก่ง มันคิดว่าตนยิ่งใหญ่แล้ว ดังคำกล่าวของขงเบ้งที่กล่าวไว้ในสามก๊กว่า
"คนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือคนที่ทำตัวเล็กนิดเดียว"
ทำไมในความสามารถที่ไล่ๆ กัน พื้นฐานที่เท่ากัน บางคนที่สุดไปได้สวยงาม เจริญก้าวหน้ามาก
แต่ในขณะที่บางคนไปไม่ถึงไหน ขยับความก้าวหน้าช้ามาก
เคยมีนักวิจัยทางการพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ ของมหาวิทยาลัย Stanford University ได้สรุปผลงานวิจัยที่ทำมากว่า 40 ปี ได้ค้นพบ ลักษณะความคิดที่สร้างความต่างให้คนประสบความสำเร็จมาก และปานกลาง อยู่ที่ความคิดต่างแบบGrowth mindset และ Fixed mindset
Growth mindset คือความคิดแบบเติบโต เชื่อว่าทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แม้จะอยู่ในภาวะความไม่แน่นอนก็ตาม
Fixed mindset จะมีการคิดแบบตายตัว ที่เชื่อว่าคนเราเกิดมาตามศักยภาพที่ติดตัว บางอย่างทำได้ดี บางอย่างทำไม่ได้ โดยไม่ต้องลงมือใดๆ
ผลการทดลองสรุปว่า คนเราอาจจะมี growth mindset เราเปิดใจพร้อมจะรับบางเรื่อง นั่นมาจากการเลี้ยงดู การเติบโต คนที่เติบโตมาแบบนักสู้ พร้อมจะเรียนรู้ มีสิทธิจะประสบความสำเร็จมากกว่า
ในบางเรื่อง มนุษย์เราอาจจะมี fixed mindset โดยไม่รู้ตัว และทำให้เราจำกัดความสามารถด้านนั้นโดยไม่รู้ตัว
ในการทดลองได้ให้เด็กเล็กสองคน ที่ไม่มีพิ้นฐานนั่งเรียนเลข ที่เป็นความรู้ใหม่
คนแรกพูดออกมาว่า "ทำไม่ได้ครับ ยากจัง อย่างนี้ต้องลองเรียนไปเรื่อยๆว่าจะแก้อย่างไร"
คนที่สอง พูดว่า "ยากมาก ผมคงไม่มีหัวด้านเลข คนทำได้ต้องเก่งมาก"
ที่สุดในการทดลอง คนที่ 1 ที่มี growth mindset สามารถเรียนคณิตศาสตร์ดีขึ้นตามลำดับ
ในทางกลับกัน เด็กบางคนเด็กสองคนนี้ถูกนำไปทดลอง ในวิชาพละ
ทั้งสองคนต้องกระโดดเชือกไปเรื่อยๆ 50 ครั้ง นี่เป็นการฝึกกระโดดเชือกครั้งแรกในชีวิตของทั้งสองคน
มีเหนื่อย หอบ ล้มบ้าง เชือกพันขาพันแขน
คนที่ 1 พูดว่า เจ็บอ่ะ ทำไมต้องมาเจ็บตัวแบบนี้ สงสัยจะไม่ใช่ทาง
คนที่ 2 อู้หูว เหนื่อยนะ แต่ต้องฝึกแหละ ก็จะแข็งแรงขึ้น
และแน่นอน เด็กคนที่ 1 เก่งคณิตศาสตร์ แต่ไม่เก่งพละ ส่วนคนที่สองท้ายสุดกลายเป็นคนเก่งพละแต่ไม่เก่งเลข
ความถนัดของคนเรา มาจากการฝึกฝน คนเก่งมากมายมักมีความสามารถในการไม่แสดงความเหนื่อยล้าจากการฝึกฝน จนทำให้คนอื่นๆเข้าใจว่า เค้าคือคนเก่งอัจฉริยะ
เราเปิด mindset ที่จะรับศักยภาพด้านใด เราก็จะเป็นคนเก่งด้านนั้นในที่สุด
อย่างไรก็ดี เวลาเราอยากสำเร็จ มันมักมีความคิดบางอย่างมาขวางความสำเร็จ นั่นคือ fixed mindset ที่ทำให้เราไปไม่สุด เหมือนกับนกที่บินได้ แต่ถูกจองจำไว้ในห้อง บินสูงแค่ไหนก็ติดเพดาน
เรายังติดกับความคิดที่ว่า "มันไม่ใช่ทาง " "มันคงเป็นกรรมเก่า"
แต่คุณจะปล่อยให้กรรมเก่าทำงานอย่างเดียวหรือ ไม่สร้างกรรมใหม่บ้างหรือ
Jack Ma นักลงทุนธุรกิจที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผู้ก่อตั้ง Alibaba ครั้งหนึ่งในวัยเด็กเคยสมัครเรียน Harvard แต่ก็ถูกปฎิเสธถึง 10 ครั้งจนต้องกลับไปเรียนต่อที่ หางโจว (Hangzhou)ที่จีนเหมือนเดิม
แต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นไม่ได้ทำให้เขาจำกัดความคิดของเขาเลย ซ้ำยังทำให้เขาคิดว่า สักวันเค้าจะเรียนเก่ง จนมาเป็นอาจารย์ที่ Harvard ให้ได้ (“Someday I should go teach there maybe”.)
ปัจจุบัน ฮาร์วาร์ดได้เชิญไปสอนทางด้านธุรกิจ ซึ่งก็เป็นหนึ่งในความตั้งใจที่มาจาก Growth Mindset ของแจ็คหม่าได้วัยเด็ก
หลายครั้งที่เราแก้ปัญหาความผิดหวังด้วยการลดความคิด จำกัดตัวเองที่จะพัฒนาต่อไป ทั้งๆที่จริงแล้วหากเราใช้หลักความคิดที่ว่า เวลาเรามีปัญหา ให้ก้มหน้าก้มตาแก้ไขไป อย่าไปว่าโชคชะตา อย่าเอาแต่เรียกร้องให้ฟ้าดินเป็นใจ ไม่ต้องน้อยใจว่าโลกนี้ไม่เข้าข้าง เราก็จะพบความคิดแบบ growth mindset ว่า โลกนี้ก็ไม่ได้รักใครเป็นพิเศษ ทุกคนต้องต่อสู้ อดทน ดิ้นรน กับอุปสรรคชีวิตของแต่ละคนเหมือนกันๆกัน
"อยู่ใกล้ ได้เห็น เป็นเหมือน" อาจเป็นข้อคิดดีๆ ที่ได้จากการอ่าน รับรู้ คนที่ประสบความสำเร็จ แม้เราจะไม่ได้เห็นด้วยตา รู้จักเขาจริงๆ แต่การได้รับรู้เรื่องราวดีๆ ก็เหมือนได้อยู่ใกล้คนเก่ง ได้เห็นการต่อสู้ สักวันเราก็เป็นเหมือนเค้าอย่างแน่นอน
ครูฮ้วง
โฆษณา