หากรัฐเท็กซัสแยกประเทศจากสหรัฐอเมริกาได้จริง จะส่งผลกระทบอะไรบ้างต่อโลกและประเทศไทย
Credit MARK FELIX/AFP /AFP/GETTY IMAGES
ชาวรัฐเท็กซัสกำลังจะทำประชามติเพื่อแยกตัวออกจากสหรัฐอเมริกาในปี 2023 (พ.ศ. 2566) ถือเป็นข่าวที่คนทั้งโลกต้องจับตามมองอย่างมาก เพราะมีผลกระทบต่อคนทั้งโลกและประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบมากพอสมควร ซึ่งจะมีทั้งผลดีและผลเสีย
ในทางปฏิบัติยากมากๆที่จะแยกประเทศได้ ถึงแม้ว่าจะมีการลงประชามติให้แยกประเทศอย่างเป็นเอกฉันท์ก็ตาม เพราะผู้ที่เสียประโยชน์โดยเฉพาะรัฐบาลกลางสหรัฐฯคงไม่ยอมให้เกิดขึ้นได้ง่ายๆเป็นแน่
แต่ด้วยความที่ตนเองเข้าไปยุ่งย่ามกับประเทศต่างๆทั่วโลกให้เกิดการแยกประเทศ โดยนำความเป็นประชาธิปไตยในแบบฉบับตนเองเป็นเครื่องมือในการช่วยตั้งประเทศใหม่ๆ สิ่งที่สหรัฐฯทำไว้กลายเป็นมุมเมอแรงย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง หากจะขัดขวางไม่ให้แยกประเทศแบบตรงๆ ยังไงก็ไม่สามารถทำได้ เพราะมีชนักปักหลังจากที่ตนเองทำไว้กับชาวโลกมาก ดูแล้วโลกเรามีโอกาสสูงมาที่จะมีประเทศเท็กซัสเกิดขึ้น
Credit: Kathmandu & Beyond
รัฐเท็กซัส เป็นรัฐที่มีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีผลผลิตมวลรวม (GDP) อยู่ที่ 1.985 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รองมาจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีผลผลิตมวลรวม (GDP) อยู่ที่ 3.356 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 8.55% ของประเทศ มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองมาจากรัฐอลาสก้า ทั้งยังมีพรมแดนคิดกับประเทศแมกซิโก เป็นระยะทางที่ระยาวมาก
หากนำรัฐเท็กซัสมาเปรียบเทียบกับประเทศไทย ก็จะมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่าประมาณ 4.36 เท่า มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 9 ของโลก รองมาจากสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศสและบราซิล ใหญ่กว่าอิตาลีทั้งประเทศ
มีทรัพยากรที่สำคัญคือน้ำมันดิบ ที่สามารถผลิตได้เป็นสัดส่วนถึง 40%ของประเทศ ปี 1901 (พ.ศ. 2444) มีการค้นพบแหล่งน้ำมัน Spindletop ส่งผลให้เกิดอุตสาหกรรมน้ำมันขนาดใหญ่ จนทำให้สหรัฐอเมริกากลายมาเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
Credit: Gulf News
สิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อชาวโลกในการแยกประเทศครั้งนี้ก็คือ กำลังการบริโภคโดยตรงเกือบ 10% ของสหรัฐฯจะลดลง ที่สำคัญคือจะเกิดภาวะเงินเฟ้อเกิดขึ้นสูงมากในรัฐที่เหลือ เนื่องจากต้นทุนพลังงานจะสูงขึ้นอีก เพราะแหล่งน้ำมันหลักมาอยู่ที่ประเทศเท็กซัส แต่จะทำให้เท็กซัสมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม ประชากรในเท็กซัสก็มีสวัสดิการเพิ่มขึ้นจากการขายน้ำมันให้สหรัฐ (แต่อาจจะเอาไปซื้อปืนเพิ่มขึ้นก็ได้นะ)
ดูแล้วหากสหรัฐฯยอมให้เท็กซัสแยกประเทศออกไป รัฐที่เหลือคงไม่ปล่อยโอกาสให้ผ่านไปแน่โดยเฉพาะรัฐที่มีกำลังซื้อและผลิตมวลรวมสูงๆ จับตาดูรัฐที่มีพื้นที่ติดกับทะเลและติดกับพรมแดนแมกซิโกและแคนาดา เราจะเห็นรัฐเหล่านี้ขอแยกเป็นประเทศในอนาคตก็ได้ เมื่อเท็กซัสแยกเป็นประเทศได้
Credit: BurningCompass
หากเท็กซัสแยกประเทศได้จริง มหาอำนาจของโลกทั้งทางทหารและทางเศรษฐกิจ ที่เป็นเรื่องเดียวกัน (ทุกประเทศที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจสูงมีกำลังทางทหารเข้มแข็งสูงไปด้วยทั้งสิ้น) จะไม่มีชื่อสหรัฐอเมริกาอยู่ในโลกใบนี้แล้วก็ได้
ผลกระทบในระยะสั้นจะส่งผลต่อภาคการบริโภคของโลกลดลงทันที โดยเฉพาะประเทศที่ผลิตสินค้าส่งสหรัฐฯเป็นหลัก นอกจากจะต้องแบ่งส่งไปแต่ละประเทศย่อยๆแล้ว คนที่มีกำลังซื้อก็ลดลงด้วย เชื่อว่าหลายๆธุรกิจที่พึ่งพิงสหรัฐฯเป็นหลักรวมถึงภาคธุรกิจของประเทศไทยอาจจะต้องปิดตัวลงก็ได้
แต่ก็เชื่อว่าการบริโภคต่อไปจะไม่ได้เน้นสินค้าฟุ่มเฟือยแบบที่สหรัฐและยุโรปหลายประเทศเป็นอยู่ ดังนั้นสินค้าที่จะขายได้ดีจะเป็นสินค้าที่เป็นปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตเป็นหลัก ทั้งอาหาร ยา อสังหาริมทรัพย์ ภาคการผลิต ภาคการขนส่ง เป็นต้น
อัตราการแลกเปลี่ยนสกุลเงินของโลกมีการผันผวน ประเทศที่มีสินทรัพย์ที่จับต้องได้ทั้งทองคำและภาคการผลิตที่เป็นปัจจัยพื้นฐาน ทรัพยากรธรรมชาติ คือประเทศที่จะได้รับประโยชน์โดยตรง ข่าวดีคือประเทศไทยก็เข้าข่ายนี้ด้วย ทำให้ประเทศในโลกส่วนมากอยากจะมาร่วมลงทุนและค้าขายด้วย ต้นทุนทางการเงินก็ต่ำลงเพราะเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ในระดับต่ำ
Credit: Thailand Work Permit & Visa
ภาพรวมแล้วถึงแม้จะส่งผลกระทบในทางลบไปบ้าง แต่จะสร้างประโยชน์ในชาวโลกมากกว่าหากเกิดประเทศใหม่ที่ชื่อว่าประเทศเท็กซัส
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Modernization Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
- 22
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
