⚠️ บอยท่าพระจันทร์ไม่หวั่น เเม้ตลาดคริปโตลดลงอย่างต่อเนื่อง⚠️
อ่านต่อ👇
@ฝันให้ไกล
ประวัติ👉บอย ท่าพระจันทร์ ส่วนย่อ
บอย ท่าพระจันทร์ เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน มีพี่น้อง 2 คน ซึ่ง บอย ท่าพระจันทร์ เป็นลูกคนที่ 2 และพอ บอย ท่าพระจันทร์ อายุ 4 ขวบ พ่อกับแม่แยกทางกัน โดยแม่หาเลี้ยงลูก ๆ ด้วยการเย็บผ้า ซึ่งถ้ามีเวลาว่าง บอย ท่าพระจันทร์ มักจะมาช่วยแม่เย็บผ้าเสมอ
แม่ผมมีโรงงานเย็บผ้า แต่ต่อมาธุรกิจประสบปัญหา จนแม่ต้องหนีไป ผมเลยต้องระเห็จไปอยู่กับลุงกับป้า ช่วงนั้นรู้สึกว่าชีวิตตัวเองสับสนมาก เหงา ติดเกม ติดเพื่อน วัน ๆ ไม่ทำอะไร เก็บตัวเงียบอยู่บนห้อง จนมีอยู่วันหนึ่งได้ยินคำด่าของป้าว่า "เลี้ยงหมายังดีกว่าเลี้ยงเรา" พอได้ยินแบบนั้นทำให้ผมเก็บเอามาคิด
ก็เริ่มหันมาเปลี่ยนตัวเอง หันมาช่วยงานที่บ้าน แต่พอแม่กลับมาผมก็เริ่มกลับมาติดเพื่อน ติดเกมเหมือนแต่ก่อน จนช่วงอายุ 13 ปี ก่อนปิดเทอมอาจารย์ชวนให้ไปบวชเณร ซึ่งนั่นเป็นช่วงเกิดจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตผม" บอย ท่าพระจันทร์ กล่าว
ส่วนเส้นทางในวงการพระเครื่องของ บอย ท่าพระจันทร์ เริ่มตั้งแต่ตอนที่เขาได้บวชเณร ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเหรียญไหนจริง เหรียญไหนปลอม รู้เพียงแต่ว่าชอบพระเครื่องจึงสะสมมาเรื่อย ๆ โดย บอย ท่าพระจันทร์ เปิดใจว่า ตนได้ไปบวชเณรแถว ๆ พุทธมณฑล และมีเพื่อนที่บวชด้วยกันถามว่าที่บ้านมีพระอะไร ผมก็บอกไม่มี ผมไม่รู้จักพระ แต่เขาก็ถามผมอยู่ทุกวัน จนกระทั่งหลังสึกออกมา
สิ่งแรกที่ทำคือกลับมาบ้าน ตรงดิ่งไปหิ่งพระและค้นหาพระในบ้านว่ามีพระอะไรบ้าง ปรากฎว่าไม่มีเลย และพอไปบอกเพื่อนว่าที่บ้านไม่มี เขาก็บอกว่าเชย มันต้องมีพระ ไม่มีได้ไง ตนก็เลยไปบ้านอากง เพราะอากงเป็นคนที่ชอบสะสมพระ แต่อากงก็ไม่รู้ว่าเป็นพระอะไร รุ่นไหน ซึ่งอากงก็ยกพระเครื่องที่มีอยู่ให้ทั้งหมด ตั้งแต่นั้นมา
ตนก็เลยเริ่มหันมาสนใจอย่างจริงจัง เริ่มศึกษามาเรื่อย ๆ ส่องพระทุกวัน หาความรู้ใส่ตัวทุกวัน จนไปสะดุดตากับพระองค์หนึ่ง ก็ค่อย ๆ ศึกษาหารายละเอียดจนรู้ว่าองค์ละ 1 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็เป็นพระปลอม
ประสบการณ์ครั้งนั้นสอนให้ บอย ท่าพระจันทร์ หันมาศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับพระเครื่องอย่างจริงจัง ด้วยความอยากรู้ว่าพระรุ่นไหนปลอม รุ่นไหนจริง พยายามหาซื้อหนังสือพระมาอ่าน มาค้นคว้า โดยพระเครื่องที่ บอย ท่าพระจันทร์เริ่มศึกษาอย่างจริงจังเเละมุ่งมั่น "หลวงปู่โต๊ะ" วัดประดู่ฉิมพลี เนื่องจากเขาเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดประดู่ในทรงธรรม
