21 มิ.ย. 2022 เวลา 16:12 • ปรัชญา
เราสูงขึ้นได้ (อีก)
ตอนรักในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่รัก (3)
สวัสดีครับ ขอต้อนรับผู้ที่เข้ามาอ่านทุกท่านเพราะคาดหวังการพัฒนาตนเอง พร้อมกับรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเราเองมากขึ้นนะครับ สำหรับ EP. นี้จะเขียนต่อจากคราวที่แล้วสำหรับประสบการณ์อันมั่วซั่วของผม (ฮา) จนถึงจุดนึงที่เราเริ่มรู้สึกว่าอายุของเรามันก็เกินจุดที่จะลองทำอะไรเรื่อยๆ แล้ว (แก่เกิน) และก็ต้องมานั่งตัดสินใจกันเสียทีว่าจะมีอาชีพที่เราเลือกว่านี่คือสิ่งที่จะเลี้ยงตัวเรา และทำเงินได้ด้วย
ผมชอบช่วยเหลือคน แต่อย่างที่ได้ทราบกันครับว่าเราจะต้องช่วยเหลือตัวเองให้ได้ก่อนโดยไม่ไปเป็นภาระใคร ผมเริ่มฟังเสียงลึกๆ ในใจของตัวเองอีกครั้งว่าควรจะช่วยเหลืออย่างไร เพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงชีพด้วย ตอนแรกผมก็สนใจที่จะเดินในสายของการเป็น NGO ต่อ ปรากฏว่าเสียงที่ผมได้ยินในใจลึกๆ นั้นไม่ใช่
เพราะอะไรน่ะหรือครับ ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะตัวของมนุษย์เราเมื่อลึกลงไป ผมว่าเราน่าจะมีส่วนที่จิตใจเรารู้อยู่ว่าอะไรใช่ อะไรไม่ใช่ โดยที่ไม่ต้องถึงขนาดลงไปมีประสบการณ์กับสิ่งนั้นก่อน
สุดท้ายผมเลือกที่จะเป็น HR ครับ แม้ตอนนั้นจะมีบริษัทโฆษณาของญี่ปุ่นแห่งหนึ่งโทรมาหาเราและต้องการให้เราไปร่วมงานด้วย โดยบอกว่าเห็น Resume ผมแล้ว น่าสนใจดี จบมาจากคณะบริหารธุรกิจเอกบริหารการโฆษณาโดยตรง ภาษา (ก็พอ) ได้ และจะมีโอกาสบินไปทำงานกับต่างประเทศ (โซนเอเชีย) ก็ตาม แต่ผมก็ได้กัดฟันตอบปฏิเสธไป เพราะว่าตอนนั้นเรารู้ว่าเราได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่เราเลือกแล้ว
ถ้าอย่างนั้นผู้อ่านบางท่านก็จะถามผมว่า อ้าว แล้วจะมาเขียนเรื่องให้รักในสิ่งที่ทำได้อย่างไร ? ผมต้องบอกว่าผมเองก็เคยทำงานที่ไม่ชอบครับ ทำอยู่นานไหม ตอบได้เลยว่าไม่นาน เพราะเรารู้ว่าเราไม่ชอบ แต่สิ่งที่เราได้คือประสบการณ์ เพราะหากเราเลือกเฉพาะงานที่เราชอบนั้น ผมเชื่อว่าเราจะไม่ได้ทั้งมุมมอง และความอดทน รวมถึงแง่มุมต่างๆ ของอาชีพที่เราสามารถเรียนรู้หรือประยุกต์ และนำไปใช้ต่อได้ ...
แต่เคล็ดลับที่จะทำให้เราสามารถทำงานที่เราจำเป็นต้องลงมือทำ แม้ไม่ได้ชอบ เพราะเราเองบางครั้งก็เลือกไม่ได้ กว่าจะเจองานที่ใช่ ในระดับเงินที่ชอบ ซึ่งก็จะทำให้เรากลายเป็นภาระคนอื่นเสียก่อน เราก็ต้องทำต่อไปโดยใช้เคล็ดลับ ……. การให้ความหมายกับงานที่ทำ ครับ
หมายความว่าอย่างไร ? การให้ความหมายกับงานที่ทำหมายถึง เมื่อเราต้องทำงานที่เราเลือกไม่ได้ แต่ก็ต้องทำต่อไปนั้น สิ่งที่เราได้รับมีมากมาย แต่อาจจำเป็นต้องอดทน และใช้เวลา กว่าที่เราจะเจองานที่เราชอบ หรือช่วงระหว่างที่เรากำลังค้นหาตัวเองไปด้วยนั้น งานที่เราทำอยู่ เราต้องให้ความหมายสิ่งนั้นๆ ว่า เป็นสิ่งที่ดีต่อชีวิตเราและต่อชีวิตคนอื่นอย่างไร
หากเราทำไปเรื่อยๆ ในสิ่งที่ไม่ชอบ สิ่งนั้นจะยาวนาน และน่าเบื่อ ทำแบบขอไปที และไม่ต้องห่วงผลงานที่ออกมาเลยครับ น่าจะแข่งกับกระดาษเช็ดก้นได้เลยทีเดียว ดังนั้นการให้ความหมายกับสิ่งที่ทำจะทำให้เรามีความรู้สึกอยากทำมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
การทำงานในโรงงานพัดลม ของพนักงานในสายการผลิต .... ผมเชื่อว่าคนเหล่านี้โดยทั่วไปก็จะคิดถึงเรื่องค่าแรง อยากได้ค่าแรงมากๆ และไม่อยากทำงานซ้ำๆ น่าเบื่อ หน้าสายการผลิต หากเราต้องการจะเปลี่ยนให้ตัวเราอยากทำงานนี้มากขึ้น เราควรจะใส่ความหมายให้กับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่เป็น ....
เรากำลังทำงานที่ทำให้คนที่มีรายได้น้อย ไม่สามารถติดแอร์ได้ อย่างน้อยก็มีสายลมมาช่วยทำให้เขาและครอบครัวหลับได้ในตอนกลางคืน และทำให้พวกเขาเหล่านั้นได้มีเรี่ยวแรงมีกำลังในเช้าวันใหม่ และออกทำมาหากินเพื่อครอบครัวต่อไป ....
เห็นไหมครับ ว่าความรู้สึกต่างกันแค่ไหน ....
ผมคงยกตัวอย่างของการงานทุกอย่างมาให้กับพวกเราไม่ได้ แต่ผมอยากจะบอกว่า ทุกอาชีพ (ที่ไม่ผิดกฏหมาย) สามารถใส่ความหมายให้กับสิ่งที่ทำอยู่ได้ หากสิ่งนั้นจะเป็นประโยชน์มากกว่าตัวเราเอง แต่เป็นเพื่อผู้อื่นมากขึ้น
Gold is rock, but there is meaning becoz we give value towards.
โฆษณา