น้ำส้มสายชูจากกล้วย....ทำได้ง่ายมาก🍾🍾🍾🍾🍾
(วิธีการทำจากเพจของนักเคมีหัวใจสีเขียว)
ช่วงนี้กล้วยน้ำว้าสุกพร้อมกันหลายเครือ ทำให้มีกล้วยสุกงอมเหลือหลายหวี รู้สึกเสียดายจึงหาแนวทางแปรรูปกล้วย พอดีเป็นแฟนเพจของนักเคมีหัวใจสีเขียว ซึ่งมักจะมีการนำวัตถุดิบจากธรรมชาติมาแปรรูปเป็นของกินของใช้ จึงพบว่ากล้วยน้ำว้าสุกงอมสามารถนำมาทำเป็นน้ำส้มสายชูจากกล้วยได้ แถมมีรสชาติที่อร่อยและมีประโยชน์อีกด้วย จึงนำสูตรการทำมาลองทำด้วยตัวเองดู ติดตามไปพร้อมกันครับ...🍌🍌🍌🍌🍌
ขวดโหลและวัตถุดิบ
ขั้นตอนแรกก็เตรียมขวดโหลสำหรับหมักกล้วย ควรเลือกขวดแก้วที่มีฝาปิดล็อกได้ เพราะตอนแรกๆจะมีแก๊สเกิดขึ้น ถ้าฝาไม่มีที่ล๊อกแก๊สจะดันฝาพุ่งได้ ระหว่างฝากับปากขวดควรมียางรอง ล้างให้สะอาดผึ่งให้แห้งสนิท (ไม่ควรใช้ภาชนะพลาสติก เพราะน้ำส้มจะกัดเอาสารเคมีออกมาได้)
วัตถุดิบที่ต้องใช้....
1. กล้วยน้ำว้าสุกงอม
2. น้ำตาลทรายไม่ขัดขาว
วิธีทำ 🍏🍏🍏🍎🍎🍎
1. หั่นกล้วยสุกให้เป็นชิ้นๆ ใส่โหล (ถ้าเสียหรือเละต้องหั่นทิ้งไป เพราะอาจมีเชื้อจุลินทรีย์ตัวไม่ดีอยู่ก่อนแล้ว) กะปริมาณให้ได้ครึ่งหนึ่งของขวดโหล (น้อยกว่านี้ได้ แต่ไม่ควรมากกว่านี้เพราะผิวผลไม้จะสัมผัสอากาศได้ดี เหมาะกับจุลินทรีย์น้ำส้ม)
2. ชั่งน้ำตาลปริมาณ 1/3 ของเนื้อผลไม้ที่ใส่ในโหล (อาจกะเอาด้วยสายตา) เก็บไว้ในภาชนะ ยังไม่ต้องใส่ในโหล
ตั้งโหลที่มีกล้วยที่หั่นแล้วทิ้งไว้ 1 คืน ยังไม่ต้องเติมน้ำตาล
3. ตั้งโหลที่มีแต่ผลไม้ทิ้งไว้ประมาณ 1 วัน (24 ชั่วโมง) สังเกตุดูว่ามีเชื้อราขึ้นไหม ถ้ามีเชื้อราสีอื่นที่ไม่ใช่สีขาวต้องทิ้ง แสดงว่าปนเปื้อนจุลินทรีย์ตัวไม่ดี ถ้ามีสีขาวแสดงว่าใช้ได้
4. ค่อยๆ เริ่มโรยน้ำตาลไม่ขัดขาววันละเล็กน้อย (ประมาณทีละ 1/10 นำน้ำตาลที่เตรียมไว้ในข้อ 2. มาแบ่งเป็น 10 ส่วน เพื่อเติมวันละ 1 ส่วน ใช้เวลา 10 วัน) จนกระทั่งน้ำตาลที่ชั่งไว้หมด โดยทุกวันที่เปิดฝาโรยน้ำตาลให้ดมกลิ่นทดสอบ ถ้ามีกลิ่นเปรี้ยวแสดงว่าโอเค จุลินทรีย์น้ำส้มเริ่มทำงานแล้ว หลังจากเติมน้ำตาลให้หมุนๆขวดโหลหรือเขย่าเบาๆ เพื่อให้น้ำตาลคลุกเคล้าได้ทั่วถึง
5. รอเป็นเวลา 2 สัปดาห์ตรวจสอบกลิ่นอีกครั้ง😋😋😋😋😋
เติมน้ำตาลทรายวันละ 1 ส่วน
สังเกตุความเปลี่ยนแปลงวันแรกจะเริ่มมีน้ำซึมออกมา และจะมากขึ้นเรื่อยๆ และจะมีฟองอากาศเกิดขึ้นแสดงว่าจุลินทรีย์เริ่มทำงานแล้ว
ผ่านไป 2 วันเริ่มมีฟองอากาศ
6. รอจนน้ำที่หมักได้มีความใส ส่วนนี้คือหัวเชื้อจุลินทรีย์น้ำส้มอย่างดี สามารถต่อเชื้อได้เลย (อาจจะ 1-3 เดือน แล้วแต่วัตถุดิบ) ถ้ายังไม่ใสแต่กลิ่นน้ำส้ม ลองชิมดูรสชาติเปรี้ยวถูกใจก็เอามากินได้ (มีจุลินทรีย์ธรรมชาติ ทานไม่ต้องเยอะ)
7. อยากได้น้ำส้มสายชูปริมาณจุลินทรีย์ไม่มากกำลังพอรับประทานให้ได้ไวทันใจให้ ใส่ทำคล้ายกับที่เราหมักหัวเชื้อเริ่มต้น แต่ให้ใส่หัวเชื้อคือน้ำส้มสายชูใสๆที่หมักตอนแรก ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะลงในผลไม้และน้ำตาล คลุกเคล้าให้ทั่ว ตรวจสอบกลิ่นเปรี้ยวและชิมรสทุก 3 วัน เมื่อได้รสชาติที่เปรี้ยวพอดีกับที่ต้องการแล้ว ก็เทน้ำนำมาใช้ประกอบอาหารได้เลย ไม่ต้องรอจนใสก็ได้ 🍹🍹🍹🍹🍹
หมายเหตุ
1. สำหรับคนที่กลัวจุลินทรีย์สามารถต้มฆ่าเชื้อหรือกลั่นเอาแต่น้ำส้มบริสุทธิ์เอาได้
2. อะไรก็หมักด้วยวิธีนี้ได้เกือบหมด แอปเปิ้ล มะละกอ กล้วย ส้ม ฟักทอง ฟักข้าว อัญชัน .... สรุปว่าหมักได้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นไซเดอร์ผลไม้ไทยมันต้องดังไกลไปทั่วโลก
3. วิธีนี้ น้ำส้มที่ได้ (ไม่กลั่น) มีความนุ่มของผลไม้ กินอร่อย
ผ่านไป 3 เดือน
ประมาณ 3 เดือนน้ำจะมีความใส เมื่อเปิดฝาดมกลิ่นก็จะมีกลิ่นเปรี้ยวของน้ำส้ม ตักมาลองชิมดูรสชาติเปรี้ยวๆหวานๆซ่าๆ อร่อยดีครับ ....
ครบสามเดือนนำมากรองเอาเฉพาะน้ำ
ครบสามเดือนนำมากรองเอาเฉพาะน้ำ เก็บใส่ตู้เย็นไว้กินวันละช้อนโต๊ะก่อนอาหารเช้า เพื่อเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ในกระเพาะอาหาร หรือจะเก็บไว้เป็นหัวเชื้อในการหมักครั้งต่อไปก็ได้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
