1 ก.ค. 2022 เวลา 23:44 • ธุรกิจ
📌 เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ที่ผ่าน ได้มีการประกาศสำคัญลงในราชกิจจานุเบกษา เรื่องการ “กำหนดคุณภาพหรือมาตรฐานของภาชนะบรรจุที่ทำจากพลาสติก”
ประกาศ กำหนดคุณภาพหรือมาตรฐานของภาชนะบรรจุที่ทำจากพลาสติก
ซึ่งมีใจความสำคัญเกี่ยวกับ การอนุญาตใช้ใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่ผลิตขึ้น โดยมีส่วนผสมของพลาสติกรีไซเคิลได้… ซึ่งหลังจากที่มีการประกาศนี้ออกมา หลายๆท่านอาจจะยังเกิดคำถามตามมาว่า…
!!!การใช้งานบรรจุภัณฑ์อาหารพลาสติกที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิลนั้น เราจะสามารถมั่นใจในความสะอาด และปลอดภัยได้อย่างไร????
👉 บทความนี้ ผมจะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ โดยจะเป็นการสรุปให้เข้าใจอย่างง่ายๆ ถึงมาตรฐานและข้อบังคับต่างๆ เพื่อให้พวกเรา สามารถตัดสินใจได้ว่า ภาชนะใส่อาหารที่มีส่วนประกอบของเม็ดพลาสติกรีไซเคิล… มีปลอดภัยหรือไม่???
การนำภาชนะที่ใช้บรรจุอาหาร นำกลับมาใช้ใหม่ในรูปแบบของการรีไซเคิลนั้น มีมานานมากแล้วนะครับ แต่จะถูกจำกัดอยู่ในภาชนะประเภท แก้ว อลูมิเนียม สแตนเลส หรือภาชนะที่เป็นโลหะ เนื่องจากในกระบวนการรีไซเคิลของภาชนะในกลุ่มนี้ จะมีการใช้อุณภูมิการหลอมที่สูงมากๆ จริงทำให้สิ่งเจือปนหรือเชื้อโรคต่างๆถูกกำจัดออกไปโดยหมดสิ้น จึงทำให้เราสามารถมั่นใจในความสะอาด และปราศจากสารปนเปื้อนในกลุ่มของภาชนะเหล่านี้ได้…
ในขณะที่ภาชนะบรรจุอาหารพลาสติกนั้น การรีไซเคิลจะมีอยู่แค่ในขั้นตอนกระบวนการผลิตเท่านั้น ที่เราเรียกว่าการรีไซเคิลแบบปฐมภูมิ (Primary Recycle) เท่านั้น กล่าวคือ ทางโรงงานผู้ผลิตจะนำเศษพลาสติกที่เป็นของเสียในกระบวนการผลิตภาชนะต่างๆเหล่านี้ นำมาบดย่อยและนำกลับมาผสมกับเม็ดพลาสติกบริสุทธิ์ เพื่อผลิตเป็นภาชนะบรรจุภัณฑ์อาหาร…
แต่อย่างไรก็ตาม ในระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมานี้ ในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น ประเทศในแถบทวีปยุโรป อเมริกา หรือประเทศที่พัฒนาแล้ว ต่างก็มีความตื่นตัวในการนำขยะพลาสติกในกลุ่มบรรจุภัณฑ์อาหารนำกลับมารีไซเคิล เพื่อผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์อาหารอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดปัญหาในการจัดการขยะในกลุ่มนี้ซึ่งมีปริมาณสูงมากในแต่ละวัน และยังเป็นการส่งเสริมแนวคิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งด้วยครับ
🗓 สำหรับในประเทศไทยของเรานั้น ต้องบอกเลยครับว่า กว่าประกาศ ข้อบังคับฉบับนี้จะออกมาเนี่ย ใช้เวลา โต้เถียงกันในรายละเอียดกัน นานมากครับกว่าทางฝั่ง หน่วยงานที่รับผิดชอบจะพิจารณาอนุญาต…เรียกว่ารอแล้วรอเล่ากว่าจะมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการสักที
เราลองมาดูกันเลยครับว่า ประกาศฉบับนี้มีการกำหนดมาตรฐาน และข้อบังคับเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์อาหารพลาสติก ที่มีเม็ดพลาสติกรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบ อย่างไรบ้าง
อันดับแรก เรามาทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่า ประกาศฉบับนี้ ได้มีการกำหนดประเภทของการรีไซเคิลขยะบรรจุภัณฑ์และนำกลับมาใช้ใหม่ เอาไว้ 3 ประเภทด้วยกัน คือ
  • 1.
