21 มิ.ย. 2022 เวลา 13:34
จากที่เคยได้เห็นได้อ่านได้ยินได้ฟังมา
ไอ้เรื่องแบบนี้เราก็ไม่แน่ใจว่ามันมีอยู่จริงไหม แต่คิดแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่ามันจะมีอยู่จริง
เมื่อหลายเดือนก่อน ผมเห็นข้อความทางทวิตเตอร์ ว่ามันมีผู้หญิงอยู่คนหนึ่งจีบพระ เต๊าะไปเรื่อยๆ จนผ้าเหลืองร้อน สึกออกมา เพื่อมาอยู่กินกัน จะได้ถูกครรลอง พอเบื่อมันก็ทิ้งพี่ทิดไป แล้วไปจีบพระอีกรูป
คือ ผมก็ไม่รู้ว่ามันเรื่องจริงไหม แต่คิดๆดูแล้ว ท่าจะมีคนพวกนี้อยู่จริงๆ
ผมเคยอ่านหนังสือในห้องสมุดโรงเรียนสมัยที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ มันเป็นเรื่องกฎแห่งกรรมอะไรทำนองนี้แหละ แต่ผมจำไม่ได้ว่าหนังสือชื่ออะไร
แต่ก็มีโครงเรื่องประมาณข้อความในทวิตนั้นนั่นแหละ แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าผมเล่าถูกไหม เพราะเรื่องมันนานแล้วจำไม่ค่อยได้
เริ่มต้นจากที่วัด ตอนนั้นมีพระมาบวชใหม่ แล้วมีฆราวาสครอบครัวหนึ่งมาทำบุญบ่อย ก็ได้แนะนำลูกสาวให้รู้จักกับกับพระใหม่รูปนี้
เวลาวัดมีงานบุญงานอะไร ก็จะให้ลูกสาวมาช่วยพระท่านเสมอ ไอ้ตรงนี้ผมจำไม่ได้นะว่าตรงไหม แต่มันจะเป็นประมาณว่า มาช่วยบ่อยจนสนิท พระท่านก็ได้ให้ใช้ของต่างๆในวัด ทรัพย์สินที่พระท่านมี ก็ให้เป็นสินน้ำใจตอบแทนนาง ไปๆมาๆ ความซี้ปึ๊กนี้มันมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดจิตปฏิพัทธ์ ผ้าเหลืองร้อนเลยสึกออกมาเพื่อมาอยู่กินกัน
แต่ทางบ้านกลับไม่ชอบใจเท่าไร
อ้าว ไหงมันเป็นงั้น
ครับ
เรื่องราวมันมาเฉลยทีหลังว่า ทางบ้านนั่นแหละที่หวังสบายหวังทรัพย์สินของวัดแต่ไม่อยากเอาตรงๆ(ไม่แน่ใจว่าเพราะกลัวบาปรึเปล่า) เลยเอาทางอ้อม โดยการส่งลูกสาวมาทำให้พระหวั่นไหว ท่านจะได้ให้ของเหล่านั้นด้วยความสิเน่หาตลอดจนเป็นสินน้ำใจ(ก็บาปคือเก่านั่นแหละ) พอพระท่านสึกออกมา ก็ไม่ได้เอาของวัดออกมาด้วยเท่าไร เอามาเฉพาะทรัพย์สินส่วนตัวที่พอมี
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ยังมีการยุแหย่ลูกสาวให้เลิกกับทิดคนนี้ เพื่อไปจีบพระอีกรูปที่รวยกว่าด้วยแหละ
ตอนจบของเรื่องนี้ผมจำไม่ได้ว่ามันไปจบที่ตรงไหน บ้านนี้หยุดแค่นี้ หรือไปจีบพระรูปอื่นต่อ ทิดถูกทิ้งไหม หรืออยู่กินกับเมียต่อไป ผมจำไม่ได้
มันแสดงให้เห็นถึงอะไรบ้าง
ปัญหาในเรื่องนี้มีมากมายเลยนะ
บางที ในเคสแบบนี้ ครอบครัวนั้นที่เข้ามาเป็นฝ่ายผิด ที่พระท่านก็อยู่ของท่านดีๆ แล้วเราๆก็รู้ ว่าพระท่านเป็นคน เป็นสมมุติสงฆ์ มีอารมณ์เหมือนมนุษย์ปกติ ตราบใดที่ยังไม่บรรลุ ชายกับหญิง มันก็เหมือนฟืนกับไฟ การเข้าไปในวัดโดยมีเจตนาแอบแฝง โดยใช้ลูกสาวยั่วยวนพระคือมันต้องมีจิตใจบิดเบี้ยวขนาดไหน ถึงพยายามไปทำให้นักบวชต้องทุศีล
