เราขอเชิญชวน ไปชมภาพที่ง่ายที่สุด ในการเข้าใจภาพภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ครั้งล่าสุดของโลกที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ในช่วงปี 2007-2008 หรือวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ (ซับไพรม์) กับภาพยนตร์ The Big Short ของผู้กำกับ อดัม แม็คเคย์ (Adam McKay)
ย้อนเข็มนาฬิกากลับไปในปี 15 กันยายน 2008 ถือเป็นวันที่ทั่วโลก ปักหมุดเหตุการณ์วิกฤตการเงินทั่วโลก หรือที่รู้จักกันในชื่อ วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ หรือ วิกฤตซับไพรม์ และได้ถูกเล่าเรื่องผ่านภาพยนตร์ The Big Short
ความน่าสนใจของภาพยนตร์ The Big Short หรือ ชื่อไทย คือ เกมฉวยโอกาสรวย นั่นคือ หยิบยกเอาเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องที่ดูจะเป็นเรื่องยาก และเข้าถึงได้ยาก มาเล่าในมุมมองที่ทิ่มแทงอย่างสุดแสบและเสียดสี , เพราะถ้าเป็น เรื่องเล่าในทำนองทั่วไป อาจจะขอเล่าเรื่องในมุมมอง "ผู้แพ้" จากวิกฤตโลกครั้งนั้น
ภาพยนตร์ The Big Short เกมฉวยโอกาสรวย เรื่องนี้ ดัดแปลงบทจากหนังสือ non-fiction ขายดีชื่อเดียวกันกับหนัง ผลงานเขียนของ ไมเคิล ลูอิส Michael Lewis (เจ้าของผลงานหนังสือ Moneyball และ The Blind Side ซึ่งถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์เช่นกัน) ได้หยิบเรื่องราวดังกล่าวมาเล่าใหม่ด้วยการเปลี่ยนมุมมอง ตัวเรื่องกลับสำรวจความย่อยยับของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านสายตาของ “ผู้ชนะ” จากระบบนี้
อย่างไรก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าเลห์แมน บราเธอร์ส จะเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดนี้ เพราะต้นตอแท้จริงของวิกฤตครั้งนั้นมาจากภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ สืบเนื่องจากการเก็งกำไรในตลาดที่อยู่อาศัย ซึ่งภาพยนตร์ The Big Short จะเล่าเรื่องการพังทลายของอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯในเวลานั้น
คำถามที่เกิดหลังจากรับชมภาพยนตร์ The Big Short จบลง นั่นคือ ถ้าหากทุกคน เห็นเค้าลางของความปี่ป่นแหลกสลายแล้ว ทุกคนจะเลือกฝั่งใด ระหว่างออกลุยเตือนตลาดที่กำลังคลั่งและมั่นใจมาก กับ เป็นคนกลุ่มน้อยผู้ซึ่งเลือกเดิมพันเพื่อความมั่งคั่งอันเกิดจากความพินาศของคนทั้งตลาดแบบในหนัง ?