Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลือชัย พิศจำรูญ
•
ติดตาม
20 มิ.ย. 2022 เวลา 10:20 • ประวัติศาสตร์
กำนันช้อง คล้ายคลึง
ครู-นักเลง หลั่งเลือดบนถนนการเมือง
ย้อนไปเมื่อ ๓๙ ปีก่อนโน้น ข่าวกลุ่มมือปืนรุมกระหน่ำยิง “กำนันช้อง คล้ายคลึง” ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบุรี พรรคกิจสังคม ถึงแก่ความตายขณะไปหาเสียงก่อนถึงวันลง
คะแนนเลือกตั้งไม่กี่วัน เป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญโด่งดังไปทั่วประเทศ ตอกย้ำความดุของมือปืนเมืองเพชร
“กำนันช้อง คล้ายคลึง” หนุ่มวัย ๓๕ ปี ในสมัยนั้นนับว่าเป็นคนหนุ่มที่กำลังมีอนาคตสดใสทางการเมือง กลุ่มมือปืนแฝงตัวในมุมมืดสองข้างทาง ถล่มยิงกำนันช้องด้วยอาวุธสงครามใส่รถยนต์เก๋งวอลโว่ สีเลือดหมู ขณะกำนันช้องกับพวก
กำลังออกมาจากงานแข่งขันวัวลานที่กำนันได้รับเชิญให้ไปเป็นประธานในงานประจำปีของวัดยาง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี และเป็นการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย
กัมปนาทแห่งปืนอาวุธสงครามแผดดังไปทั่ว ๘ ทิศ รัวยิงประมาณ ๗ นาที สังมัจจุราชคำรามจึงเงียบสงบ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างก็คืนสู่ความเงียบสงัดหลังเกิดเหตุ สภาพรถยนต์เก๋งวอลโว่คู่ชีพของกำนันช้องเป็นรูพรุนนับร้อยนัดคล้ายรวงผึ้ง
ปลอกกระสุนเอ็ม ๑๖ ร่วงหล่นกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณกว่า ๑๐๐ ปลอก
ภายในรถพบร่าง “กำนันช้อง คล้ายคลึง” ถูกยิงจนร่างเละ ตายคาที่ บนถนนสายบ้านห้วย-วัดยาง (ถนนบรรพตศิลคุณ) อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
"เส้นทางชีวิต" ฉบับนี้ขอร้อยเรียงเรื่องราวประวัติชีวิต กำนันช้อง คล้ายคลึง จากคำบอกเล่าของ นายชุบ คล้ายคลึง นายก อบต.ช่องสะแก อ.เมือง จ.เพชรบุรี ผู้
เป็นน้องชายคนที่ ๓ ของกำนันช้อง
นายกฯชุบ ฟื้นเหตุการณ์จากความทรงจำที่ยังฝังแน่นให้ “เพชรภูมิ” ได้ทราบว่า “นายช้อง คล้ายคลึง” เกิดเมื่อปี ๒๔๘๗ ที่บ้านโตนดหลาย หมู่ ๖ ต.ช่องสะแก อ.เมือง จ.เพชรบุรี เป็นบุตรคนโตของ นายเชียร-นางสม คล้ายคลึง จากจำนวนพี่น้องทั้งหมด ๘ คน
ในวัยเยาว์ ด.ช.ช้อง เข้ารับการศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนวัดพระรูป (จันทศรีสงเคราะห์) ต.ช่องสะแก และจบชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนสุวรรณรังสฤษฏ์วิทยาลัย หลังจากนั้นได้เดินทางไปศึกษาต่อที่กรุงเทพฯ จนสําเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (ปก.ศ.สูง)
เมื่อถึงปีบวช นายช้องเข้ารับการอุปสมบทที่วัดมหาธาตุวรวิหาร อ.เมือง
จ.เพชรบุรี หลังจากลาสิกขาได้ไปเป็นครูสอนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนสุวรรณรังสฤษฏ์วิทยาลัย จากนั้นรับราชการครูที่โรงเรียนวัดหว้า ต.สะพานไกร อ.บ้านลาด และโรงเรียนวัดจันทราวาส (ศุขประสารราษฎร์)