ซึ่งอยู่ติดกับวัดประดู่ฉิมพลี จนมีอยู่วันหนึ่งเขามีโอกาสไปเดินเล่นแถวท่าพระจันทร์ แล้วไปเห็นพระเครื่ององค์หนึ่ง ซึ่งรู้สึกคุ้นตาว่าตัวเองมีพระองค์นี้ จึงนำพระเครื่องไปปล่อยครั้งแรก และได้เงินมากลับมา 2,500 บาท จากนั้น
บอย ท่าพระจันทร์ ก็เริ่มหันไปเช่าพระ ซึ่งพระเครื่องที่เช่าองค์แรกคือ หลวงปู่โต๊ะ โดยบูชามาในราคา 1,500 บาท และเอาไปปล่อยต่อที่ร้านพระแถว ๆ บ้านในราคา 1,800 บาท ต่อมาเขาเริ่มไปที่ท่าพระจันทร์บ่อย ๆ จนถูกชักชวนให้ไปทำงานที่ร้านพระเครื่อง จากนั้นก็เริ่มศึกษา ดูพระ หาประสบการณ์มาเรื่อย ๆ จนเริ่มหันมาปล่อยพระเองจนชิวิตเริ่มเข้าหาความประสบความสำเร็จใกล้ยิ่งขึ้น ณตอนนี้ บอย ท่าพระจันทร์
ยังรับเช่าพระอยู่่เเละรับซื้อซากกระเพาะปลาเก่า รับซื้อถึงราคามากสุดถึง 10 ล้านบาทต่อ1ชิ้น 💸
บอยท่าพระจันทร์ ตอนเด็ก
👉 บอย ท่าพระจันทร์ ไม่หวั่นเเม้ตลาดคริปโตช่วงขาลง 👈
🔥บอยท่าพระจันทร์กล่าว ❕
ผมยอมรับเลยว่า เสียหายเยอะจริงๆผมไม่ได้ขายเลยเเม้เเต่เหรียญเดียว เเต่ทุกการลงทุนนั้น ย่อมมีความเสี่ยงเสมอ
โดยบอย ท่าพระจันทร์ กล่าว
ผมมีความเชื่อว่ามันจะกลับมาอย่างได้เเน่นอน ( ความเชื่อส่วนตัวของผม ห้ามทำตาม หรือลอกเลียนเเบบ เพราะทุกครั้งที่ผมเชื่อ มันจะกลับมาไม่ช้าก็เร็ว
#รอผมทำอะไรเส็จสักอย่าง ผมจะมาซื้อเพิ่มอย่างเเน่นอน. 💪 บอย ท่าพระจันทร์กล่าวเสริม 👇
เพื่อนๆเชื่อไหม จะมีคนบางกลุ่มที่เห็น ความเสียหายของเรา เเล้วก็จะมาพูดซ้ำเติม นู้นนี่นั้นไปหมดเยอะเเยะ ( ผมเองก็ปล่อยให้เขาพูดกันไป ) เพราะผมเองไม่เคยยืมเงินใคร เสียก็เงินเรา ได้ก็เงินเรา..💪
🔥ช่วงนี้ตลาดขาลง ขอให้สายคริปโตลงทุนอย่างมีสติ เราไม่รู้เลยว่าตลาดจะขึ้นหรือจะลง ลงทุนอย่างมีสติ หาความรู้ ประสบการณ์จะสอนเราเองครับ.🦾
21 มิถุนายน 2565
@ฝันให้ไกล
เขียนบทความ 📱
ที่มา : บอย ท่าพระจันทร์ 🙏
ติดตามข่าวสาร ติดตาม ให้กำลังใจ เพจ👇
ทั้งยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลบทสนทนาและข้อมูลลูกค้าได้อีกด้วย
จุดเด่นคือสามารถเชื่อมต่อระบบสต๊อกสินค้า และ เก็บออเดอร์การขายให้สามารถขายผ่านช่องทาง Social ได้ง่าย สามารถปิดการขายได้เลยทันทีในแชท ซึ่งในปัจจุบันมีธุรกิจกว่า 30,000 ร้านค้าทั้งบน Facebook และ LINE ที่ใช้แชทบอทของเราเป็นตัวช่วยในการขายและจัดการร้านค้าช่วยให้ธุรกิจคุณง่ายขึ้นคลิ้ก.👇👇
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
