20 มิ.ย. 2022 เวลา 02:50 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ทำไมเวเนซุเอลา มีน้ำมันดิบสำรองมากสุดในโลก แต่ผลิตได้นิดเดียว ?
“ราคาน้ำมัน” ทำจุดสูงที่สุดในรอบ 14 ปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่าประเทศที่ร่ำรวยน้ำมัน จะมีความสุขขนาดไหน
แต่ประเทศเวเนซุเอลาอาจไม่ใช่หนึ่งในนั้น
1
เวเนซุเอลา เป็นประเทศที่มีน้ำมันดิบสำรองมากที่สุดในโลก มากกว่าซาอุดีอาระเบียด้วยซ้ำ
แต่ถ้ามาดูความสามารถในการผลิตต่อวัน เวเนซุเอลากลับผลิตได้น้อยกว่าเป็น 10 เท่า
1
ทำไมประเทศที่มีน้ำมันดิบสำรองมากที่สุดในโลกอย่างเวเนซุเอลา
กลับนำขุมทรัพย์ทางทรัพยากรที่มี มาผลิตไม่ได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
1
ข้อมูล ณ​ สิ้นปี 2020 ประเทศที่มีน้ำมันดิบสำรองมากที่สุดในโลก คือ
อันดับ 1 เวเนซุเอลา มีน้ำมันดิบ 304,000 ล้านบาร์เรล คิดเป็น 17.5% ของน้ำมันดิบทั้งโลก
อันดับ 2 ซาอุดีอาระเบีย มีน้ำมันดิบ 298,000 ล้านบาร์เรล คิดเป็น 17.2% ของน้ำมันดิบทั้งโลก
ส่วนรัสเซียอยู่ที่อันดับ 6 มีน้ำมันดิบ 108,000 ล้านบาร์เรล
และสหรัฐอเมริกาอยู่ที่อันดับ 9 มีน้ำมันดิบ 69,000 ล้านบาร์เรล
แล้วปริมาณ 304,000 ล้านบาร์เรล ที่เวเนซุเอลามี เยอะแค่ไหน ?
3
ถ้าเปรียบเทียบกับการใช้น้ำมันในประเทศไทย ซึ่งใช้ในปริมาณปีละ 300 ล้านบาร์เรล
ก็เท่ากับว่า เวเนซุเอลา มีน้ำมันเพียงพอต่อการบริโภคในประเทศไทยถึง 1,000 ปี เลยทีเดียว..
4
แม้ว่าเวเนซุเอลาจะมีแหล่งน้ำมันดิบเยอะ
แต่หากเรามาดูกำลังการผลิตในปี 2021
1
- สหรัฐอเมริกา ผลิตน้ำมันได้ 11.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- รัสเซีย ผลิตน้ำมันได้ 10.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ซาอุดีอาระเบีย ผลิตน้ำมันได้ 10.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- เวเนซุเอลา ผลิตน้ำมันได้ 0.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
จะเห็นได้ว่าเวเนซุเอลาผลิตน้ำมันได้ไม่ถึง 1 ใน 10 ของผู้ผลิตอันดับ 1 อย่างสหรัฐอเมริกาด้วยซ้ำ
แล้วมันเป็นเพราะอะไร ?
1
ในความเป็นจริงแล้ว เวเนซุเอลาเคยมีกำลังการผลิตน้ำมัน สูงถึง 3.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 1998
แต่หลังจาก พันโท อูโก ชาเบซ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของประเทศ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
4
ด้วยนโยบายประชานิยมสุดโต่งของอูโก ชาเบซ พนักงานจากบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา หรือ Petróleos de Venezuela, S.A. เรียกสั้น ๆ ว่า PDVSA ก็ได้รวมตัวกันหยุดงานประท้วง เพื่อให้ อูโก ชาเบซ ลงจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับนโยบายของประธานาธิบดีคนนี้
แต่การประท้วงก็ไม่เป็นผล แถมมันยิ่งจุดชนวนให้อูโก ชาเบซ จอมเผด็จการ สั่งไล่พนักงานราว 18,000 คนออกจากบริษัท ซึ่งมีตั้งแต่พนักงานระดับปฏิบัติการ ผู้เชี่ยวชาญ ไปจนถึงผู้บริหารระดับสูง
1
เท่านั้นยังไม่พอ อูโก ชาเบซ ยังได้นำบุคลากรในกองทัพ รวมถึงพวกพ้องที่เห็นดีเห็นงามกับตน เข้ามานั่งในตำแหน่งผู้บริหารอีกมากมาย ทั้ง ๆ ที่บุคคลเหล่านั้นไม่ได้มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจน้ำมันเลย
4
อูโก ชาเบซ ออกคำสั่งบงการองค์กรตามใจชอบ ถึงขนาดที่ว่า “Screensaver” บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของบริษัทก็ยังถูกเปลี่ยนให้เป็นรูปของตัวเขาเอง..
