ยุโรปติดกับดักตัวเอง!? ความเจ็บปวดลากอีกยาว ล่าสุดนักลงทุนชื่อดัง Short เรียบร้อย!
วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องของยุโรป ว่าจะมีท่าทีที่แย่แล้วรึเปล่า? หลังจากมีข่าวว่า นักลงทุนชื่อดังอย่างคุณ Ray Dalio ได้ทำการ Short ไปกว่า 6 Billion
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ยุโรปในตอนนี้ ก็เรียกว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดได้เลย เนื่องจากสภาพดั้งเดิม ก็แย่ด้วยปัญหาทางด้านโครงสร้างอยู่แล้ว ปัญหาเรื่องของการเติบโตต่ำ บางประเทศในกลุ่มยุโรปนั้น ก็มีหนี้ที่สูงมากๆ มีปัญหาภายในกันมากมาย
และล่าสุด ก็มีเรื่องของสงคราม เรื่องของเงินเฟ้อ เช่น เยอรมัน เงินเฟ้อก็รุนแรงในรอบกว่า 60 ปี หรือสเปน เงินเฟ้อก็ทำ All Time High กันเป็นว่าเล่น แล้วก็มีการขาดแคลนอาหาร สินค้าเรื่องของพลังงาน เรียกว่า ยุโรปก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงอย่างหนัก จนทำให้นักวิเคราะห์หลายคน บอกว่าความเจ็บปวดนี้ ยังคงดำเนินต่อไปและยังมองไม่เห็นว่า ก้นหลุมตอนนี้นั้นอยู่ตรงไหน
ซึ่งก็มีบทความนึงของคุณ Lyn Alden ที่ได้เขียนเกี่ยวกับว่า ธนาคารกลางยุโรป กำลังติดกับดักจากที่ตัวเองสร้างขึ้นมา โดยเค้าได้อ้างถึงธนาคารกลาง อย่างเช่น ญี่ปุ่น อเมริกา ยุโรป กำลังสร้างกับดักแล้วติดเองด้วย
นั่นก็คือ กับดักเรื่องหนี้ และกับดักเรื่องของเครดิต เพราะว่า กลุ่มประเทศกลุ่มนี้ มีการเติบโตของหนี้ที่ค่อนข้างสูงมาก หนี้เหล่านี้จะไม่มีวันจบ แล้วมันยังคงเติบโตไปเรื่อยๆ เปรียบเสมือนการเล่นเก้าอี้ดนตรี ก็เพียงแค่ทำให้เก้าอี้มันยังหมุนต่อไปได้ตลอดเวลา
แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ หนี้พวกนี้มีปริมาณที่สูงกว่า Supply เงินในระบบค่อนข้างมาก เป็นหนี้ที่รอเจ้าหนี้มาทวง ถ้าทวงพร้อมกัน ก็จะไม่มีเงินสดมากเพียงพอ ที่จะมาใช้หนี้ได้ตลอด
แล้วสิ่งที่ธนาคารกลางทั่วโลกทำ ก็คือ รักษาการเติบโตของหนี้ไปเรื่อยๆ แล้วก็พิมพ์เงินเข้ามาในระบบมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ได้ทำการลดทอนค่าเงินทุกปี ปีละ 2%
โดยหลายสิบปีที่ผ่านมา ก็มีการลดอัตราดอกเบี้ยเข้าใกล้ 0 ด้วย บางประเทศติดลบ ซึ่งก็ทำให้รายจ่ายเรื่องหนี้ หรือภาระเรื่องหนี้สิน น้อยลงไปเรื่อยๆ หรือแทบจะไม่มีเลย
แต่ในทางกลับกัน ก็สร้างหนี้ได้เยอะขึ้น การเติบโตก็มากขึ้น พอเติบโตมากขึ้น ภาระหนี้น้อยลง ก็ไปออกเรื่องของรายได้ที่เติบโตมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งฟังดูเหมือนดี แต่ว่าเงื่อนไขพวกนี้ ต้องอยู่ในเกณฑ์ปกติเท่านั้น
แล้วถ้ามีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น มีสงคราม มีเงินเฟ้อรุนแรง การเกิดปัญหาต่างๆที่รุนแรง อันนี้จะอันตรายมาก ซึ่งวันนี้ก็เกิดขึ้นแล้ว เพราะว่า ดอกเบี้ยมันตามไม่ทันเงินเฟ้อ และห่างไกลกันเยอะ
หากถ้ามองตรงนี้จะเห็นภาพว่า เก้าอี้ดนตรีที่ร้อยเรียงกันมาเรื่อยๆเหมือนจะแตกหักพังทลายแล้ว พอกลับไปดูตัว balance sheet ของธนาคารกลางยุโรป ก็มีนักข่าวสัมภาษณ์ ประธานธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB
โดยถามว่า ตัว balance sheet จะลดลงไปได้หรือไม่? ยกตัวอย่างอย่างเช่น FED ได้ทำ QT หรือการดึงสภาพคล่องออกไปเรื่อยๆ แล้ว ECB จะทำได้หรือไม่? คุณ คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป ก็ได้แต่ยิ้มแห้ง แล้วบอกว่า เดี๋ยวมันก็มาเอง!
และที่สำคัญ จะเห็นได้ว่า ยุโรปนั้นจะแตกต่างจากประเทศอื่น เช่น อเมริกา ญี่ปุ่น เพราะว่า กลุ่มประเทศยุโรป เขาขาดอธิปไตยของตัวเอง มันต่างกัน อย่างเช่น อเมริกา เขาจะพิมพ์เงินประเทศเขาเองได้ มีความต้องการเงินเพิ่มก็พิมพ์เงินสกุลของเขาออกมา และไม่ต้องไปขออนุญาตใคร
แต่ประเทศในยุโรป ไม่ใช่! เพราะว่าพวกเขาไม่มีสกุลเงินของตัวเอง ก็ต้องพึ่งพาตัวใหญ่ ก็คือ ยุโรปนั้นเอง ทำให้พวกเขาไม่มีนโยบายการเงินเป็นของตัวเอง และบางประเทศก็เรียกว่า อ่วมหนัก แล้วก็เลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะกับประเทศตัวเองไม่ได้
อย่างเช่น อิตาลี ก็มีหนี้ต่อ GDP ที่สูงมาก หนี้สินส่วนใหญ่ก็ถูก Funding มาจากทางยุโรปด้วย ก็เรียกว่า สูญเสียอธิปไตยไปค่อนข้างเยอะ แล้วก็ค่อนข้างอันตรายต่อโครงสร้างยุโรปโดยรวม
แล้วทางคุณ Lyn Alden บอกว่า เขาก็ไม่ถูกโน้มน้าวให้ไปซื้อหุ้นยุโรปเท่าไหร่ หรือ ซื้อพันธบัตร หรือถือเงินยูโร โดยเขามองว่า ถือทองคำดีกว่า! อาจจะหมายความว่า ทิศทางแบบนี้ ยุโรปใกล้ถึงทางตันแล้วหรือเปล่า? หรือว่ามีความเสี่ยงในอนาคตหรือไม่? ทำให้นักลงทุนหลายคน ก็เริ่มมองลบกับทางยุโรปเป็นจำนวนมาก
เพื่อนๆคิดเห็นอย่างไร คอมเม้นกันได้เลยนะครับ!
แอดปลา
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
