Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
•
ติดตาม
20 มิ.ย. 2022 เวลา 13:15 • การ์ตูน
EP : 1,080
ระบำสงคราม
.ในแง่ของการนำเสนอผ่านมังงะ ศิลปะการต่อสู้หลายๆอย่างจะถูกนำเสนอให้ออกมาดูเข้าถึงง่ายโดยผ่านการนำเสนอในรูปแบบต่างๆ อย่างการหยิบมาเล่าภายใต้ “กีฬา” แต่ก็มีการต่อสู้หลายอย่างที่ถูกนำเสนอออกมาแนวบู๊ซัดกันอย่างไม่ต้องไปทำให้มันดูซอฟต์อะไรทั้งสิ้น
ซึ่งอย่างหลังเรื่องราวมันจะออกแนวแฟนตาซีหรือดูเกินจริงไปด้วยการเล่าที่ไม่ต้องสนใจว่ามันจะดูเวอร์ไปซักแค่ไหน ขอให้มันสนุกและมันส์เป็นใช้ได้ ซึ่งไม่ว่าจะนำเสนอภายใต้กรอบความเป็นจริงหรือเหนือจริง สิ่งที่เห็นชัดเจนว่ามันมีส่วนที่ทำให้การศิลปะการต่อสู้ที่กำลังเล่าอยู่นั้น สนุกและน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “ดราม่า” ที่จะใส่ลงมาในเรื่องราวการต่อสู้นั้นๆครับ
ที่แต่ละเรื่องต้องใช้ความดราม่าเข้ามาทุกเรื่อง ก็เพราะความดราม่านั้นคือที่มาของ “เหตุผล” ในการต่อสู้ เพราะไม่ว่าจะอย่างไร มนุษย์ย่อมต้องการ “เหตุและผล” ในการจะทำ หรือไม่ทำ อะไรทั้งสิ้นและตลอดเวลา เพราะแบบนั้นเรื่องที่ใส่และเล่นประเด็นดราม่าได้อย่างสนุก เรื่องนั้นก็จะมีชัยและทำให้การต่อสู้ในเรื่องนั้นๆ เข้มข้น ดูน่าติดตามและน่าสนใจขึ้นมาทันทีครับ
ที่ผมเปิดเรื่องด้วยประโยคขั้นต้นมาแบบนี้ ก็เพราะเรื่องที่กำลังจะรีวิวให้อ่านกันอยู่ตอนนี้นั้น มันทำให้ผมรู้สึกเช่นนั้นจริงๆครับ แม้ว่าตั้งแต่ต้น เขาจะหยิบจับ ศิลปะการต่อสู้แขนงนึงที่โด่งดังระดับโลกอยู่แล้วมาเล่าก็ตาม
แต่เพราะผู้เขียนรู้ว่า มังงะดีๆ หรือสนุกๆซักเรื่อง มันจะขาดความดราม่าหรือปมอะไรบางอย่างไปไม่ได้กับตัวละครในเรื่องของเขา เลยทำให้เรื่องนี้มีกลิ่นอายของมังงะดราม่าที่มีปมน่าสงสัยมากมายที่ต้องใช้ศิลปะการต่อสู้นี้เป็นเครื่องมือในการหาคำตอบ และนี่คือมังงะเรื่องนั้นครับกับ “BATUQUE ระบำสงคราม”
...แม้ชีวิตวัยรุ่นวัย ม.ต้น หมาดๆอย่างเธอ ควรจะเต็มไปด้วยความสดใสของชีวิตที่เพิ่งเริ่มเรียนรู้แต่ "ซันโจ อิจิริ” ที่ถูกพ่อแม่กำหนดกฎมากมาย ทำให้เธอไม่อาจเล่นสนุกกับเพื่อนและใช้ชีวิตได้อย่างที่ต้องการทุกอย่าง แม้จะอึดอัด แต่เธอก็ต้องยอมรับคำสั่งที่ได้มา แม้จะมีคำถามมากมายว่าทำไมต้องห้ามนั่นโน่นนี่ด้วย ...
