24 มิ.ย. 2022 เวลา 15:22 • ธุรกิจ
Note to self สรุปแบบบ้านๆ คัดประเด็นที่ (ฉัน) สนใจ
จากงานเวทีความคิด “The Disruption of Business, Competition, and Transformation, Ready for the FUTURE. : โลกปรับ เกมเปลี่ยน พร้อมพลิกโฉมธุรกิจอนาคต”
Photo by ThisisEngineering RAEng on Unsplash
เรียกว่าเป็นเวทีที่เปิดหู เปิดตา เปิดสมองของเลดี้มากๆ เลย ที่ได้ฟังผู้บริหารในแวดวงธุรกิจต่างๆ มาแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดกันในเรื่องของธุรกิจ กับการปรับตัวในยุค Disruption เรียกว่าใครคลำทาง ยอมนอกกรอบ และเริ่มปรับก่อน คนนั้นได้เปรียบ!
โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงเร็วมาก ยิ่งเป็นยุคดิจิทัลด้วยแล้ว มันหมุนแรงเกินคาดคิดนะคะ อย่างไม่กี่ปีก่อน ใครจะคิดว่าเราจะดูหนัง ฟังเพลงบนมือถือได้ หรือกลายเป็นผู้สร้างคอนเทนต์เองก็ได้ เพียงแค่มี Smartphone เครื่องเดียว
ใครจะคิดว่าสื่อทีวีจะล้มหายตายจากได้เร็วไว หลังจากที่เรามีช่องทีวีเพิ่มเป็นหลายเท่าตัว หรือสวรรค์ของสายช้อปที่กลายเป็นจริง แค่นอนอยู่บนเตียงก็ CF ของได้ อยากช้อปดูของแบบเรียลไทม์ ก็ดูผ่าน LIVE แล้วก็จ่ายเงินได้ทันทีผ่านแอป Mobile Banking
เอาละ เลดี้ลองสรุปประเด็นที่ตัวเองสนใจ ย้ำว่า ตัวเองสนใจ 55555 เอาไว้เป็นความรู้เล็กๆ ที่เพิ่มเติมทุกวันของตัวเอง
สื่อโทรทัศน์ - จากเดิมที่มีทีวีไม่กี่ช่อง ต่อมาก็คิดกันว่านี่เป็นสื่อที่ประชาชนเข้าถึงเป็นหลัก ควรจะมีถึง 10 ช่อง แต่ไปๆ มาๆ กสทช กลับเปิดให้ประมูลเลย 24 (เพราะเห็นช่วงนั้นทีวีดาวเทียมมาแรง) กะให้มีครบคอนเทนต์ครบทุกประเภท ตอนประมูลจบเกิดรัฐประหาร แล้วก็ประจวบเหมาะกับที่มีประมูล 3G พอดี โลกคอนเทนต์อีกใบกำลังจะมา
นี่แหละคือการโดน Disrupt แล้วก็เป็นจริงที่ว่า พอเทคโนโลยี 3G 4G 5G มา กลายเป็นตัวเร่งที่บอกว่า ทีวีไม่ใช่ช่องทางที่มีประสิทธิภาพอีกต่อไปแล้ว
Ogilvy – มองว่าวงการโฆษณาเกิด Big Shift บน Media ที่ตอนนี้มีแพลตฟอร์มเยอะมาก ทุกคนเป็น Creator ได้ คอนเทนต์มีความหลากหลาย แม้แต่แอปดีลิเวอรีก็ยังมีคอนเทนต์ของตัวเองได้ ธุรกิจเอเจนซีต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ผลักดันให้เกิดการเติบโต ด้านบุคลากรก็ต้องปรับตัวโอบรับการเปลี่ยนแปลงให้ได้
Major - ตอนนี้เป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์ที่มีแต่ฉายหนังแล้ว เพราะเทคโนโลยีทำให้ขยายธุรกิจไปได้ เป็นที่จัดคอนเสิร์ต หรือแม้แต่ถ่ายทอดกีฬา หรือถ่ายทอดการประชุม นอกจากนี้ก็ยังสร้างธุรกิจใหม่คือ ขายป๊อบคอร์นได้ด้วย ยอดไปได้ถึง 50 ล้านบาทต่อเดือน
Telenor Asia - เข้ามาลงทุนในเอเชีย 25 ปีแล้ว และรายได้ 60% ของ Mobile มาจากเอเชีย ไทยเป็นหนึ่งใน 4 ของประเทศที่บริษัทลงทุน โดย Telenor ก็มองว่า ดิจิทัลคือกระดูกสันหลังของการเติบโตเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในเอเชีย ถ้าไม่มีดิจิทัลที่เหมาะสมก็จะเติบโตไปไม่ได้
