21 มิ.ย. 2022 เวลา 10:06 • ปรัชญา
"ม้าดีต้องพยศ"
"คุณสามารถจูงม้าไปที่ริมน้ำได้ แต่จะบังคับให้ม้ากินน้ำไม่ได้"
แน่นอนว่าคนที่เก่ง ย่อมมีความเป็นตัวของตัวเองสูงและไม่ยอมก้มหัวให้ใครง่ายๆ
โจโฉนั้นแม้ว่าจะเป็นเพชรน้ำหนึ่งในด้านการใช้คนก็จริง บรรดาเสือสิงห์กระทิงแรดล้วนแต่ยอมสยบใต้ปีกโจโฉเป็นจำนวนมาก หากแต่คนที่โจโฉต้องการปราบพยศนั้นก็คือ
"กวนอู"
…..
โจโฉสามารถนำตัวกวนอูมาทำงานด้วยได้ก็จริง ดูแลให้เกียรติอย่างถึงที่สุด แต่แล้วทำไมจึงไม่สามารถได้ใจกวนอูมาได้ มอบให้กระทั่ง "ม้าเช็กเทาว์" ที่เปรียบเทียบสมัยนี้ก็คงรถยนต์แลมโบกินีรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น
ม้าเช็กเทาว์ตัวนี้ถือว่าสุดยอดแห่งอาชา วันนึงวิ่งได้วันละพันลี้(500 กม.) แม้แต่โจผีบุตรชายจะอ้อนพ่อแค่ไหน โจโฉผู้บิดาก็ไม่ให้ แต่เหตุไฉนจึงมอบสุดยอดอาชาตัวนี้แก่กวนอู
…..
แน่นอนว่ากวนอูนั้นมีเป้าหมายและแนวทางของตน
การที่จะปราบม้าพยศนั้น ก็ต้องอย่าไปขัดเป้าหมายของเขา หากแต่ต้องส่งเสริมในเป้าหมายแนวทางของเขาให้บรรลุผล
เพราะเมื่อม้าพยศมันวิ่งไปตามแนวทางของตนเองจนเหนื่อยแล้ว ก็ย่อมที่จะนำมาใช้สอยได้โดยง่าย
หากว่าเต็มไปด้วยการบังคับและฝืนใจ ที่จะขี่ม้าพยศ ยังไงก็มิอาจใช้งานโดยง่าย เพราะมันมิใช่ม้าแคระราคาถูกที่จะหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป
แต่จะต้องเต็มไปด้วยการเปิดอก เปิดใจ พูดตรงๆ ให้ความเคารพ เชื่อมั่น ในตัวม้าพยศตัวนี้ และสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ
*****ความจริงใจ
เมื่อใดเมื่อนั้น คนที่ทำได้เช่นนี้ ม้าพยศก็ยอมทำงานให้ด้วยใจล้วนๆ ดังเช่นที่ กวนอูไม่ว่าโจโฉจะทำดีด้วยขนาดไหน ก็ยังหนีไปหาเล่าปี่อยู่วันยันค่ำ
เพราะเล่าปี่จริงใจ(ต่อกวนอู)
โจโฉนั้นจริงใจไหม กวนอูย่อมมองขาด
…..
หากเปรียบเทียบภาพสมัยนี้ก็คือ
โจโฉคือ เจ้าของกิจการใหญ่บริษัทมหาชน ที่อาจควบตำแหน่งเสนาบดีที่สามารถบันดาลทุกๆอย่างให้คนอย่างกวนอู
หากแต่เล่าปี่นั้นคือ Start up ที่ล้มๆลุกๆคลุกคลานมาตลอด
แล้วเหตุไฉนที่กวนอูยังคงเลือกเล่าปี่ นั่นก็เพราะว่า
ถึงแม้จะไม่มีอะไร แต่ก็อยู่ด้วยใจล้วนๆ
ซึ่งแตกต่างกับโจโฉที่กวนอูไปอยู่ด้วยตามหน้าที่ หากแต่อย่าถามเรื่องใจเพราะไม่เคยมีให้ตั้งแต่วันแรก
…..
และอย่าคิดที่จะเบี้ยวหรือว่าผิดสัจจะกับม้าพยศตัวนี้อย่างเด็ดขาด เพราะเขาจะไม่เล่นด้วยทันที
1
เพราะคนแบบนี้ ถ้าทำอะไรก็ทุ่มให้สุดใจ
เพราะคนแบบนี้ ถ้าไม่ได้ใจก็ไม่ให้อะไรทั้งนั้น
และตามกงล้อแห่งกาลเวลานั้นไม่ว่าจะใหญ่คับฟ้าแค่ไหนย่อมไม่พ้นคำว่า ทีใคร ทีมัน
ดังเช่นที่ ในกาลเวลาต่อมาที่กวนอูมีโอกาสจับตัวโจโฉและสังหารได้ หากแต่ยังคิดถึงบุญคุณที่มีต่อกันในหนหลัง จึงปล่อยตัวโจโฉไป
หากว่ามีแต่ความโกรธ เกลียดชังต่อกัน ย่อมไม่พ้นคำว่า ทีเอ็งไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย
กวนอูย่อมสังหารโจโฉไปแบบมิต้องคิดไตร่ตรองอะไรทั้งนั้น
…..
และไม่ว่าเช่นไร ม้าพยศอย่างกวนอูที่จะไปอยู่ที่ไหนก็ยังสามารถรังสรรค์ผลงานได้อย่างสม่ำเสมอ
เพราะคนที่ครบเครื่องทั้งบุ๋นและบู๊นั้น ภายใต้ดวงอาทิตย์ดวงนี้ ถ้าเอาจริง ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
…..
บทสรุป
ม้าดีต้องพยศ
แน่นอนว่าคนที่เก่งๆ ย่อมมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ยอมก้มหัวให้ใครง่ายๆหากว่าสามารถปราบพยศได้มิต่างจากได้ยอดอาชาไว้ใช้งาน
แน่นอนว่าจะต้องให้เกียรติกัน เชื่อมั่น ไว้วางใจ
หากว่า ได้ใจอะไรๆที่ดีๆก็จะตามมา
และไม่แน่ว่า ม้าพยศตัวนี้อาจรังสรรค์สุดยอดผลงานขึ้นมาก็ได้ ดังเช่นที่ สตีฟจ๊อปแห่งแอปเปิ้ลที่รังสรรค์ไอโฟนขึ้นมา หรือแม้แต่กวนอูที่สร้างผลงานมากมายทั้งบู๊และบุ๋น
และอย่าคิดว่า ม้าพยศจะได้ตัวมาใช้งานง่ายๆเพราะมันไม่ใช่ม้าแคระราคาถูกๆที่หาได้ตามท้องตลาดทั่วไป ที่จะยังไงก็ได้
ดังที่คัมภีร์เมิ่งเต๋อเซินซู ที่ประพันธ์โดยโจโฉ ที่ว่า
"อยากได้คนเก่ง ต้องกล้าลงทุน"
ด้วยเหตุนี้ "คุณสามารถจูงม้าไปริมน้ำได้ แต่จะบังคับให้ม้ามันกินน้ำไม่ได้"
หากแต่ถ้าคุณทำได้ละ แน่นอนว่าต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ มิใช่ได้สุดยอดอาชามาไว้ใช้งานดอกหรือ
พลิกชีวิตลิขิตฟ้าตามแบบสามก๊ก
โฆษณา