... เพราะแบบนั้นทำให้ชีวิตหลังเลิกเรียนที่ต้องกลับบ้านก่อน 6 โมงของเธอ เวลาที่เหลือจากเลิกเรียนจึงต้องมาใช้อยู่ที่สวนสาธารณะใกล้บ้านเธอ และด้วยความที่เธอเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน สวนที่กว้างใหญ่แห่งนี้ก็สามารถช่วยให้เธอสบายใจยามได้ใช้เวลาสำคัญก่อนต้องเข้าบ้านอยู่เสมอ
และแล้ววันหนึ่งเธอก็ได้สังเกตเห็นคนไร้บ้านคนหนึ่งที่อยู่ในสวนแห่งนี้ มีท่าทีแปลกตา กว่าคนไร้บ้านที่เธอรู้จัก ด้วยท่วงท่า ด้วยการเคลื่อนไหวของเขาคนนั้น มันชวนให้เธอมองและทำให้จิตใจของเธอสงบขึ้นอย่างไม่เข้าใจเหตุผล แม้จะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หัวใจของเธอมันบอกกับตัวเธอว่า บางอย่างจากท่าทางคนไร้บ้านคนนั้น มันคือสิ่งที่เธอตามหามานาน กับคำว่า “อิสรภาพ” ใน “BATUQUE ระบำสงคราม”
จากที่ได้อ่านจนจบเล่มแรก สิ่งที่เรื่องนี้ทำออกมาได้น่าสนใจสำหรับผม ก็คือการสร้างปมและการผูกเรื่องระหว่างตัวละครเอกอย่าง อิจิริ เข้ากับศิลปะการต่อสู้ที่เรียกว่า “คาโปเอร่า” ได้อย่างน่าสนใจครับ การผูกทั้ง 2 สิ่งที่สำคัญของเรื่องไว้ด้วยคำว่า “อิสรภาพ” เป็นอะไรที่ดูมีความหมายดีครับ
เพราะตอนแรกผมก็คิดว่าเรื่องนี้จะเล่นประเด็นอะไรให้เรื่องมันเดินไปอย่างดูมีน้ำหนัก เพราะอย่างที่บอกว่าทุกการต่อสู้ จะต้องมีเรื่องราวและมีความดราม่าผสมอยู่เสมอ การที่เรื่องสร้างสิ่งนี้ไว้ได้ดี ย่อมมีชัยในการนำเสนอไปกว่าครึ่งแล้วครับ
เพราะผมเชื่อว่าเรื่องนี้ก็คิดถึงจุดนี้มากๆเหมือนกัน เนื้อหาในส่วนแรกจึงออกมาเป็นแนวเปิดปมให้เราสงสัยกันอยู่ในหลายๆประเด็นเอามากๆ มากกว่ามังงะแนวนี้หลายต่อหลายเรื่องด้วยซ้ำครับ และดูมันน่าจะเป็นปมที่มีความซับซ้อนหรือดราม่าแรงๆได้ระดับนึงเลย
ทั้งๆที่หากมองภาพรวมแล้ว ดราม่าที่นิยมเล่นกันในแนวต่อสู้ มันจะไม่ลึกจนเกินไป เพราะแม้ดราม่าจะช่วยให้เรื่องสนุกมีเหตุผลมากขึ้น แต่หากลึกจนชวนให้ต้องใช้สมองคิดกันหนักๆ มากไปแล้ว จะส่งผลต่อการดึงความสนใจออกจากการต่อสู้ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเรื่องราวแนวบู๊แบบนี้ได้ง่ายเลยครับ
มันก็เหมือนการรักษาบาลานซ์นะครับ จะไปหนักทางดราม่ามากไป ด้านทางบู๊ก็อาจเสียสมดุลจนดูเบา หรือ ไม่เข้ากับดราม่าที่ใส่เข้าไปก็ได้ เพราะแบบนั้นผมจึงมองว่า การรักษาสมดุลของทั้ง 2 ด้านในมังงะแนวนี้ หากผู้เขียนต้องการนำเสนอแล้วละก็ ต้องอยู่ในจุดที่สมดุลมากพอระดับนึงครับ
