Metaverse คือโลกใบใหม่ของมนุษย์จริงหรือ..!!?
ในช่วงเวลา 3-4 ปีมานี้ คำว่า Metaverse ได้ถูกพูดถึงในแทบทุกวงการทั้งในไทยและต่างประเทศ ส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดแนวคิดของ Metaverse ขึ้นมานั้น ก็มาจากความก้าวหน้าทางอารยธรรมของมนุษย์ที่มาพร้อมกับความก้าวหน้าทางวิทยาการ
โดยทั่วไปแล้วสิ่งมีชีวิตบนโลกนั้นต่างก็มีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนั้นก็เพื่อให้เผ่าพันธ์ดำรงอยู่รอด มนุษย์เองก็มีวิวัฒนาการ เพื่อความอยู่รอดเหมือนกัน แต่ที่มนุษย์นั้นมีวิวัฒนาการที่แตกต่างไปจากสัตว์ชนิดอื่น นั่นก็คือ มนุษย์มีการเรียนรู้ทางอารยธรรม
Metaverse ก็คือแนวความคิดทางอารยธรรมของมนุษย์ที่อยากจะก้าวหน้าไปจากโลกที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เมื่อมนุษย์ได้รับปัจจัย4 ที่สมบูรณ์มากแค่ไหน การเรียนรู้ทางอารยธรรมก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น
คำว่า “Metaverse” ถูกใช้ครั้งแรกในนวนิยายเรื่อง Snow Crash ของ Neal Stephenson ที่ถูกตีพิมพ์ฉบับแรกในปี พ.ศ. 2535 ซึ่ง Metaverse ถูกตีความให้เป็นโลกเสมือนที่ผู้คนเข้าไปสร้างตัวตนและใช้ชีวิตอยู่ ต่อมาคำว่า Metaverse ได้เป็นที่รู้จักที่มากขึ้นจากนวนิยายเรื่อง Ready Player One ของ Cline ที่ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2554 แล้วได้รับกระแสตอบรับที่ดีจนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนต์ในปีพ.ศ. 2561
ด้วยการตีความของนวนิยายและภาพไอเดียจากภาพยนต์ จึงทำให้คำว่า Metaverse นั้นถูกวาดฝันให้เป็นดั่งเมืองยูโทเปีย เมืองในฝันที่ใครๆก็อยากอยู่ ด้วยความคิดที่ว่า ใน Metaverse นั้นเราจะเป็นเพศอะไร หน้าตาแบบไหน หรือจะทำอาชีพอะไรก็ได้ อีกทั้ง Metaverse ยังสามารถทำลายกำแพงกั้นระหว่างประเทศออกไปได้ด้วย นั่นจึงทำให้ Metaverse คือจุดที่มนุษย์อยากจะไปให้ถึง
และในปัจจุบันนี้ก็มีเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่มากมายที่กำลังลุงทุนในการสร้าง Metaverseและหลายๆบริษัทก็มีการเปิดใช้งานแล้วเรียบร้อย แต่ลักษณะที่ Metaverse เป็นอยู่ตอนนี้นั้น จะผิดแปลกไปจากภาพในหัวของหลายๆคนอยู่ไม่น้อย เพราะด้วยความที่ภาพยนต์ Ready Player One ประสบความสำเร็จและได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก บวกกับ
บริษัท Meta เจ้าของ Facebook นั้นได้เปิดตัว Metaverse ของตัวเองที่โฆษณาฟังก์ชันต่างๆจนแทบจะใกล้เคียง Ready Player One เลยก็ว่าได้ แต่การคาดการณ์ของเหล่าวิศวกรเทคโนโลยีทั่วโลกนั้น ต่างก็วิเคราะห์กันว่า ถ้าจะทำให้ได้เหมือนที่ Meta โฆษณาเป๊ะๆนั้น ก็ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 - 10 ปี ในการพัฒนา เนื่องจากเทคโนโลยีหลายๆอย่างยังไม่สามารถที่จะทำได้
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ Meta ยังพัฒนาอยู่และยังไม่เปิดใช้บริการในปีนี้ และหลายๆ Metaverse ที่เปิดให้ใช้บริการตอนนี้แล้ว ก็เป็นเพียงแค่ Metaverse ที่ไม่ได้พึ่งพาเทคโนโลยีมากนัก เป็นเพียงคอมมูนิตี้ที่ใช้ระบบบล็อกเซนเท่านั้น
ในปี 2022 ทรัพย์สินใน Metaverse มีการเพิ่มมูลค่าที่สูงขึ้นหลายเท่าตัว โดยเฉพาะที่ดินใน Metaverse ที่มีสถิติที่มูลค่าเพิ่มสูงที่สุดอยู่ที่ 300 เท่า
(อ้างอิงข้อมูลจากwww.prachacht.net) ถ้าดูข้อมูลแค่ผิวเผินก็คงเป็นทิศทางที่ดีที่มูลค่าเพิ่มสูงขึ้นเพราะระบบเศรษฐกิจใน Metaverse ดีขึ้น
แต่ถ้าดูถึงรายละเอียดจริงๆ แล้ว การที่มูลค่าเติบโตจากเดิมหลายเท่าตัวภายในระยะเวลาอันสั้นนั้น จะเกิดภาะเงินเฟ้ออย่างแน่นอน
ในขณะที่กิจการหลายๆกิจการ ต่างก็พาเหรดกันมาลงใน Metaverse พร้อมกับการวางขายสินค้าเสมือนต่างๆ อีกทั้งยังมีการปั่นราคากันจนสินค้าหรือทรัพย์สินดิจิตอลมีมูลค่าที่สูงกว่าความเป็นจริงนั้น ก็จะยิ่งทำให้ Metaverse เสี่ยงที่จะเกิดฟองสบู่แตกได้
ถ้าเมื่อไหร่ที่ Metaverse เกิดฟองสบู่แตก นั่นก็จะทำให้ระบบเศรษฐกิจในแต่ละ Metaverse พังไปด้วย Metaverse ที่จะเป็นโลกใบใหม่ของมนุษย์ก็คงจะเป็นได้เพียงแค่ความฝัน แต่ถ้าระบบเศรษฐกิจดีผู้คนสามารถแก้ปัญหาเงินเฟ้อและเงินฝืดได้ดีตัว Metaverse ก็จะถือว่าเป็นโลกใบใหม่ที่ทุกคนอยากเข้ามาอยู่อย่างแน่นอน
Chxmp : เขียน งานศิลป์
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