ในช่วงนั้นตำแหน่งกำนันตำบลช่องสะแกได้หมดวาระ นายช้องมีความสนใจรับใช้ชาวบ้าน จึงลาออกจากการเป็นครู ไปลงสมัครเป็นผู้ใหญ่บ้านและต่อมาได้รับ
เลือกให้เป็นกำนันตำบลช่องสะแกแบบไร้คู่แข่ง
ด้วยความที่กำนันช้องมีบุคลิกภาพสุขุม เยือกเย็น เป็นคนลุ่มลึก เด็ดขาด กล้าหาญ ใจนักเลง พูดคำไหนเป็นคำนั้น รับปากใครแล้วจะต้องทำให้ได้ ในฐานะผู้นำชุมชนได้ทำงานรับใช้ชาวบ้านในพื้นที่อย่างไม่บกพร่อง จึงมีบริวารและพวกพ้องมากมาย กิตติศัพท์เป็นที่เกรงขามแก่คนทั่วไป มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านใจ
นักเลงในแบบฉบับลูกผู้ชายชาวเมืองเพชร
แม้แต่ที่เขาพับผ้า จ.ตรัง ดินแดนคนดุของภาคใต้ ขณะนั้นที่นั่นเป็นแหล่งชุมนุมโจรและเหล่ามือปืนชื่อดัง ก็ยังกล่าวถึงกำนันช้องในเชิงให้ความเคารพนับถือ
สมัยนั้นที่บ้านกำนันช้องใน ต.ช่องสะแก ได้เปิดเป็นบ่อนการพนันประเภทกำถั่ว ไฮโลว์ ไพ่เผ (โป๊กเกอร์แบบจีน) ฯลฯ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนดังที่มีชื่อเสียงมา
จากกรุงเทพฯและทั่วสารทิศ “เฮียเหลา” แคล้ว ธนิกุล (โหงว ห้าพลัง) เจ้าพ่อวงการหมัดมวยชื่อดังก็แวะเวียนมาเล่นการพนันที่บ่อนบ้านกำนันช้องอยู่เป็นประจำ
กำนันช้องจะบอกกับนักพนันทุกคนที่มาเล่นในบ่อนว่า “เล่นกันให้สบายใจ ถ้าเล่นได้ ออกไปไม่ต้องกลัวโดนปล้นโดนจี้ เพราะคนปล้นคนจี้จะไม่มีวันได้ใช้สตางค์”
เป็นกำนันตำบลช่องสะแกอยู่นานหลายปี ต่อมากำนันช้องได้ตัดสินใจลาออกไป
ลงสนามการเมืองท้องถิ่น ได้รับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาจังหวัดเพชรบุรี (ส.จ.เพชรบุรี) ชื่อเสียงก็ยิ่งขจรขจาย มีผู้คนรู้จักมากยิ่งขึ้น และมีพรรคพวกหัวคะแนนอยู่ทุกอำเภอ
ในที่สุด “กำนันช้อง” ได้รับการทาบทามให้ก้าวสู่สนามการเมืองระดับประเทศ โดยลงสมัครรับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.เพชรบุรี สังกัดพรรคกิจสังคม ได้หมายเลข
๘ ซึ่งมีกำหนดวันลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๒๒
นักการเมืองที่เป็นคู่แข่งในสนามเลือกตั้งขณะนั้นคือ นายปิยะ อังกินันทน์ พรรคสยามประชาธิปไตย นายพานิช สัมภวคุปค์ พรรคประชาธิปัตย์ และ พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร คู่แข่งคนสำคัญของกำนันช้อง ลงสมัครในนามพรรคเสรีนิยม
นายชุบเล่าว่า “ในช่วงนั้น พล.ต.ท.เชาว์ ธนสุกาญจน์ อัศวินเจ้าของฉายา “สิงห์
1
ลำพอง” ญาติผู้ใหญ่ที่ผมเคารพนับถือและเคยไปอาศัยอยู่ด้วย ได้เตือนพี่ช้องไม่ให้ลงเล่น ส.ส. เพราะเห็นว่าอายุยังน้อย และการเมืองขณะนั้นกำลังขับเคี่ยวกันรุนแรงมาก แต่พี่ช้องไม่เชื่อ ประกอบกับ พ.ต.ท.บุญเลิศ เลิศปรีชา รองหัวหน้าพรรคกิจสังคม (รมช.กระทรวงมหาดไทย) ส่งคนมาเช็คดูในพื้นที่แล้ว พบว่าพี่ช้องมีคะแนนเสียงดีมาก จึงสนับสนุนให้ลงสมัคร ส.ส.”
