22 มิ.ย. 2022 เวลา 12:44 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Estee Lauder (EL) หุ้นเครื่องสำอางค์ 10x ใน 13 ปีที่ผ่านมา
EL ถือว่าเป็นบริษัทเครื่องสำอางค์ที่ประสบความสำเร็จในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาเป็นอันดับต้นๆของโลก สามารถเติบโตยอดขายได้เท่าตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมารวมทั้งยังเป็นผู้นำในการจัดการต้นทุนและกำไรได้ดีเยี่ยมอีกด้วย ทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา เรามาทำความรู้จักหุ้นตัวนี้กัน
EL ถูกก่อตั้งโดยนาง Estee Lauder ในปี 1946 ในช่วงแรกๆทำผลิตภัณฑ์ออกมาทั้งหมด 4 อย่างได้แก่ Cleansing Oil, Skin Lotion, Super Rich Creme และ Creme Pack
หลังจากธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ก็ได้เข้าซื้อกิจการแบรนด์ต่างๆดังนี้
ปี 1995 ซื้อ Lamer และ Bobbi Brown
ปี 1998 เข้าซื้อ MAC Cosmetics จากกลุ่มธุรกิจในประเทศแคนนาดา
พร้อมทั้งเปิดตัวแบรนด์ใหม่ เช่น Clinique ในปี 1968 และ Origins ในปี 1990
บริษัทยังได้สิทธิในการขายน้ำหอมยี่ห้อ DKNY และ Tommy Hilfiger ไปทั่วโลกอีกด้วย
ช่องทางจำหน่ายในปัจจุบันบริษัทขายผ่านทางร้านค้าที่เป็นของบริษัทเอง และร้านที่ขายผ่านทางบริษัทคู่ค้า ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วโลก รวมทั้งยังเน้นขายผ่านช่องทาง E-Commerce
EL มีแบรนด์สินค้าที่แข็งแกร่งทั้ง Estee Lauder Lamer MAC DKNY Bobbi Brown ORIGINS และแบรนด์อื่นๆ อีกสิบกว่าแบรนด์ ที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกได้ดีเยี่ยม
#จุดแข็ง
✅ EL เป็นแบนด์ที่รู้จักทั่วโลกสินค้ามีคุณภาพสูงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้และมีการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง สินค้าหลากหลายครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ นำ้หอม เมคอัพ ผม
✅ EL เน้นจับตลาดบนโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการดูแลผิวพรรณ ที่มีหลากหลายชนิดและแบรนด์ที่แข็งแกร่ง จึงช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตได้เร็วกว่าคู่แข่งอย่าง L’Ore’al นอกจากนี้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณยังมีอัตราทำกำไรจากการดำเนินงานที่สูงถึง 30% และเป็นตัวขับเคลื่อนมูลค่าหุ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
✅ เมื่อเทียบ EBITDA กับคู่แข่งหลักๆได้เเก่ L’Oreal, Shiseido, e.l.f, Revlon และ Coty
ทาง EL สามารถทำตัวเลขได้สูงสุดที่ 25%
ในขณะที่ L’Oreal ทำได้ 22%
Coty ทำได้ 16%
e.l.f ทำได้ 13%
Revlon ทำได้ 12%
#รายได้
รายได้ปี 2022 ไตรมาสที่ 3 (จบมิถุนายน 2022) ทำได้ $4,245 ล้าน เติบโต 10% YoY โดยแบ่งแยกได้ดังนี้
56% มาจาก Skin Care (ยอดขาย $2,395 ล้าน)
26% มาจาก Make Up (ยอดขาย $1,114 ล้าน)
13.6% มาจากนำ้หอม (ยอดขาย $579ล้าน)
3.5% มาจากผลิตภัณฑ์ดูแลผม (ยอดขาย $147 ล้าน) และอื่นๆอีก 0.9%
บริษัทมีการเติบโตยอดขายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2010 ถึงปัจจุบัน เติบโตได้ 6.29% ต่อปีแบบทบต้น แต่ในส่วนของกำไรสุทธิต่อหุ้น บริษัทสามารถเติบโตได้ถึง 15.14% ต่อปีทบต้น ด้วยการเติบโตของรายได้และการซื้อหุ้นคืนอย่างต่อเนื่อง
#ความเสี่ยง
✅ ผลกระทบจากโควิดและเงินเฟ้อมีผลต่อระบบ Supply chain การผลิต การขนส่ง รวมทั้งวัตถุดิบนอกจากนี้ยังเพิ่มต้นทุนในการสร้างโรงงานใหม่
✅ ประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มากสำหรับบริษัทยังคงถูกปิดเมืองอยู่ กระทบศูนย์กระจายสินค้าในเซี่ยงไฮ้ คนโดนกักตัวจึงไม่เกิดกิจกรรมมากนัก จึงซื้อเครื่องสำอางค์น้อยลง ถ้าจีนเปิดเมืองช้า รายได้ของบริษัทก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ลดลง
✅ ความเสี่ยงจากการแข่งขัน คู่แข่งใหม่ๆอย่าง Colgate-Palmolive และ Unilever เริ่มลงมาจับตลาดผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิวพรรณเช่นกัน อย่างไรก็ตามด้วยชื่อเสียงที่สะสมมายาวนาน แบรนด์มีความน่าเชื่อถือและสินค้าหลากหลาย ความเสี่ยงในส่วนนี้จึงไม่น่ากังวลเท่าไหร่
ข้อมูลจาก Seekingalpha คาดการณ์ว่า รายได้ยังสามารถเติบโตได้ 7-9% ในอีกสองสามปีข้างหน้า และคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิจะมีการเติบโต 15% ในปี 2023 และ 11% ในปี 2024
ในแง่ความถูกแพงของหุ้น ตอนนี้พีอีของบริษัทอยู่ที่ 26.97 เท่า ในขณะที่พีอีเฉลี่ยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 29.65 เท่า โดยมีพีอีต่ำสุดในรอบ 10 ปีที่ 22.29 เท่า
ในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับตัวลงอย่างหนักจากวิกฤตถ้าเงินเฟ้อและสภาวะสงคราม หุ้น EL ที่มีแบนสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งและหลากหลาย เป็นผู้นำระดับโลก รวมทั้งยังมีเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง น่าจะเป็นหุ้นอีกตัวหนึ่งที่นักลงทุนลองไปศึกษาเพิ่มเติม
หุ้น EL อยู่ในตลาดอเมริกา NYSE ลงทุนได้ง่ายเลยครับ
 
Disclaimer: บทความนี้เพื่อให้ไอเดียการลงทุนกับนักลงทุน ไม่ได้เป็นการเชียร์ให้ซื้อหรือขาย นักลงทุนควรจะต้องศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเองอีกครั้งครับ
#สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจลงทุนต่างประเทศ ที่บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป มีทั้งแบบที่ลงทุนโดยตรงด้วยตนเองผ่านบริการ Phillip Global Markets ค่าคอมฯ เริ่มต้นเพียง 0.2% (ตลาด U.S. และ H.K) จุดเด่นของเค้าคือมีบริการ support 24 ช.ม.
สนใจติดต่อ Line: @phillipglobal หรือคลิก: https://lin.ee/q0bIxVg
�หรือหากยังไม่เชี่ยวชาญสามารถลงทุนผ่านกองทุนรวม กับบริการ Phillip Fund SuperMart ที่มีให้เลือกมากกว่า 20 บลจ. พร้อมคำแนะนำลงทุนจากทีมนักวิเคราะห์กองทุนโดยเฉพาะ โทร. 02-635-1718
โฆษณา