1
อีกเรื่องสำคัญก็คือ น้ำมันดิบของเวเนซุเอลาส่วนใหญ่ถึง 77%
เป็น Extra-Heavy Crude Oil หรือ น้ำมันดิบชนิดหนักพิเศษ
ทำให้กระบวนการกลั่น ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและซับซ้อน จึงต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาลในการผลิต
3
เวเนซุเอลาจึงได้เริ่มเชิญชวนให้บริษัทน้ำมันชั้นนำจากต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น Total, Chevron, BP, ExxonMobil หรือ ConocoPhillips เข้ามาลงทุน
2
โปรเจกต์หลายหมื่นล้านบาท ถูกใช้ไปกับการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยีขั้นสูง
ในการเปลี่ยนจากน้ำมันดิบชนิดหนักพิเศษ ให้กลายเป็นเกรดที่สามารถส่งออกเพื่อขายได้
พอมาในปี 2007 เป็นช่วงเวลาที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น
ประกอบกับว่าบริษัทน้ำมันจากต่างชาติ ที่ลงทุนไปอย่างมหาศาลเริ่มเห็นผลกำไร
แต่อูโก ชาเบซ กลับแก้ไขข้อตกลงใหม่ ให้บริษัทน้ำมันต่างชาติควบรวมกับ PDVSA และต้องให้ PDVSA เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย
3
บริษัท Total, Chevron และ BP ยอมรับข้อตกลง และทำโครงการต่อในเวเนซุเอลา
ในขณะที่บริษัท ExxonMobil และ ConocoPhillips ตอบปฏิเสธ และถอนทุนกลับประเทศไป
ส่งผลให้ทรัพย์สินของทั้งสองบริษัทถูกเวนคืน
3
นอกจากนั้นก็ยังมีอีกกว่า 70 บริษัทย่อย ๆ ที่อยู่ในซัปพลายเชน ก็ถูกรวมเข้ามาเป็นของรัฐด้วย
4
ในช่วงน้ำมันขาขึ้น เวเนซุเอลาสามารถทำกำไรได้มหาศาล แต่กำไรเหล่านั้น กลับถูกนำไปใช้กับนโยบายประชานิยมแบบสุดโต่ง เพื่อสร้างคะแนนเสียงให้กับผู้นำประเทศ และการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีแนวคิดทางการเมืองแบบเดียวกัน
1
ในขณะที่ธุรกิจน้ำมัน ที่เปรียบเสมือนเป็นเครื่องจักรผลิตรายได้เข้าประเทศ
กลับไม่ถูกให้ความสำคัญ โดยไม่ได้รับเงินไปลงทุนต่อยอด หรือพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อะไรเลย
2
จนเมื่อเวลาผ่านไป กำลังการผลิตของบริษัทน้ำมันหลายแห่งก็ได้ลดน้อยลงเรื่อย ๆ และบริษัทน้ำมันก็เริ่มขาดทุนหนัก จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ต่อมาผู้รับเหมาก็เริ่มหยุดงาน เนื่องจากบริษัทน้ำมันมีหนี้ค้างชำระ
2
พนักงานถูกลดค่าตอบแทน หลายคนต้องลาออก ส่วนกลุ่มวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญระดับหัวกะทิต่าง ๆ ก็สมองไหล ย้ายออกไปทำงานนอกประเทศ
แท่นขุดเจาะ อุปกรณ์ และเครื่องจักรต่าง ๆ ถูกปล่อยทิ้งร้าง
แม้แต่วาล์วหรือท่อส่งน้ำมันก็ถูกขโมยไปหมด
น้ำมันถูกปล่อยให้รั่วไหล จนทะเลสาบบางแห่งถูกปกคลุมไปด้วยคราบน้ำมัน ชนิดที่ว่ามองเห็นได้จากภาพถ่ายดาวเทียม
3
สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อผู้คนโดยรอบ และกลายเป็นพื้นที่ที่ไม่มีใครอยากเข้าใกล้
เพราะวันดีคืนดีท่อส่งน้ำมันอาจจะระเบิดขึ้นมาก็ได้
มีการประเมินว่า ต้องใช้เงินลงทุนมากถึง 2.5 ล้านล้านบาท บวกกับระยะเวลาอีก 10 ปี
เวเนซุเอลาจึงจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิต จากวันนี้ที่ 0.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
เพื่อกลับไปอยู่ในจุดเดียวกันกับปี 1998 ที่ 3.5 ล้านบาร์เรลต่อวันได้
2
แต่ด้วยปัญหาหนี้สินของประเทศ และวิธีการบริหารของรัฐบาลที่ผิดพลาด ไม่รู้ว่าจะถูกยึดกิจการเมื่อไร จึงทำให้ไม่มีประเทศไหนกล้าที่จะเข้ามาลงทุน และเป็นความท้าทายของเวเนซุเอลาที่จะต้องฟื้นกลับมาให้ได้อีกครั้ง
จากเรื่องราวทั้งหมดก็พอจะสรุปได้ว่า
1
- เกิดจากความผิดพลาดในการบริหารประเทศของรัฐบาล
- การบิดเบือนตลาด ไม่ให้กิจการดำเนินไปอย่างเสรี
- ไม่มีการลงทุนในเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างต่อเนื่อง
- มีค่าตอบแทนไม่เพียงพอที่จะดึงบุคลากรที่มีความสามารถให้อยู่ในประเทศ
3
สิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เวเนซุเอลา
ประเทศที่ตั้งอยู่บนขุมทรัพย์ทางทรัพยากรอันล้ำค่า
แต่กลับทำให้มันเป็นสิ่งไร้ค่า ด้วยมือของผู้มีอำนาจในประเทศเอง..
1
หนังสือ BRANDING THE NATION หนังสือที่เล่าถึงการสร้างแบรนด์ของแต่ละประเทศที่ทำให้ แต่ละประเทศเป็นแบบทุกวันนี้
1
เช่น ทำไมเยอรมนีเป็นประเทศแห่งรถยนต์ ทำไมฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งแบรนด์หรู สั่งซื้อเลยที่
โฆษณา