กำนันช้องได้ออกไปหาเสียงและได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ของจังหวัดเพชรบุรี จนถือได้ว่าเป็นตัวเก็งในการชิงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนในขณะนั้น
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๒๒ ก่อนวันเลือกตั้งประมาณ ๑ เดือน ขณะ นายวัน นพคุณ ขับเก๋งวอลโว่สีเลือดหมู
หมายเลขทะเบียน ๙ ข - ๔๐๕๙ พากำนันช้องเดินทางไปเป็นประธานเปิดการแข่งขันวัวลานในงานประจำปีวัดยาง อ.เขาย้อย กำนันช้องนั่งอยู่ที่เบาะหน้าข้างคนขับ และมี นายฉะอ้อน ตรีหัตถ์ ชาว ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด กับ จ.ส.อ.ชัยยะ กลิ่นโพกลั่น ทหารสังกัด ร.๒๑ พัน ๒ ชลบุรี นั่งอยู่ที่เบาะด้านหลัง และยังมีรถยนต์กระบะอีก ๒ - ๓ คัน บรรทุกมือปืนพร้อมอาวุธสงครามเอ็ม ๑๖ คอยตาม
คุ้มกัน
หลังเสร็จสิ้นการเป็นประธานเปิดงานและพบปะหาเสียงกับชาวบ้านแล้ว กำนันช้องและลูกน้องก็เคลื่อนรถยนต์เก๋งวอลโว่ออกจากวัดวิ่งไปตามเส้นทางสายบ้านห้วย-วัดยาง (ถนนบรรพตศิลคุณ) ระหว่างทางก่อนถึงปากทางขึ้นถนนเพชรเกษมประมาณ ๓๐๐ เมตร ได้ถูกกลุ่มมือปืนไม่ทราบจำนวนที่แฝงตัวในมุมมืดจากสอง
ข้างทางที่เป็นป่ารกชัฏ ถล่มยิงด้วยอาวุธสงครามใส่รถเก๋งวอลโว่อย่างหูดับตับไหม้ เป้าปืนคือทุกคนในรถมิให้มีชีวิตรอด ส่วนอีกกลุ่มยิงสกัดไม่ให้มือปืนที่คอยตามคุ้มกันกำนันช้องได้ตั้งหลักหรือเข้าช่วยเหลือได้
กลุ่มนักฆ่าใช้เวลาปฏิบัติการเพียง ๗ นาทีโดยประมาณ หลังเกิดเหตุไม่นาน นายศุภโยค พานิชวิทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีในขณะนั้นพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่
ตำรวจ สภ.อ.เขาย้อย รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
พบรถยนต์เก๋งวอลโว่ของกำนันช้องมีรอยถูกกระสุนปืนพรุนทั้งคัน ปลอกระสุนปืนเอ็ม ๑๖ หล่นกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณกว่า ๑๐๐ ปลอก ภายในรถพบร่าง กำนันช้อง กับ นายฉอ้อน ถูกยิงจนร่างเละตายคาที่ ส่วน จ.ส.อ.ชัยยะ กับ นายวัน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบุรี (รพ.พระจอมเกล้าฯ) แต่
จ.ส.อ.ชัยยะ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นายชุบรำลึกเหตุการณ์ตอนนี้ว่า “ในวันเกิดเหตุพี่ช้องจะเข้านอนอยู่แล้ว แต่นึกขึ้นมาได้ว่าต้องไปเป็นประธานเปิดงานที่วัดยางเขาย้อย พ.ต.อ.ถวิล เปล่งพาณิช รอง ผบก.ภ.เขต ๓ ขณะนั้นรู้ข่าวว่าจะมีคนดักปองร้ายพี่ช้อง จึงห้ามไม่ให้ไป แต่พี่ช้องไม่เชื่อบอกว่ารับปากเขาแล้ว จะอย่างไรก็ต้องไป บอกรองฯถวิลว่าไม่มีใคร
กล้าทำอะไรผมหรอก กระทั่งถูกยิงตายในที่สุด”
