22 มิ.ย. 2022 เวลา 03:07 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปวิกฤติ กองทุน Three Arrows นิวเคลียร์ลูกใหม่ ในตลาดคริปโท
ชื่อของกองทุน Three Arrows Capital กำลังเป็นที่พูดถึง ในฐานะกองทุนที่กำลังจะล้มละลาย
ท่ามกลางตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ที่เข้าสู่ขาลงตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา
3
ซึ่งการที่ Three Arrows Capital ได้กลายเป็นจุดสนใจ ของผู้คนในตลาดคริปโทนั้น
ไม่ได้มาจากการที่กองทุน ได้ทำการถือคริปโทเคอร์เรนซี มูลค่ามากกว่า 100,000 ล้านบาท เท่านั้น
แต่เป็นเพราะการล้มละลายของกองทุนนี้ อาจฉุดมูลค่าคริปโทเคอร์เรนซีทั้งตลาด
ให้พังพินาศไปมากกว่านี้
แล้ว Three Arrows Capital จะสามารถพังตลาดคริปโท ได้อย่างไร ?
BillionMoney จะสรุปให้ฟัง
Three Arrows Capital นั้น เป็นกองทุนที่ก่อตั้งโดย Su Zhu และ Kyle Davies
โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์
ซึ่งกองทุนนี้ได้ทำการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี และโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับระบบการเงินไร้ศูนย์กลาง หรือ DeFi รวมกันแล้วมากถึง 48 โครงการ
1
แต่การลงทุนที่ทำให้ Three Arrows Capital เสียหายหนักที่สุด คือการลงทุนใน Terra
ระบบนิเวศของเหรียญ LUNA และ UST ที่เพิ่งพังจากกลไกรักษามูลค่าเหรียญ UST
จนทำให้ Supply ของเหรียญ LUNA เฟ้อสูงมาก จนกดราคาเหรียญแทบเหลือศูนย์
1
ซึ่ง Three Arrows Capital ไม่เพียงแค่ลงทุน ใน LUNA ไปมากกว่า 7,000 ล้านบาทเท่านั้น
แต่ยังเป็นผู้ลงทุนใน Luna Foundation Guard กองทุนที่ใช้ตรึงราคาเหรียญ UST
มากถึง 35,000 ล้านบาท ซึ่งสุดท้ายแล้ว กองทุน Luna Foundation Guard
ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการตรึงราคาเหรียญ UST และต้องขายทรัพย์สินออกไปจนเกือบหมดในที่สุด
6
แต่สิ่งที่ทำให้วิกฤติครั้งนี้ ได้ถูกส่งต่อออกไปเป็นลูกโซ่นั้น
ก็เป็นเพราะว่าเงินที่ Three Arrows Capital นำมาลงทุนนั้น เป็นเงินที่ถูกกู้ยืมมาอีกที
1
ซึ่ง Three Arrows Capital ได้ถูกบังคับให้ขายเหรียญ stETH ซึ่งเป็นเหรียญที่ผูกมูลค่า
กับเหรียญใหญ่อันดับ 2 ในโลกคริปโท อย่าง Ethereum แบบ 1:1
จำนวนกว่า 216 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้หนี้
2
เป็นเหตุให้ตลาดเกิดความแตกตื่นยิ่งขึ้นไปอีก เพราะด้วยแรงขายที่มากขนาดนี้
ได้ทำให้มูลค่าของเหรียญ stETH หลุดการตรึงมูลค่ามากยิ่งขึ้น
ส่งผลให้นักลงทุน พากันเทขายเหรียญ stETH ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อจะแลกเหรียญ ETH คืน
เพราะหวั่นจะซ้ำรอยเหรียญ LUNA
โดยเหตุการณ์นี้เอง ก็ได้ทำให้เราทราบว่า การปล่อยกู้ในโลกคริปโทนั้น เปราะบางมากเพียงใด
เพราะหลาย ๆ แพลตฟอร์ม ไม่ได้มีสภาพคล่อง ไว้รองรับการถอนเงินจำนวนมาก
1
การที่ลูกค้าทำการถอนเงินเป็นจำนวนมาก ๆ ออกจากแพลตฟอร์ม ในขณะที่มีสภาพคล่องไม่พอ
ก็ได้ก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Bank Run อันจะนำไปสู่การล้มละลายของแพลตฟอร์มได้
เพราะแพลตฟอร์มจะไม่มีเงินเหลือ พอที่จะดำเนินการต่อ
2
ทำให้แพลตฟอร์มปล่อยกู้ เช่น Celsius ที่มีทรัพย์สินฝากบนแพลตฟอร์มกว่า 417,000 ล้านบาทต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว แต่การกระทำเช่นนี้ ก็ยิ่งสร้างความตื่นตระหนกต่อตลาดมากขึ้นอีก
และอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ว่า Three Arrows Capital ได้ทำการลงทุนมากถึง 48 โครงการ
ที่กระจายไปทั่วตลาดคริปโท
แรงเทขายทั้งตลาด จากความแตกตื่นในครั้งนี้ ก็ได้ซ้ำเติมการขาดทุนของ Three Arrows Capital
มากยิ่งขึ้นไปอีก
1
ทำให้เจ้าหนี้ของ Three Arrows Capital ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มปล่อยกู้รายใหญ่ อย่าง BlockFi
ก็ได้ทำการเรียกคืนหนี้จากทางกองทุน ซึ่งจะทำให้ Three Arrows Capital ต้องขายทรัพย์สิน
เพื่อชำระหนี้จำนวนกว่า 14,000 ล้านบาท เนื่องจากราคาของสินทรัพย์ที่ได้กู้ไปนั้น
ลงมาถึงจุดที่ต้องเรียกเงินกู้คืน ซึ่งเรียกว่า Margin Call
ส่งผลให้ตอนนี้กองทุน Three Arrows Capital ต้องประสบกับความยากลำบาก
ในการหาเงินมาใช้หนี้ ท่ามกลางตลาดคริปโท ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง
อีกทั้งตัวกองทุนเอง ก็ได้ประสบกับการขาดทุนใหญ่ติด ๆ กันถึง 2 ครั้ง
1
จึงทำให้เกิดความกังวลขึ้นมาในตลาดคริปโทว่า
ถ้าหากกองทุน Three Arrows Capital ล้มละลายขึ้นมาจริง
คริปโทเคอร์เรนซีมูลค่ามหาศาล ที่กองทุนถืออยู่ก็จะต้องถูกขายออกมา เพื่อใช้หนี้
ก็จะกดดันมูลค่าของตลาดคริปโท ให้ร่วงต่อไปอีก
2
ทำให้เราต้องจับตาดูต่อไป ว่าสุดท้ายแล้ว Three Arrows Capital จะหาทางออกอย่างไร
หรือเจ้าหนี้อย่าง BlockFi จะมีมาตรการช่วยเหลือหรือไม่
เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว ถ้าหากปล่อยให้กองทุน Three Arrows Capital ล้มละลายไป
และทำให้ลูกค้าแตกตื่น จนพากันถอนเงินออกจาก BlockFi เป็นจำนวนมาก
ตัวของ BlockFi เอง ซึ่งนำเงินฝากของลูกค้าไปลงทุนเป็นส่วนใหญ่
ก็จะเกิดการขาดสภาพคล่องเช่นเดียวกัน และกลายเป็นผู้ประสบปัญหาใหญ่ รายต่อไปเสียเอง
2
โฆษณา