และเรื่องนี้จากที่ได้อ่านเล่มแรกผมถือว่าสร้างความน่าติดตามจากปมตรงนี้ได้ดีและเล่าเรื่องราวของตัวอิจิริออกมาได้ดราม่าน่าสนใจได้ดีเลยทีเดียว
แม้จะดูจงใจไปซักหน่อยสำหรับดราม่าเปิดเรื่องรวมถึงเป็นดราม่าที่ดูหนักอย่างเห็นได้ชัด แต่นั่นก็ทำให้เราติดตามว่าเกิดอะไรขึ้นมา เพราะตอนต้นและเรื่องราวตอนท้ายมันทำให้เรารู้สึกว่าปมมันต้องมีอะไรหนักและแน่นๆเอามากๆ รวมถึงด้วยสไตล์การนำเสนอที่ออกมา
มันมีมุมสะท้อนสังคมอันน่าอึดอัดของการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นอยู่ให้เห็นตลอดทั้งเรื่อง รวมถึงพฤติกรรมตัวละครหลายตัวที่ชัดเจนในการยืนอยู่ฝั่งคนที่มีปัญหา แม้พวกคนเหล่านั้นบางคนอาจจะเป็นแค่ตัวละครเสริมบางจังหวะ แต่นั่นก็น่าสนใจไม่น้อยกับการนำเสนอออกมาให้เห็นตลอดทั้งเรื่องเพื่อสื่อสารว่าตอนนี้ บรรยากาศในเรื่องนี้มีปัญหาอยู่รอบตัวครับ
ในแง่ของความดราม่าเรื่องนี้สร้างเอาไว้น่าสนใจนะครับ และในเรื่องการต่อสู้ แม้ในเล่มนี้อาจไม่หนักในแง่การบู๊มากเท่าไหร่นัก แต่การนำเสนอที่ออกมาให้เห็นถึงความร้ายกาจของการต่อสู้ในบางจังหวะก็ดูเข้ากับเรื่องราวแนวนี้ที่ต้องนำเสนอการต่อสู้เอกของเรื่องให้เห็นว่า “เก่ง” และน่าสนใจอย่างไร
ซึ่งเขาก็ทำออกมาได้น่าสนใจระดับนึง แต่ก็เห็นว่าเขาจะไปขยายความสามารถในการต่อสู้ตรงจุดนี้ในเล่มต่อไปให้ดุเดือดขึ้นอย่างแน่นอน
ถ้ามองจากสายตาผมเล่มแรกที่นำเสนอออกมานั้น ปมในแง่ความดราม่าดูน่าสนใจมากกว่าในด้านการต่อสู้ครับ แต่ถ้าในแง่การเล่าเรื่องแล้วผมมองว่าการเล่าเรื่องด้วยมุมมองแปลกๆหรือการโฟกัสไปที่ท่าทางของตัวละครทั้งก่อนและกำลังใช้ท่วงท่าของคาโปเอร่านั้น ทำออกมาได้น่าสนใจดีครับ
เอาจริงๆมันดูหลอนด้วยซ้ำในบางครั้งของการใช้ท่าทางของคาโปเอร่าออกมา ซึ่งจริงๆก็ต้องบอกว่าเป็นเพราะการวาดที่มีมุมมองในการนำเสนอแบบนี้ต่างหากเลยทำให้ทุกจังหวะในเรื่องมันดูแตกต่างจากเรื่องอื่นไม่น้อย ด้วยมุมมองและท่าทางเหล่านี้ครับ ผมมองว่าเป็นมุมมองและการเคลื่อนไหวที่เรียกความสนใจจากคนอ่านได้เป็นอย่างดี
แต่อันนี้ไม่ได้บอกว่าเขาวาดสวยนะครับ 555 คือออกจะแปลกไปซักหน่อย ถ้าจะบอกว่าเขาวาดท่วงท่าออกมาได้น่าสนใจด้วยมุมมองแปลกๆในหลายๆครั้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นจะเรียกว่าสะดุดตาก็ได้
