23 มิ.ย. 2022 เวลา 09:52 • ธุรกิจ
มันเป็นเรื่องตลกร้าย ที่ “คนจีน” ที่รวยที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ ต้องหนีออกจากประเทศจีนถึง 2 ครั้ง
4
เขาคือ จ้าว ฉางเผิง ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Binance แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำของโลก ซึ่งตอนนี้มีข่าวความร่วมมือกับบริษัท GULF ของไทย และมี “ข่าวลือ” เรื่องจะร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยด้วย
11
ต้นปี 2022 นี้เอง บลูมเบิร์กประเมินว่าเขามีความมั่งคั่งประมาณ 90,000 ล้านดอลลาร์ (เกือบ 3 ล้านล้านบาท)
1
เขาต้องหนีออกจากประเทศจีนครั้งแรกตอนเป็นเด็ก เมื่อพ่อของเขาซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ถูกพรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวหาว่าเป็น “พวกชนชั้นนายทุน”
จ้าวจึงไปเติบโตที่แคนาดา
เมื่อจบการศึกษาและทำงานได้สักพัก เขามีโอกาสกลับไปตั้งบริษัท Binance ที่เซี่ยงไฮ้ ไม่นานหลังจากนั้น พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ “สั่งแบน” อุตสาหกรรมคริปโตทั้งหมดในจีน ทำให้เขาต้องหนีออกจากจีน ประเทศบ้านเกิด อีกครั้ง
ย้อนกลับไปตอนที่เขารู้จักกับโลกคริปโตครั้งแรกเมื่อปี 2013 หลังจากได้ศึกษาและหลงใหลเรื่องบิตคอยน์อยู่สักพักแล้ว ปี 2014 เขาขายบ้านเพื่อเอาเงินไปซื้อบิตคอยน์หมดหน้าตัก
5
ภายใน 3 เดือน ราคาบิตคอยน์ตกลงจาก 600 ดอลลาร์ เหลือ 200 ดอลลาร์ ทำให้เขาสูญเสียมูลค่าบ้านไป 2 ใน 3 และจ้าวต้องรอเป็นเวลาประมาณสองปีก่อนที่ราคาจะกลับขึ้นมาอีกครั้ง
1
เขาเคยให้สัมภาษณ์รายการหนึ่งเมื่อปี 2020 พิธีกรถามว่า “ทำไมคุณถึงสงบนิ่งได้ขนาดนี้ คุณเกิดมาเป็นแบบนี้เลยมั้ย”
1
จ้าวตอบว่า “ผมมีอัตราการเต้นของหัวใจต่ำ ตอนพักอัตราการเต้นของหัวใจของผมเท่ากับ 50 ที่ Binance ผมไม่เคยตะโกน ผมไม่เคยโวยใคร ผมไม่เคยรู้สึกกระวนกระวายใจจริง ๆ ผมเป็นคนสงบนิ่งเสมอ”
ยังมีอีกเรื่องที่น่าสนใจ
จ้าวเป็นคนที่เชื่อในทฤษฎี “โลกจำลอง” หมายความว่าเราทุกคนกำลังใช้ชีวิตอยู่ในโลกปลอม หรือโลกจำลองทางดิจิทัล ที่สิ่งมีชีวิตซึ่งมีสติปัญญาสูงกว่าพวกเราสร้างขึ้นและควบคุมอยู่
“คุณดูเกมซูเปอร์มาริโอ ของนินเทนโด เราจำลองมาริโอให้เดินไปข้างหน้า เดินถอยหลังได้ ที่ยากก็คือผมไม่รู้ว่าเราถูกจำลองแบบไหน เราเห็นว่าสิ่งมีชีวิตที่สูงกว่าซึ่งอยู่ในอีกมิติจำลองเราอยู่ หรือว่าเราแค่นั่ง นอนอยู่ที่นั่น ฝันถึงตัวเราเอง”
1
จ้าวอยากพัฒนาให้เงินมีเสรีมากขึ้น เพื่อให้ผู้คนระดมทุนทำการวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพ การสำรวจอวกาศ และ AI ซึ่งจะทำให้โลกพัฒนาไปได้อีกมาก
ด้วยลักษณะของคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งเข้ารหัสและทำให้กระแสเงินไหลข้ามพรมแดนอย่างอิสระ พรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงรู้สึกสั่นคลอน
มีหลายเหตุผลที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกลัวคริปโตเคอร์เรนซี หนึ่งในนั้นก็คือ ลักษณะการกระจายอำนาจของคริปโตเคอร์เรนซีจะทำให้รัฐควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน พิมพ์เงิน หรืออัตราเงินเฟ้อและเงินฝืดไม่ได้
ธรรมชาติของสกุลเงินดิจิทัลที่เสรีและเป็นประชาธิปไตยนี้เอง ที่อาจทำให้เกิดการสร้างระเบียบและโครงสร้างทางสังคมขึ้นใหม่ ดังนั้นจากมุมมองนี้ มันสั่นคลอนรากฐานของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
เรื่องคริปโตเคอร์เรนซีถือเป็นเรื่องใหม่ และยังคงต้องติดตามต่อไป
หวังว่าทุกท่านจะได้รู้จัก จ้าว ฉางเผิง และ Binance เพิ่มมากขึ้นไม่มากก็น้อยนะครับ
1
เครดิตภาพ: Smorshedi
โฆษณา