นอกจากนี้โควิดก็ยังเป็นตัวเร่งให้เอเชียเข้าสู่ยุค digitalization และยังจะเติบโตต่อไป ซึ่ง Telenor ก็ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตนี้ทั้งเอเชีย และในไทย โดยยืนยันว่าจะลงทุนต่อไปแน่นอน
แล้วก็พูดถึงว่า ศักยภาพของ 5G จะสร้างโอกาสอื่น ๆ ได้อีกเยอะมาก ส่งเสริมทั้ง AI สร้างความมหัศจรรย์ต่างๆ ได้ แต่ทั้งนี้การลงทุนด้านคมนาคมใช้เงินลงทุนสูงมาก ทั้งใบอนุญาตและการลงทุนแข่งขัน ไทยต้องมีนโยบายที่เอื้อต่อการลงทุนต่างชาติ กติกาที่เป็นธรรม มีความชัดเจน และต่อเนื่องในระยะยาวด้วย
BGRIM POWER - จากด้านแวดวงพลังงาน ที่แรกเริ่มธุรกิจจากร้านขายยา ต่อมาก็ได้รับสัมปทานโทรเลข และมาถึงสัมปทานไฟฟ้าในปี 1996 ต้องนี้เทรนด์ธุรกิจไปสู่ decarbonization ต่อไปก็อาจจะมีการขาย Solar Energy ให้กันแบบ Peer to peer ได้
ตอนนี้ก็ร่วมกับ True นำเทคโนโลยี 5G มาพัฒนานวัตกรรม Smart Grid (เป็นระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่นำเทคโนโลยีหลากหลายประเภทเข้ามาทำงานร่วมกัน) เพื่อเติบโตต่อไป
Vertex Ventures Southeast Asia and India – ธุรกิจการเงินร่วมลงทุนในตลาดเทเลคอม และสุขภาพ มองว่าไทยมี Connectivity ที่ดีมาก มีการใช้ mobile banking และ shopping app รวมถึงมีระบบการขนส่งที่ถูกและเร็ว
รวมถึงคนไทยปรับตัวกับ digitalization ได้ดีมาก ทุกอย่างจึงเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าไทยเป็นผู้บุกเบิก LIVE commerce นั่นก็เป็นเพราะการที่มี connectivity ดีเช่นกัน แต่เรื่องของการสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนต่างชาติอาจจะยังไม่มากพอ ก็เลยเป็นรองอินโดนีเซียและเวียดนามในตอนนี้
True – มุ่งสู่การเป็น Tech Company เพราะตอนนี้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเข้ามาอยู่ในมือถือแล้ว หน้าจอมือถือของทุกคนเต็มไปด้วยแอปหรือผู้ให้บริการระดับโลก ก็เพราะเทคโนโลยีทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ แต่เมื่อทรูเข้ามาเป็นผู้เล่นด้านโทรคมนาคมรายที่ 3 ของไทย กฎหมายก็ยังตีความว่าเป็น ผู้ให้บริการโทรศัพท์ แต่การที่จะเติบโตได้ต้องทำให้ต่าง ต้องเสนอเทคโนโลยีที่มากกว่าโทรศัพท์โดยเป็น Tech Provider
เวลานี้ Global Player มาอยู่บนหน้าจอมือถือ อยู่บนพื้นฐานของบริการโทรคมนาคม ไม่ว่าจะเป็น LINE FACEBOOK GOOGLE เหมือนกับเป็นน้ำที่ไหลอยู่ในท่อของธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่งกลายเป็นแค่ท่อน้ำให้คนอื่นเข้ามาวิ่งใช้ประโยชน์
ถ้าแบ่งให้เห็นชัดเป็น 2 เลเยอร์คือ เลเยอร์บนเป็น Digital Company มาใช้ประโยชน์จากเลเยอร์ล่างที่เป็น Telecom Operator โดยพวกเลเยอร์บนนี้เป็นผู้เล่นใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในระบบเทเลคอมเดิม อยู่นอกเหนือการควบคุมกำกับดูแลทุกอย่าง
ตอนนี้จึงมอง เทเลคอม เป็นแบบเดิมไม่ได้แล้ว ต้องมองเป็น Tech Telcom ที่มีผู้เล่นเป็นสิบราย
ทรูจึงต้องขยับมาอยู่เลเยอร์บนด้วย ทำให้เกิด True ID และโซลูชั่นที่เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ รวมถึงแอปหมอดี ที่เป็น Telemedicine ให้คนเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ง่าย ไม่ต้องออกจากบ้าน ใช้ประกันของตัวเองได้
สำหรับการควบรวมกิจการ ก็เพื่อให้แข็งแรงและพร้อมแข่งกับผู้เล่นต่างประเทศ การที่ผู้บริโภคได้ประโยชน์ต้องมาจากคู่ต่อสู้ที่สู้ได้หมัดต่อหมัด แข็งแรงพอกัน จึงจะเกิด Innovation – การสร้าง Innovation ก็เป็นความเสี่ยง ไม่รู้ปลายทาง แต่ต้องดึงบริษัทที่มีความเชื่อเดียวกัน มาช่วยกันให้แข็งแกร่ง ต้องเริ่มตั้งต้นจากจุดนี้ คือรวมกันให้เกิดความแข็งแกร่ง รับความเสี่ยงได้ และสร้าง Innovation ได้
ตอนนี้ต้องมองว่า ไม่ควรปล่อยให้ Global Player มาดึงประโยชน์ไปอย่างเดียว โดยเราเป็นผู้บริโภคเพียงอย่างเดียว – ต้องมองตลาดให้ถูกว่า เป็นตลาดรวม ต้องสู้กับ Global Player ที่มากมายด้วย ซึ่ง Regulator ต้องปรับตัวตามให้ทันด้วย
นอกจากนี้ยังพา Start up ไปเปิดตลาดที่ต่างประเทศด้วย แม้แต่แอป True ID ก็ไปที่กัมพูชา
นอกจากนี้ก็มีการทำ business matching พา Start up เข้ามานั่งฟัง pain point ขององค์กรต่าง ๆ แล้วก็ช่วยกัน ทรูก็สนับสนุนเต็มที่
SCB 10X – มองเห็นการเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ 2015 ว่าธุรกิจธนาคารอาจถูก Disrupt จาก Fintech ทางกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ก็ทดลองทำหน่วยงานเล็ก ๆ ตั้งเป็น Digital Venture จนเห็นแนวทางเป็นไปได้ก็ตั้ง SCB 10X
ตอนนี้ถ้ามอง Mobile Banking App แล้ว SCB ก็เป็น Tech Company เหมือนกัน เพราะแอปธนาคารต้องมี security สูงที่สุดแล้ว จะถูกแฮ็กไม่ได้
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายบริการที่ทำงานกับพาร์ทเนอร์ เช่น แอป Robinhood ที่ไม่เกี่ยวกับการเงิน แต่ใช้ฐานข้อมูล แล้วก็ยังขยายไปถึง Health & Wellness / Work & Lifestyle ด้วย
ที่ผ่านมาคือ SCB ไม่ได้รอให้ใครมา Disrupt ถ้าใครจะทำขอให้เป็น SCB ทำเอง เป้าหมายต่อไปคือ สู้กับผู้เล่นต่างชาติได้ และภายใน 3-4 ปี อยากให้มีผู้ใช้ 100 ล้านคน นั่นหมายความว่าจะไม่อยู่แค่ในประเทศแน่นอน
เวทีนี้น่าสนใจมาก ๆ นะ ทำให้เราได้เห็น Innovation ต่าง ๆ ที่เกิดมาในช่วงเวลาไม่นาน แต่ไปไกลมาก ถ้าใครสนใจเข้าไปดู LIVE ได้ประมาณ 3 ชั่วโมงจากลิงก์นี้ https://www.facebook.com/events/564402275281735?_rdc=1&_rdr
โฆษณา