แต่ในทางกลับกัน ผมว่ามันดูเพี้ยนไปซักหน่อยในแง่สัดส่วนของตัวละคร ตั้งแต่ใบหน้ายันเท่า หลายภาพมันดูหลอนๆ และออกมาแบบไม่ได้สวยอะไรนักด้วยซ้ำ แต่ก็อีกนั่นแหละในความรู้สึกส่วนตัวของผมว่าภาพมันดูไม่สวย เขาก็มีการใส่รายละเอียดเข้ามาช่วยให้ภาพมันดูมีมิติมากขึ้น ไม่ใช่แบนอย่างหลายๆเรื่อง
มันเลยกลายเป็นความสับสนของผมจากความชอบส่วนตัวที่ ท่าทางดูน่าสนใจ ตัวละครดูตลกและเพี้ยนแต่ใส่รายละเอียดแบบที่ชอบเอาไว้ให้เห็นตลอดทั้งเรื่องในทุกตัวละคร อืมเป็นเรื่องที่มีส่วนผสมที่แปลกอีกเรื่องสำหรับผมครับ
“BATUQUE ระบำสงคราม” เรื่องและภาพโดย อ. Toshio Sako ในไทยเจ้าของ LC คือ SIC ซึ่งตอนนี้ออกมาแค่เล่มแรก และยังหาอ่านได้อยู่ในปัจจุบัน ด้วยราคาปกร้อยมีทอน ใครสนใจก็มองหาได้ในตอนนี้นะครับ
ส่วนตัวผมชอบเรื่องนี้มากกว่าไม่ชอบนะครับ ดูทรงแล้วมาทางดราม่าแบบที่ผมชอบ คือน่าจะหนักใช้ได้อยู่ การสร้างปมในเรื่องแรกถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจและชวนติดตามเอามากๆ และการสร้างองค์ประกอบในเรื่องชวนให้รู้สึกอึดอัดและไปทางปมดราม่าอย่างชัดเจน
เรียกว่าเดินไปด้วยกันได้อย่างดี การเล่าเรื่องพยายามสร้างจุดที่ผูกและเข้าด้วยกันของที่มาที่ไปและเหตุผลหลายๆอย่าง ซึ่งโดยส่วนตัวก็ยังโอเคกับการสร้างเรื่องราวในเรื่องนี้นะ ที่สำคัญลายเส้นที่หลอนทั้งน่าสนใจไม่น้อย ดูทรงแล้วขอตามอ่านต่อครับ น่าจะมีอะไรให้อ่านอีกเยอะในเรื่องนี้หวังว่าเล่มต่อไปจะออกมาดีต่อเนื่องนะครับ ส่วนตัวอยากให้ลองอ่านครับ น่าจะสนุกสำหรับหลายๆคนนะครับ
*** คะแนนที่ให้ไว้นี้สำหรับอ่านเล่ม 1 จบเท่านั้นหากอนาคตได้มีโอกาสอ่านเรื่องนี้จนจบ จะกลับมารีวิวและให้คะแนนใหม่อีกครั้งนะครับ ***
ภาพ 8.5/10 (ให้ท่วงท่าและลีลา ไม่เกี่ยวกับหน้าและรูปร่างตัวละครนะครับ 555)
เรื่อง 8.4/10
ความประทับใจ 8.7/10
อ่านรีวิวเรื่องอื่นๆที่ทางเพจเคยรีวิวไว้มีกว่า 1,000 กว่าเรื่องตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ.
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1803100219800016&id=998161640293882
.
#Manga #รีวิวการ์ตูน #ยังไม่จบ #SiamInterComics #การ์ตูนแนวดราม่า #การ์ตูนแนวคาโปเอร่า #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวต่อสู้ #8คะแนน # BATUQUEระบำสงคราม #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #สยามอินเตอร์คอมมิค
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย