16 มิ.ย. 2022 เวลา 07:37 • ดนตรี เพลง
Seo Taiji and Boys กับนิยามของคำว่า K-POP
Seo Taiji and Boys
ปัจจุบันนั้นกระแสของ K-POP มาแรงเป็นอย่างมากไม่ใช่เพียงแค่ในเอเชียเท่านั้นแต่ยังโด่งดังไปทั่วโลก และ ด้วยความที่กระแสของK-POPโด่งดังนี้วันนี้จึงอยากจะเขียนถึงกลุ่มศิลปินผู้บุกเบิกนิยามของคำว่า K-POP ยุคแรก กลุ่มศิลปินกลุ่มนั้นก็คือ Seo Taiji and Boys นั่นเอง!!
ต้องขอย้อนกลับไปช่วงปี ค.ศ.1992 มีกลุ่มศิลปิน 3 คนที่ใช้ชื่อว่า "Seo Taiji and Boys" ซึ่งสามชิกประกอบไปด้วย Seo Taiji , Yang Hyun-suk (หรือท่านประธาหยางแห่งค่ายYGนั่นเอง) และ Lee Juno ทั้ง 3 คนได้ขึ้นแสดงในรายการแสดงของสามารถของทาง MBC ด้วยเพลง 난알아요-Nan Arayo(I Know) ซึ่งการแสดงเพลงนี้นั้นได้คะแนนน้อยที่สุด แต่อย่างไรก็ตามเพลง난알아요-Nan Arayo(I Know) นั้นกลับกลายเป็นเพลงที่ฮิตขึ้นมาซะงั้น
난알아요-Nan Arayo(I Know) MV
โดยเพลง난알아요-Nan Arayo(I Know) เป็นเพลงแนวแบบ"New Jack Swing"และมีสิ่งหนึ่งที่ Seo Taiji and Boys ทำในเพลงนี้และได้กลายเป็นขนบของ K-POP จนถึงทุกวันนี้นั้นก็คือ การเต้นด้วยกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งเพลง 난알아요-Nan Arayo(I Know) นั้นติดชาร์ตเพลง อันดับหนึ่ง ถึง 17 สัปดาห์ติดต่อกัน ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ต่อมาในปี ค.ศ. 1993 นั้น Seo Taiji and Boys กลับมาพร้อมกับอัลบั้มชุดที่สองที่ใช้ชื่อว่า "Seo Taiji and Boys II (1993)" อัลบั้มที่สองนั้นเพลงที่น่าสนใจ คือเพลง 하 여 가 Hayeoga(Anyhow song) ซึ่งเป็นเพลงที่แตกออกไปด้วยการใส่ความเป็น Rock เข้ามาในเพลง เพราะเพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้มนั้นจะเป็นเพลง Dance ซะส่วนใหญ่
하여가(Anyhow Song) MV
ต่อมาในปี ค.ศ.1994 Seo Taiji and Boys ได้ปล่อยอัลบั้มที่3 ออกมามีชื่อว่า "Seo Taiji and Boys III (1994) " อัลบั้มนี้มีเพลงดังอย่าง 발해를꿈꾸며Balhaereul Kkumkkumyeo (Dreaming of Balhae) ความหายของเพลงจะแสดงถึงการรวมชาติของเกาหลีเพลงนี้นั้นจะมาในรูปแบบของแนว "AlterNative Rock"และอีกเพลงที่น่าสนใจในอัลบั้มที่3 นี้ก็คือ교 실 이 데 아 Kyoshil(Clasroom Idea) ตั้งคำถามต่อการศึกษาในสังคมเกาหลี
발해를꿈꾸며Balhaereul Kkumkkumyeo (Dreaming of Balhae) MV
ต่อมาในปี ค.ศ.1995 นั้น Seo Taiji and Boys ได้ปล่อยอัลบั้มที่4 ออกมาโดยใช้ชื่อว่า "Seo Taiji and Boys IV (1995)" โดยเพลงในอัลบั้มที่4นี้มีอย่าง 시대유감Sidae Yugam(Regret of the Times) ซึ่งเป็นเพลงที่ถูกแบนจาก คณะกรรมการจริยธรรมการแสดงสาธารณะ เพราะเนื้อหาเป็นการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเกาหลีใต้
และSeo Taiji ถูกบังคับให้เขียนเนื้อหาเพลงใหม่ ซึ่ง Seo Taiji นั้นไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งจึงได้ทำการปล่อยเพลงนี้ออกมาแค่ทำนอง ไม่มีเนื้อร้อง และเป็นหนึ่งในชนวนที่ทำให้เกิดการเรียกร้องการยกเลิกระบบการเซ็นเซอร์สื่อล่วงหน้าขึ้นมา และการเรียกร้องของประชาชนในครั้งนี้ก็สำเร็จด้วยดี
หลังจากที่ยกเลิกกการเซ็นเซอร์สื่อล่วงหน้าสำเร็จนั้น เพลง시대유감Sidae Yugam(Regret of the Times) นั้นก็ได้ถูกปล่อยออกมาอีกครั้งในรูปแบบเพลงที่มีเนื้อร้อง และ ทำนอง
시대유감Sidae Yugam(Regret of the Times) MV (Origianl)
หลังจากนั้น Seo Taiji and Boys ก็ได้ประกาศยุบวง และ สมาชิกทุกคนก็ได้แยกย้ายกันเดินไปตรามเส้นทางของตัวเอง
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ Seo Taiji and Boys ได้ทำนั้นถือได้ว่าเป็นการพลิกโฉมวงการK-POPเลยก็ว่าได้ และ ยังได้เป็นการวางรากฐานให้ศิลปิน K-POP รุ่นหลังได้เดินรอยตามมาจนถึงปัจจุบัน
#SeoTaijiandBoys #K-POP #MusicNerd
โฆษณา