1 ก.ค. 2022 เวลา 02:00 • ธุรกิจ
ทำความรู้จัก “TIC” ศูนย์สร้างสรรค์นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ของ BGC
1
ปฏิเสธไม่ได้ “Innovation” หรือ “นวัตกรรม” คือ Key Success ของการสร้างความแตกต่างทางธุรกิจจากคู่แข่ง
หลายอุตสาหกรรมจึงได้เล็งเห็นความสำคัญกับการลงทุนในศูนย์สร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
“BGC” หรือ บมจ.บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วรายใหญ่ในไทยและภูมิภาคอาเซียน ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทใหญ่ที่ตระหนักถึงความสำคัญด้านนวัตกรรมอย่างสม่ำเสมอ
โดยลงทุนสร้างศูนย์ “Technology and Innovation Center (TIC)” แห่งใหม่ ภายในพื้นที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 1,000 ตารางเมตร และห้อง Lab มากกว่า 6 ห้อง
1
เพื่อเป็น “ศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม” ภายใต้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยชั้นนำในไทยและต่างประเทศ ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะสร้างแต้มต่อทางธุรกิจให้กับ BGC
ศูนย์ TIC ใช้งบลงทุนตั้งต้นกว่า 25 ล้านบาท โดยมีบุคลากรแนวหน้าที่หลากหลายตั้งแต่ปริญญาเอกถึงปริญญาตรี ทั้งนักวิจัย วิศวกร นักวิเคราะห์ทดสอบในห้องปฏิบัติการ ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง
หนึ่งในนวัตกรรมที่ถือเป็นความสำเร็จที่มาจากศูนย์ TIC คือ “บรรจุภัณฑ์แก้วชนิดน้ำหนักเบา”
เป็นนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยี Lightweight ผ่านการขึ้นรูปขวดแก้วด้วยวิธีกดอัด และนำมาเป่าแบบคอแคบ (NNPB) ซึ่งกระบวนการนี้สามารถผลิตได้ทั้งขวดแก้วแบบปากแคบและกว้าง และรวดเร็วกว่าวิธีกดอัดแบบปกติที่ใช้กันอยู่ถึง 15-20%
ที่สำคัญคือช่วยลดปริมาณน้ำแก้วในการผลิตได้มากถึง 30% ซึ่งส่งผลให้ลดทั้งต้นทุนและน้ำหนัก แต่ยังคงคุณสมบัติและความแข็งแรงเท่าเดิม
ถือเป็นนวัตกรรมจาก BGC ที่ช่วยลดการใช้ทรัพยากร ลดต้นทุนการผลิตและค่าขนส่ง และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิต สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการในทุกอุตสาหกรรมพุ่งสูงขึ้นจากผลกระทบด้านราคาพลังงาน และยังช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ปัจจุบัน BGC ถือเป็นผู้ประกอบการบรรจุภัณฑ์แก้วรายแรกในประเทศไทย ที่นำนวัตกรรมเทคโนโลยี Lightweight มาใช้ในกระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีความจุมากกว่า 600 มิลลิลิตร ซึ่งต้องการน้ำแก้วในปริมาณมากหากผลิตด้วยกระบวนการปกติ แต่ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี Lightweight จึงได้ขวดแก้วที่มีน้ำหนักเบาลง
นอกจากนี้ศูนย์สร้างสรรค์นวัตกรรมของ BGC ยังมีตัวอย่างความสำเร็จด้านนวัตกรรมอื่นที่นำมาใช้ในปัจจุบัน เช่น เครื่องตรวจวัดปริมาณออกซิเจน (Oxygen Sensor) ที่เป็นอุปกรณ์วัดปริมาณออกซิเจนในเตาหลอมแก้ว
ทำให้กระบวนการเผาไหม้เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยควบคุมสีของน้ำแก้วให้มีความสม่ำเสมอ และอื่นๆอีกมากมายในการเพิ่มแต้มต่อทางธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วให้กับบริษัทฯ
และในปีที่ผ่านมา BGC ยื่นจดทะเบียนสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรเพิ่มขึ้น 60% และยังเดินหน้าลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมกว่า 0.5% ของยอดขายรวมที่หมื่นกว่าล้านบาทในปี 2568
1
เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มและตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้นต่อไป
1
โฆษณา