15 มิ.ย. 2022 เวลา 18:03 • ไลฟ์สไตล์
“ต้องการอะไรในชีวิต” “เมื่อจากไปแล้วอยากให้คนข้างหลังนึกถึงอย่างไร” “อะไรคือความสุข” และ “อะไรคือความทุกข์”
คอลัมน์ “อาหารสมอง”
กรุงเทพธุรกิจ
อังคาร 14 มิ.ย. 2565
 
4 คำถามท้าทาย
 
วรากรณ์ สามโกเศศ
​ หลายคนคงอึ้งไปเหมือนกันถ้ามีใครมาถามว่า “ต้องการอะไรในชีวิต” “เมื่อจากไปแล้วอยากให้คนข้างหลังนึกถึงอย่างไร” “อะไรคือความสุข” และ “อะไรคือความทุกข์” คำถามเหล่านี้สำคัญและท้าทายแต่ไม่ค่อยได้ขบคิดกัน เมื่อถูกถามทำให้ต้องคิดทบทวนชีวิตและปรับแก้ไขสำหรับเวลาที่ยังเหลืออยู่
​​สำหรับ “ต้องการอะไรในชีวิต” แว่บแรกในความคิดน่าจะเหมือนคนทั่วไปคือเงิน ความมั่งคั่ง และความสุขสบาย เพราะคนมักคิดว่าเมื่อมีเงินแล้วก็สามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง แต่เมื่อคิดดูสักพักแล้วก็อาจรู้ว่ามันเป็นคำตอบที่เร็วเกินไป มนุษย์ไม่ตื้นขนาดนั้นหรอก มันมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้นอยู่ในใจของทุกคน และอย่างแตกต่างกันด้วย
​ในเชิงชีววิทยา มนุษย์แต่ละคนมี DNA ซึ่งเปรียบเสมือน
โค๊ดคอมพิวเตอร์ที่สั่งให้ร่างกายทำงานแตกต่างกันประมาณ 0.1% หรือพูดอีกอย่างว่ามนุษย์โดยทั่วไปมี DNA ที่เหมือนกันอยู่ 99.9% (กล้วยกับมนุษย์มี DNA ร่วมกันอยู่ 44% ส่วนหนูมี DNA ร่วมกับมนุษย์อยู่ 90%) ซึ่งถือว่าแตกต่างกันมากพอควรเพราะ DNA ซึ่งมีอยู่ในแต่ละเซลล์นั้นบรรจุข้อมูลทั้งหมดกว่า 3,000 ล้านข้อมูล
ดังนั้น 0.1% ก็เท่ากับประมาณ 3 ล้านข้อมูล
​อย่างไรก็ดี DNA มนุษย์ซึ่งประกอบด้วยยีนส์ประมาณ 20,000-25,000 ตัว ต้องอาศัยสิ่งแวดล้อมประกอบซึ่งส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของมนุษย์ในการดำรงชีวิต ไม่ว่าการอยู่อาศัย การบริโภค ความเครียด ฯลฯ ในการทำให้ร่างกายทำงานตามที่ยีนส์กำหนด
ดังนั้นถึงแม้มนุษย์มียีนส์เหมือนกัน แต่ร่างกายบางส่วนอาจทำงานอย่างแตกต่างกันได้ นอกจากมนุษย์แตกต่างกันในด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อมสาระพัดรูปแบบแล้ว ความเป็นมนุษย์ซึ่งเป็นผลพวงของหลายอิทธิพลยังแตกต่างกันอีกด้วย มนุษย์มีความฝันและความปรารถนาตลอดจนความสามารถในการเติมมันให้เต็มไม่เหมือนกัน ดังนั้นมนุษย์จึงมีแรงขับเคลื่อนในการต้องการบางสิ่งในชีวิตที่ไม่เหมือนกัน
​ในขั้นพื้นฐาน มนุษย์ทุกคนต้องการปัจจัยสี่ อันได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค
นอกจากนี้ยังต้องการอีก 4 สิ่งเป็นขั้น ๆ ขึ้นไปตามทฤษฎีของ Maslow อันได้แก่ (1) ความมั่นคง ปลอดภัย (2) ความรักและความผูกพันต่อเนื่องกับคนอื่น (3) ความรู้สึกว่าตนเองมีความสำคัญเช่นได้รับการยอมรับ และการเคารพยกย่อง (4) การบรรลุความปรารถนาในการเป็นคนอย่างที่ตนเองต้องการ
​ในโลกจริงภายใต้ DNA และสภาพแวดล้อมที่ได้รับมาแตกต่างกัน มนุษย์แต่ละคนจึงมีความแตกต่างกันมาก ทุกคนมิได้ไต่บันไดข้างต้นจากขั้นพื้นฐานขึ้นไปเรื่อย ๆ และไปยืนที่บันไดขั้นเดียวกันทั้งหมด
