High Yield Bond เป็นตราสารหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) โดยมี Credit Rating ต่ำกว่า BBB หรือเป็นตราสารหนี้ที่ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Bonds) จึงให้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยในรูปแบบของ Coupon Rate สูงกว่าหุ้นกู้บริษัทเอกชนทั่วไป ที่มี Credit Rating ในระดับที่ลงทุนได้ ตามหลักการ High Risk High Return นั่นเอง
แม้ในบ้านเรานักลงทุนอาจไม่คุ้นเคยกับ High Yeild Bond มากนัก ขณะที่ไม่มีโปรดักส์หลายหลากให้เลือกลงทุน แต่การลงทุน High Yield Bond ในต่างประเทศค่อนข้างคึกคัก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับหนึ่งของโลก บริษัทขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลานาน มีแบรนด์สินค้าเป็นที่รู้จัก คุณภาพสินค้าเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง
เช่น Ford Motors, T-Mobile หรือ Bath & Body Works ระดมทุนผ่านตราสารประเภทดังกล่าว และได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
แล้วอะไรที่ทำให้การลงทุนใน High Yield Bond ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ?
1. คุณภาพของบริษัท ซึ่งสะท้อนจากผลการดำเนินงาน กระแสเงินสด และความสามารถในการชำระหนี้ โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทที่ออก High Yeild Bond ในหสรัฐฯ โชว์อัตราผิดนัดชำระหนี้เพียง 0.5% เท่านั้น ซึ่งแปลว่าใน 100 บริษัทที่ออกตราสารดังกล่าว มีผู้ผิดนัดชำระไม่ถึง 1 บริษัท
2. Valuation ที่บ่งชี้ว่าราคายังไม่แพงเกินไป แม้ทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed จะทำให้แนวโน้มผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ลดลง แต่ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ลงทุนได้ ซึ่งอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนใน High Yield Bond ของสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3.5-4%
3. สภาวะเศรษฐกิจ ถือเป็นปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณาสำหรับการลงทุนในทุกประเภทสินทรัพย์ รวมทั้ง High Yield Bond เพราะสภาพเศรษฐกิจย่อมสะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ขณะเดียวกันปัจจัยด้านอื่น ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ย ก็ย่อมส่งผลต่อการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทที่แตกต่างกันไป ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
แล้วในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นแบบนี้ลงทุนใน High Yeild Bond จะดีมั๊ย?
BBLAM มองว่ายังสามารถเลือกลงทุนใน High Yield Bond ได้ โดยในภาพรวมบริษัทที่ออกตราสารดังกล่าวยังสามารถจ่ายดอกเบี้ยให้กับนักลงทุนได้ครบถ้วน ตามกำหนด อย่างไรก็ตามนักลงทุนต้องไม่ลืมหลักการกระจายความเสี่ยง
แบบที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนอย่าง B-HY (UH) AI และแบบที่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของเงินลงทุนในต่างประเทศอย่าง B-HY (H75) AI
ทั้ง B-HY (UH) AI และ B-HY (H75) AI มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก คือ AXA World Funds - US High Yield Bonds เพียงกองทุนเดียว ซึ่งกองทุนหลักมีนโยบายลงทุนใน High Yield Bond ของบริษัทในสหรัฐฯ 250 แห่ง ซึ่งมี Credit Rating ที่หลากหลาย และกระจายในหลายอุตสาหกรรม เป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงให้นักลงทุนอีกทางหนึ่ง โดยกองทุนดังกล่าวเสนอขายนักลงทุนที่มีเงินลงทุนสูง หรือกลุ่ม High Net Worth และรับความเสี่ยงสูงได้