20 มิ.ย. 2022 เวลา 00:00 • สุขภาพ
UPDATE : ชวนติดป้ายหน้าร้าน “ร้านนี้ไม่มีกัญชา” 🙅🏻‍♂️ ลดผลกระทบกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงได้รับผลกระทบจาก #การบริโภคอาหารผสมใบกัญชา
🔻นางสาวกชนุช แสงแถลง ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวถึง การที่รัฐบาลให้สามารถ #ใช้กัญชาเป็นส่วนประกอบในอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องสำอางได้แล้ว ทำให้เมนูคาวหวาน ไอศกรีม เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชาแพร่หลายและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากแต่ปรากฏว่า “กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง” ได้รับผลกระทบจากการบริโภคอาหารผสมใบกัญชา
🔻มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มีความกังวลถึงผลกระทบ หรือความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น จึงสร้างแคมเปญรณรงค์ให้ ธุรกิจอาหาร อาทิ ร้านอาหาร เจ้าของผลิตภัณฑ์ ติดฉลากหรือแขวนป้ายหน้าร้านบอกให้ผู้บริโภคทราบว่า อาหารที่ผลิตไม่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบ
🔻ซึ่งจะเป็นทางเลือกและเป็นประโยชน์กับผู้บริโภค โดยเฉพาะ “กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง” โดยผู้บริโภคทุกท่านสามารถเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นกับแคมเปญนี้ได้ที่ https://ffcthailand.org/campaign/5
🔻สำหรับผู้ประกอบการสามารถดาวน์โหลดโปสเตอร์ #ร้านนี้ไม่มีกัญชา ไปใช้ได้ ในขณะเดียวกันสำหรับผู้ประกอบการที่มีความพร้อมในการผลิตก็ควรจะแสดงฉลากส่วนผสม ปริมาณกัญชาที่มีในอาหารให้ผู้บริโภคได้รู้เท่าทันว่า อาหารที่เลือกรับประทานมีส่วนผสมของกัญชา
🔻นอกจากนี้กลุ่มเจ้าของร้านอาหาร จึงควรจะติดป้ายประกาศให้ชัดเจนเพื่อให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจเลือกว่าจะรับประทานหรือไม่ ตลอดจนข้อควรระวังหลังรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของกัญชา แม้จะมีปริมาณเล็กน้อย เพราะแต่ละคนมีความไวต่อปริมาณหรือสารในกัญชาไม่เท่ากัน
🔻ปัจจุบันยังไม่มีกลไกที่ควบคุมติดตามธุรกิจอาหารที่นำ “ส่วนประกอบของกัญชา” มาประกอบอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการโฆษณาที่ชัดเจน อย.มีเพียงมาตรการสุ่มตรวจเพื่อดูว่ากัญชาที่นำมาใช้มาจากแหล่งที่ถูกกฎหมายหรือไม่เท่านั้น
🔻ขณะที่ผู้บริโภคมีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับสารเมาในกัญชาจากการรับประทานเมนูที่หลากหลาย กระบวนการแปรรูปที่อาจจะก่อให้เกิดสารเมาได้มากขึ้น ทั้งยังยากต่อการระบุปริมาณ
🔻นอกจากนี้ผลของกัญชาที่ได้รับผ่านอาหารและเครื่องดื่มยังออกฤทธิ์ช้า จึงอาจทำให้ผู้บริโภคเผลอรับประทานในปริมาณมาก สารTHC ในกัญชา ได้เปลี่ยนกระบวนการทำงานของสมองให้แสดงความหิวโหยแม้ว่าเพิ่งกินไปหรือไม่มีความหิวเลยก็ตาม
🔻อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังควรต้องติดตามและเฝ้าระวังการใช้กัญชา โดยผลการศึกษาของวารสารทางการแพทย์แคนาดารายงานอย่างชัดเจนว่า “เด็ก และ ผู้สูงอายุ” เป็น“กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง” ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
🔻อีกทั้งทุกกลุ่มวัยต้องระวังเช่นกัน เพราะแต่ละคนจะมีความไวต่อสารในกัญชาไม่เท่ากัน ตามเพศ น้ำหนัก และอาหารที่บริโภค ซึ่งผลจากการได้รับกัญชามากเกินไป คือ ทำให้เกิดอาการทางจิต เกิดความหวาดกลัว สับสน และเกิดภาพหลอน ในผู้สูงอายุสามารถเกิดอาการทางหัวใจได้
📍อ้างอิง : มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
#LetTheTrustedBeYourFriend
#TheTrusted
ร้านนี่ไม่มีกัญชา
โฆษณา