บางคนก็อยู่ที่ระดับปัจจัยสี่เท่านั้น บางคนก็อยู่ที่บันไดของความปรารถนาของความมั่นคงในชีวิต บ้างก็มีความปรารถนาขึ้นไปถึงบันไดขั้นต้องการความรัก บ้างก็ต้องการมีความรู้สึกว่าเป็นคนมีความสำคัญ มีคนนับถือและยกย่อง ฯลฯ เมื่อเป็นเช่นนี้คำถามสำหรับทุกคนว่า “ต้องการอะไรในชีวิต”
จึงมีคำตอบที่แตกต่างกันอย่างน่าคิด​บางคนมีชีวิตที่ขับเคลื่อนเพื่อการมีเงินและมีอำนาจ ซึ่งหมายถึงมีความมั่นคงในชีวิตด้วยการมีเงิน และใช้เงินให้บรรลุในสิ่งที่ตนเองต้องการ อีกทั้งมีความรู้สึกว่าตนเองมีความสำคัญ ได้รับความนับถือยกย่อง (ส่วนจะจริงหรือไม่นั้นเป็นคนละประเด็น)
​มนุษย์มีความซับซ้อนในความต้องการของตนในชีวิตอันเนื่องมาจากการเป็นผลพวงของ DNA สิ่งแวดล้อมและประสบการณ์ในชีวิตโดยอาจมีหลายเป้าหมายอย่างตนเองไม่เข้าใจก็เป็นได้ ถ้าคิดออกเร็วเท่าใดก็มีโอกาสวางแผน ปรับแผนและดำเนินการเพื่อให้บรรลุความปรารถนาตนเองได้เร็วและอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น
​สำหรับคำถามที่ว่า “ต้องการให้คนรุ่นหลังนึกถึงตนอย่างไร” ก็โยงใยกับคำถาม “ต้องการอะไรในชีวิต” หากสิ่งที่ต้องการในชีวิตและวิธีการให้ได้มันมานั้นขัดกับหลักจริยรรม ก็คาดเดาได้ว่าลูกหลานจะนึกถึงอย่างไร
1
แต่ถึงแม้ไม่รู้ชัดเจนว่าต้องการอะไรในชีวิต รู้แต่ว่าจะมีชีวิตที่เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นจนทำให้ครอบครัวต้องเดือดร้อนด้วยวิธีการที่สอดคล้องกับคุณธรรมแล้ว คนรุ่นหลังก็จะนึกถึงคุณความดีที่ได้ทำไว้เป็นตัวอย่าง จะว่าไปแล้วการหาคำตอบของคำถามข้อนี้ยังไม่สำคัญเท่ากับว่าตลอดชีวิตของการดำรงชีวิตนั้นได้ทำตนอย่างไร
​คำถาม “อะไรคือความสุข” และ “อะไรคือความทุกข์” นั้น สำหรับคนส่วนหนึ่งตอบได้ยากเพราะทำมาหากินในแต่ละวัน จนไม่รู้ว่าอะไรคือความสุข หรือความทุกข์ เพราะทำงานไปโดยมิได้นึกถึงอะไร เพียงตระหนักว่าความทุกข์และความสุขนั้นก็มีมาสลับกันไปโดยไม่คิดลงไปลึก ๆ ว่าอะไรทำให้เกิดความสุขและความทุกข์
บางคนอาจตอบว่าการมีเงินคือความสุข หากไม่มีเงินก็เกิดความทุกข์ ยิ่งมีเงินมากยิ่งมีความสุขมาก
แต่เมื่อคำนึงถึงว่าการมีสุขภาพดีและการมีครอบครัวที่มีความสุขอบอุ่นนั้นไม่ต้องพึ่งพาเงินทองมากมาย และเห็นคนรวยมากหลายคนสุขภาพย่ำแย่และไม่มีความสุขจากครอบครัวก็อาจทำให้เกิดคำตอบอื่น ๆ ทั้งระยะสั้นและยาวได้ เช่นในระยะสั้นความสุขคือ เห็นหลานเติบโต เห็นไม้ที่ปลูกออกดอก ได้ฟังเพลงเพราะ ได้กินอาหารอร่อย ได้ดูหนังเซียรี่ส์สนุก ๆ ฯลฯ
หรือในระยะยาวความสุขคือเห็นสังคมของเราก้าวหน้า บ้านเมืองสงบไม่วุ่นวาย มีชีวิตที่ราบรื่นไม่ผันผวน ได้มีโอกาส“แจกของ-ส่องตะเกียง” (คนในวัยสูงอายุ “ให้ของ” และ “ให้ปัญญา” แก่ผู้อ่อนวัยกว่า ) ฯลฯ
​ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิดสำหรับคำถามทั้ง 4 ข้างต้น เพราะมนุษย์แต่ละคนแตกต่างกันทั้งประสบการณ์ในชีวิต วิธีคิดตลอดจนการมองโลก ตราบที่ได้ใคร่ครวญคำถามที่แสนธรรมดาแต่ลึกซึ้งนี้แล้วก็เป็นประโยชน์ทั้งสิ้น ในชีวิตอันแสนสั้นของเราที่เข็มนาฬิกาไม่เคยหยุดเดินนั้น การรู้จักตนเองจากการพยายามคิดค้นหาคำตอบของคำถามเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่อาจผัดวันประกันพรุ่งได้
………………………………….
โฆษณา