เหตุการณ์สะเทือนขวัญในครั้งนั้นหลายคนเห็นตรงกันว่าน่าจะเป็นประเด็นทางการเมือง โดยพุ่งเป้าไปที่ พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร คู่แข่งคนสำคัญในสนามเลือกตั้ง เนื่องจากหลังเกิดเหตุมีคนปล่อยข่าวว่า พ.อ.ณรงค์สั่งฆ่าเพื่อกรุยทางสู่สภาหินอ่อนได้อย่างสะดวกสบาย เพราะขณะนั้นหากกำนันช้องไม่ตาย เชื่อว่าชื่อ
1
“ช้อง คล้ายคลึง” ได้เป็น ส.ส.ล้านเปอร์เซ็นต์
ข่าวลือทำให้ พ.อ.ณรงค์ ต้องออกมาแก้ข่าวว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของกำนันช้อง เพราะสนิทและรู้จักกันมานาน อีกทั้งได้ร่วมกันหาเสียงคู่กันมาโดยตลอด หากจะฆ่าเพื่อตัดคะแนนเสียง ไปฆ่าผู้สมัครเบอร์อื่นที่เป็นคนละพวกไม่ดีกว่าหรือ จะมาฆ่าพวกเดียวกันทำไม ที่สำคัญถ้าได้เป็น ส.ส.ต้องได้ทั้งคู่
เพราะเพชรบุรีขณะนั้นมี ส.ส.ได้เพียง ๒ คน
นายชุบเชื่อว่าการสังหารโหดพี่ชายเป็นฝีมือของ “นายส.” คหบดีที่ทำตนเป็นผู้กว้างขวางของเมืองเพชร เจ้าของกิจการหลายอย่างในขณะนั้น ที่ต้องการฆ่าเพื่อตัดคะแนนเสียงของกำนันช้องไปเทให้กับนักการเมืองอื่นที่เขาสนับสนุนอยู่ หรืออาจเกิดจากความขัดแย้งเรื่องลูกน้องของนาย ส.ไปปล้นรถขนหมูของนายเซี๊ยะ
เจ้าของฟาร์มหมูชาว ต.ช่องสะแก และกำนันช้องได้ติดตามไปเอาคืน อีกทั้งลูกน้องของนาย ส.คนหนึ่งเคยมีปัญหากับภรรยากำนันช้อง จนทำให้ผิดใจกันเรื่อยมา ส่วนกรณีมีคนสงสัยว่า พ.อ.ณรงค์และพี่แป๋ง (ปิยะ อังกินันทน์) ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง สืบทราบมาแล้วทั้งสองไม่เกี่ยวข้องเลย
“ผมเสียใจมากที่พี่ช้องต้องมาตายในลักษณะนี้ ตอนนั้นผมไม่ได้ไปร่วมงานศพพี่
ช้องที่วัดพระรูป ได้แต่นั่งมองอยู่ภายในรถ เนื่องจากมีคนมาบอกผมว่านาย ส.ได้ให้ลูกน้องตามฆ่าผม เพราะนาย ส.กลัวว่าผมจะล้างแค้นแทนพี่ชาย” นายชุบเล่า
หลังกำนันช้องเสียชีวิต เมื่อเวลาล่วงเลยไปได้ ๑ ปี กับอีก ๑๒ วัน นาย ส. ก็ตายตกตามกำนันช้องไป โดยถูกมือปืนประทับ “ไรเฟิล” ยิงขณะนั่งรับประทานอาหาร
อยู่ที่หน้าร้านข้าวแกงหน้าวิกเฉลิมเพชร
กระสุนปืนเพียงนัดเดียวทะลุเข้าทรวงอกนาย ส. จนหงายตกเก้าอี้ สมุนซึ่งเป็นสารวัตรทหาร ๓ นายที่คอยคุ้มกันรีบนำตัวนาย ส. ส่งโรงพยาบาล แต่บาดแผลฉกรรจ์เกินความสามารถที่แพทย์จะยื้อชีวิตไว้ได้
ภายหลังนาย ส.เสียชีวิต เหตุการณ์เลวร้ายเริ่มคลี่คลายลง เจ้าหน้าที่ตำรวจ
สามารถติดตามจับกุมทีมฆ่ากำนันช้อง คล้ายคลึง และสมุน ได้ทั้งสิ้นจำนวน ๙ คน ไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
“กำนันช้อง คล้ายคลึง” บนเส้นทางชีวิตครู นักเลง และนักการเมือง ปิดฉากหลั่งเลือดบนถนนสายการเมือง ตำแหน่ง ส.ส.อยู่แค่เอื้อม แต่เอื้อมไปไม่ถึง ทิ้งไว้เพียงตำนานให้ผู้คนได้รำลึกถึง
ที่มา : ทีมข่าวเพชรภูมิ #นักเลงโต
1 บันทึก
1
4
1
1
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย