23 มิ.ย. 2022 เวลา 08:46 • กีฬา
ซาดิโอ มาเน่ ย้ายไปเป็นนักเตะคนใหม่ของบาเยิร์น มิวนิคเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่ผู้คนยังพูดถึงกันอยู่คือ "คำอำลา" ที่เจอร์เก้น คล็อปป์ มอบให้กับเขา วิเคราะห์บอลจริงจังจะเล่าให้ฟังประโยคต่อประโยค
2
คำอำลาของเจอร์เก้น คล็อปป์ ที่มอบให้ซาดิโอ มาเน่ เป็นบทสัมภาษณ์ที่ทรงพลัง ซาบซึ้ง และแสดงให้เห็นถึงความรักที่เขามีให้กับมาเน่ ตลอดช่วงเวลาที่ร่วมงานกัน
3
จริงๆ ย้อนกลับไป ในฤดูกาลแรกสุดของคล็อปป์ (2015-16) ตอนเขาเข้ามาแทนเบรนแด็น ร็อดเจอร์ส ณ เวลานั้น คล็อปป์รู้ว่าจะต้องสร้างทีมขึ้นมาใหม่ แต่ยังไม่แน่ชัด ว่าจะสร้างด้วยวิธีไหน
1
ถ้าเราสังเกตดู คล็อปป์ในซีซั่นแรก เขาทดลองใช้แผนถึง 5 แผนในปีเดียว คือโอเค เขารู้ ว่าอยากให้ทีมเล่นสนุก เล่นเมทัลฟุตบอล แต่ยังไม่รู้จะนับหนึ่งอย่างไรดี
แต่ทันที ที่เขาได้ตัวซาดิโอ มาเน่ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 คล็อปป์ก็รู้ทันทีว่า "นี่แหละ ฟุตบอลที่เขาต้องการ"
มาเน่ มีความเร็วจัดจ้าน ทำลายแนวรับของคู่แข่งกระจุย นอกจากนั้นยังประสานงานกับฟูลแบ็กของตัวเองได้เก่งกาจ ซึ่งการมาของมาเน่ ทำให้คล็อปป์รู้ว่า แผนที่เหมาะที่สุดของลิเวอร์พูลคือ 4-3-3 ใช้ความเร็วซ้าย-ขวา โจมตีคู่แข่งให้เละเทะ
2
จากนั้นมาจนถึงปัจจุบัน ลิเวอร์พูลก็ยึดไอเดีย 4-3-3 มาตลอด และมันเป็นรากฐานของแชมป์ทุกรายการที่เกิดขึ้นด้วย
ดังนั้นจึงไม่แปลก ถ้าคล็อปป์จะมีความผูกพันกับซาดิโอ มาเน่เป็นอย่างมาก และรู้สึกอาลัยที่มาเน่ย้ายไปบาเยิร์น มิวนิคในวันนี้
1
สิ่งที่คล็อปป์แปลกใจคือ ทันทีที่มาเน่เลือกจะย้ายทีม เขากลับโดน "ลดคุณค่า" จากแฟนบอลบางส่วน คือทำเหมือนว่า มาเน่ ก็ไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น เสียนักเตะคนนี้ไปแล้วจะยังไง ก็มีคนอื่นมาแทนได้แล้วกัน ซึ่งคล็อปป์ได้ย้ำว่า แฟนบอลห้ามลดทอนคุณค่าของผู้เล่นแบบนั้นเด็ดขาด
2
ต่อให้นักเตะจะย้ายทีมไปแล้ว แต่ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมันก็มีความหมายจริงๆ คุณจะสนแต่ปัจจุบันไม่ได้ แต่ต้องให้ความสำคัญกับ คนที่ฝ่าฟันทุกอย่างมาด้วยกันด้วย
หลังจากมาเน่ ชูเสื้อกับบาเยิร์น มิวนิคเรียบร้อยแล้ว คล็อปป์ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ทางการของสโมสร นี่เป็นบทสัมภาษณ์ที่ Emotional เปี่ยมไปด้วยพลังอย่างแท้จริง ผมจะขออนุญาตแปลมาแบบคำต่อคำ ไม่ตัดทอนเลยนะครับ
-------------------------
[ คล็อปป์ : ซาดิโอ ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ ]
"ช่วงเวลาที่เรามีร่วมกับเขา มันยิ่งใหญ่เหลือเกิน ไม่มีเหตุผลที่เราจะแสร้งทำว่ามันไม่เกิดขึ้น"
1
"การสูญเสียเขาไปมันคือความเสียหายที่มหาศาลจริงๆ ไม่จำเป็นที่เราจะต้องแกล้งทำ ว่าเราไม่รู้สึกอะไรเลย"
3
"หนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของสโมสรลิเวอร์พูลย้ายออกไป เราต้องรับรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายขนาดไหน"
2
"แต่มันเป็นการจากกันด้วยความรัก เราซาบซึ้งในสิ่งที่เขาทำเป็นอย่างยิ่ง และเขาจากไปในฐานะที่เทียบเคียงกับผู้เล่นระดับตำนานในอดีต และ ใช่ เขาจากไปในฐานะหนึ่งในผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโลกฟุตบอลขณะนี้
3
"แต่เราต้องไม่นั่งเสียอกเสียใจนานเกินไป ตรงกันข้ามเราควรดีใจกับสิ่งที่เราเคยได้รับมาจากเขา ทั้งประตูมากมายที่เขายิงได้ และโทรฟี่แชมป์ที่เราคว้ามา เขาคือตำนาน และเป็นไอคอนของสโมสรลิเวอร์พูลในยุคปัจจุบันด้วย"
2
"ตั้งแต่เขาย่างก้าวเข้ามาอยู่ในสโมสรของเรา เขาทำให้ทีมเราดีขึ้น คือถ้าวันนั้นมีใครสักคนมาบอกเราว่า นักเตะคนนี้จะมีส่วนทำให้สโมสรประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ ผมก็คงไม่แน่ใจนักว่ามันจะเกิดขึ้นได้จริง คืออาจจะได้แชมป์บ้างแต่ก็คงไม่ได้มากมายขนาดนี้"
"แต่ซาดิโอ ทำให้เรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นนั้น มันเป็นไปได้"
"การเล่นได้อย่างคงเส้นคงวา แถมยังพัฒนาไปเรื่อยๆ ซีซั่นต่อซีซั่น มันไม่น่าเชื่อนะ ทั้งๆที่เขาเซ็ตมาตรฐานของเดิมจากปีก่อนเอาไว้สูงมากๆ แท้ๆ"
"นี่จะเป็นตัวอย่างให้นักเตะคนไหนก็ตามในโลกนี้ได้รับรู้เลยว่า ความเป็นมืออาชีพ และ ความทุ่มเทตั้งใจจริง จะให้ผลตอบแทนกลับมาเสมอ"
1
"ผมเคารพการตัดสินใจของเขาอย่างสมบูรณ์ และผมก็เชื่อว่าแฟนบอลของเราจะทำแบบนั้นเหมือนกัน เพราะถ้าคุณรักสโมสรลิเวอร์พูล คุณต้องรักซาดิโอด้วย เรื่องนี้เราต่อรองกันไม่ได้ ความหมายของผมคือ เราต้องยอมรับว่าสำหรับเราคือความสูญเสีย และ บาเยิร์นจะได้ประโยชน์จากการซื้อขายครั้งนี้เต็มๆ"
(Note : คล็อปป์ ย้ำว่า ถ้าคุณรักสโมสรจริง คุณห้ามลดทอนคุณค่าของมาเน่เด็ดขาด ไม่ใช่ว่าตอนเล่นอยู่กับลิเวอร์พูลเป็นยอดนักเตะ แต่พอย้ายไปบาเยิร์นปั๊บกลายเป็นนักเตะห่วยๆ คนหนึ่งทันที คล็อปป์บอกว่า แฟนบอลจะทำแบบนั้นกับมาเน่ไม่ได้)
2
"สิ่งเดียวที่เราหวังจากเขาต่อจากนี้ คือขอให้เขาประสบความสำเร็จในทุกๆ เกม ที่ลงสนาม ยกเว้นแค่เกมเดียว แน่นอน คือเวลาต้องมาปะทะกับลิเวอร์พูล! คือผมรู้ว่าเขายังอยู่ในช่วงขาขึ้น ดังนั้นเขาจะก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีข้อสงสัยในสิ่งนี้เลย"
"ย้อนกลับไปในฤดูกาลที่แล้ว ผมเคยถูกสัมภาษณ์แบบ Q&A ให้นิยามนักเตะแต่ละคนภายใน 3 คำ แต่ในวันนี้ พูดตรงๆ ผมไม่สามารถใช้ 3 คำแบบนั้นกับซาดิโอได้เลย"
1
"คือถ้าคุณให้ผมพูดถึงเขาได้แค่ 3 คำจริงๆ ผมคงต้องขอใช้ 3 คำหลายๆ ครั้งหน่อย เพราะมันมีหลายรูปแบบมากๆ ที่คุณจะบรรยายถึงเขาได้"
"ผู้เล่น ระดับ เวิลด์คลาส!" (World-class player)
"ตำนาน สโมสร ตัวจริง" (True club legend)
"ต้นแบบ เยาวชน รุ่นหลัง" (Ideal role model)
"เพื่อนร่วมทีม อันแสน สุดยอด" (The perfect teammate)
1
"คนน่ารัก เห็นอกเห็นใจ คนรอบตัว" (Compassionate, Caring person)
1
"แต่สุดท้ายแล้ว คำ 3 คำ ที่เหมาะสมและถูกต้องที่สุดในวันนี้ มันเป็นคำที่ยากเหลือเกินที่จะพูดมันออกมา นั่นคือคำว่า 'เราจะ คิดถึงนาย แน่นอน' "
"will miss you"
3
6 ปีของซาดิโอ มาเน่ ลงสนาม 269 นัด ยิงได้ 120 ประตู เขาคว้าแชมป์ทุกรายการมาครบแล้ว ตั้งแต่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ, คาราบาวคัพ, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ
ดังนั้น ในวันนี้เมื่อเขาเลือกจะอำลาทีมไป จึงแยกทางกันด้วยความทรงจำที่สวยงาม ไม่มีอะไรต้องติดค้างใจกันอีก
2
ช่วงเวลา 6 ปี อาจจะไม่นานนักในโลกของฟุตบอล แต่ด้วยความสำเร็จมากมายที่เขาช่วยสร้างให้สโมสร จากวันที่ไม่มีอะไรเลย สู่การได้แชมป์ทุกใบที่มี ดังนั้นการใช้คำว่า มาเน่คือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของลิเวอร์พูล ก็คงไม่ใช่เรื่องเกินเลยแต่อย่างใด
1
#TIMETOSAYGOODBYE
โฆษณา