ยิ่งในสภาพความเป็นจริงในสังคมปัจจุบันนี้ เรามักจะเห็นว่ามีพระมากมายที่ไม่ได้ดำรงตนในศีลในธรรม ซึ่งมีมานานนับศตวรรษเลยแหละ ตั้งแต่เรื่องเลี้ยงลูกสวาดในช่วงต้นรัตนโกสินทร์
หากใครไม่รู้ ลูกสวาดหรือลูกสวาทสียะตรา คือ เด็กชายที่พระเถระผู้ใหญ่ หรือพระอื่นๆรับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม แต่มักจะเลี้ยงดีกว่าเด็กวัดปกติ
ทั้งหาซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายดีๆ
มีการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี และความเป็นอยู่ค่อนข้างสบาย เพราะไม่ได้มีหน้าที่เหมือนเด็กวัดทั่วไป แต่มีหน้าที่ปรนนิบัติรับใช้พระพวกนั้น โดยส่วนใหญ่มักจะเป็น ภารกิจทางเพศ และลูกสวาดนี้ก็สวาทจริงๆ ถึงขั้นมีการวิวาทกันเพื่อแย่งชิงลูกสวาดเลยแหละ
เฮ้อ ผมเองก็ไม่อยากเอาค่านิยมคนปัจจุบันไปตัดสินคนสมัยก่อนนะ แต่คือ นี่มัน WTF มาก มันไม่ใช่เรื่องรสนิยมทางเพศนะ แต่มันคือการผิดวินัยสงฆ์ อย่างร้ายแรง ปาราชิกแน่นอนอ่ะ การที่พระเสพเมถุนไม่ว่ากับเพศอะไรมันก็ผิดมาแต่พุทธกาลแล้ว
ในยุคนั้นหลวงท่านถึงกับต้องออกกฎหมายมาปราบปราม ก็เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ผิด ผิดในทุกทาง ทั้งทางโลกและทางธรรม คือเป็นเรื่องฉาวที่สุดของวงการสงฆ์ที่ไม่ว่าจะหาข้ออ้างอะไรมาผมก็ฟังไม่ขึ้นอ่ะ
หรือสืบเนื่องมาจนถึงยุคปัจจุบัน มีคนมากมายที่บวชเป็นพระ แต่ไม่ทำตนให้เหมาะสมกับการเป็นพระ เหมือนบางคน ก็ไม่ได้อยากบวช แต่ก็บวชไปตามประเพณี หรือ บวชเพราะไม่มีงานทำ เลยมาอาศัยวัดอยู่ แต่กิจของสงฆ์กลับทิ้งขว้าง มันถูกแล้วเหรอ
แล้วก็ประพฤติชั่ว เป็นอลัชชี ตั้งวงกินเหล้าในกุฏิ เสพเมถุนกับสีกา ดูดยาหลังวัด ฯลฯ
ไม่อยากเชื่อเลยว่า กลุ่มคนที่ควรมีศีลมากที่สุดในสังคมกลับกลายเป็นกลุ่มคนที่ทุศีลไม่ต่างจากคนทั่วๆไป
ถ้าเป็นผม จะไปอาศัยวัดอยู่ผมไม่บวชหรอก เพราะรู้ว่าผมยังตัดขาดกับเรื่องทางโลกไม่ได้ ผมไปอาศัยช่วยงานวัด แล้วขอกินข้าววัดยังมีเกียรติและดีกว่าพระที่ไม่มีศีล
ขอยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่ผมได้รู้กับตัวเอง
สมัยที่ผมไปเรียนอยู่ต่างจังหวัดเมื่อหลายปีก่อน ไปอยู่ได้15วัน ครอบครัวก็มาเยี่ยมแล้วก็เล่าเรื่องให้ฟัง ซึ่งผมอึ้งไปเลย
ยายผมเล่าว่า วันนั้นแกออกมานั่งรอใส่บาตร พอดีมีคนผ่านมาเขาก็ถามว่า
"พี่รออะไร"
"รอใส่บาตร"ยายผมตอบ
"โฮะ ไม่ต้องรอแล้ว ตำรวจมาเอาตัวไปแล้ว"
ตอนนั้นยายผมก็ตกใจไม่ต่างจากที่เราก็ตกใจตอนที่ได้ยิน
คือพระรูปหนึ่ง ผมใส่บาตรท่านมาตั้งแต่เด็ก และท่านก็ดูเป็นพระที่ดีด้วย แต่ที่ตำรวจจับไป ก็เพราะ พระรูปนี้ เสพยา ครับ
และแล้ววันนั้น มันก็ทำให้ผมมองพระสงฆ์เปลี่ยนไปตลอดกาล
ทุกวันนี้ผมก็ยังคงไหว้พระ เคารพพระอยู่ แต่ในฐานะมนุษย์นะ ไม่ได้ยกขึ้นสูงเหนือหัวแตะต้องไม่ได้เหมือนตอนเด็กอีกแล้ว
อ้างอิง
https://www.silpa-mag.com/culture/article_18495 บทความเรื่องลูกสวาด
โฆษณา