    การรีไซเคิลแบบปฐมภูมิ (Primary Recycling) อย่างที่ผมได้อธิบายไปข้างต้นแล้วนะครับว่า การรีไซเคิลแบบบนี้ จะเป็นการรีไซเคิลในกระบวนการผลิต ที่เป็นการนำพลาสติกของเสียจากกระบวนการผลิต นำกลับมาใช้ใหม่โดยเป็นการผสมกับ เม็ดพลาสติก virgin
2. การรีไซเคิลแบบทุติยภูมิ (Secondary Recycling) เป็นการนำขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกนำกลับมาผ่านกลับมาผ่านกระบวนการคัดแยก, บดย่อย, ทำความสะอาด และหลอมผลิตเป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิล แล้วนำกลับมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารในรูปแบบต่างๆ
3. การรีไซเคิลแบบตติยภูมิ (Tertiary Recycling) เป็นกระบวนการรีไซเคิลขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกเช่นเดียวกับแบบ ทุติยภูมิ แต่จะเป็นการใช้กระบวนการทางเคมีเพื่อทำปฏิกิริยาพอริเมไรเซชั่นแบบย้อนกลับ (Depolymerization) ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นสารมอนอเมอร์ที่มีความบริสุทธิ์ ซึ่งสามารถใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตเม็ดพลาสติก virgin ได้ คล้ายๆกับเป็นการพื้นคืนชีพจากพลาสติกที่ถูกใช้งานแล้ว กลับไปเป็นเม็ดพลาสติก virgin ที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตนั่นเองครับ
เมื่อเราเข้าใจประเภทการรีไซเคิลที่ ประกาศฉบับนี้ได้กำหนดไว้แล้ว ลำดับต่อไปมาลองดูรายละเอียดในเรื่องอื่นๆ ซึ่งผมจะมาสรุปให้ทุกท่านเข้าใจแบบง่ายๆเป็นข้อๆ เลยครับ
  • ภาชนะบรรจุอาหารที่อยู่ในขอบข่ายของประกาศนี้ คือ ภาชนะบรรจุอาหารที่มีการสัมผัสกับอาหารโดยตรง (Food Contact) ไม่ว่าจะเป็นการใส่ การห่อ หรือภาชนะหลายวัสดุ (Composite) ที่มีพลาสติกเป็นส่วนประกอบจะโดยการเคลือบผิวหรืออัดประกบติดกัน (Multi-layer) ก็รวมอยู่ในประกาศฉบับนี้เช่น เดียวกันครับ
  • วัตถุดิบเม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่นำกลับมาใช้ใหม่นั้น ต้องนำกลับมาขยะพลาสติกประเภทบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารเพียงเท่านั้น ห้ามเป็นขยะพลาสติกประเภทอื่น
  • ภาชนะที่ใช้นั้นต้องมีความสะอาด ไม่มีจุลินทรีย์ ที่ทำให้เกิดโรค และไม่มีสารอันตรายที่แพร่สู่อาหาร ซึ่งประกาศนี้ได้ระบุสารที่อนุญาตให้มีการแพร่สู่อาหารได้ในปริมาณเล็กน้อย แต่ต้องไม่เกินกว่าค่าที่กำหนด โดยสารต่างๆเหล่านี้ และปริมาณที่กำหนด สามารถแสดงได้ดังรูป ด้านล่าง
รายการสารเคมีที่อนุญาตให้แพร่ได้ แต่ต้องไม่เกินปริมาณที่กำหนด
  • ในกรณีที่ภาชนะบรรจุอาหารมีการแต่งสีเพื่อความสวยงามนั้น สีที่ใส่ลงไปจะต้องเป็นสีที่ใช้กับอาหารโดยเฉพาะ (Food Grade) และในกรณีที่ภาชนะมีการสกรีนสีลงบนพื้นผิวนั้น ต้องแน่ใจว่าสีที่สกรีนต้องไม่หลุดติดลงไปปะปนกับอาหาร ซึ่งต้องมีการตรวจสอบการแพร่กระจาย สารไพรมารีแอโรแมติกแอมีนส์ ดังรายการ ดังต่อไปนี้
รายการ สารไพรมารีแอโรแมติกแอมีนส์ที่ต้องตรวจสอบการแพร่กระจาย
  • ต้องมีการตรวจวัดการแพร่กระจายลงสู่อาหาร ของสารที่เป็นโลหะหนัก จำนวน 19 รายการดังนี้
รายการของโลหะหนัก 19 ชนิด ที่ต้องตรวจวัดการแพร่กระจาย
  • ภาชนะพลาสติกที่ใช้บรรจุนมหรือผลิตภัณฑ์นม ต้องเป็นพลาสติก ชนิด PE, PP, PS, PET หรือ เอทิลีน 1-แอลคีน เท่านั้น
โดยหน่วยงานที่มีหน้าที่ กำกับดูแลด้านมาตรฐานความปลอดภัย คือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งทางผู้ผลิตภาชนะบรรจุภัณฑ์อาหารที่มีส่วนผสมของ เม็ดพลาสติกรีไซเคิลนั้น จะต้องมีการส่งเอกสารรับรองทางด้านความปลอดภัยให้กับทาง อย. ตรวจสอบรับรอง ก่อนที่จะมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ดังกล่าวในเชิงพาณิชย์ครับ
จากสิ่งที่ผมได้สรุปมานี้ เราจะเห็นได้ชัดเลยว่า จะมีข้อบังคับและมาตรฐานต่างกำกับให้ผูผลิตปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด… ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ น่าจะทำให้หลายท่านสบายใจ และมีความมั่นใจมากขึ้น และลดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย ในการใช้งานผลิตภัณฑ์ภาชนะบรรจุอาหารที่มีส่วนผสมของพลาสติกรีไซเคิล ใช่ไหมครับ 😊
…ในตอนหน้าผมจะพาทุกๆท่าน ตามไปดูกันต่อครับว่า จากข้อบังคับที่ออกมานี้ ผลกระทบหรือสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจอาหาร และบรรจุภัณฑ์พลาสติกใส่อาหารมีอะไรบ้าง… เชิญติดตามต่อในตอนต่อไปครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 3 สิ่งที่จะเกิดขึ้น… เมื่อกฎหมายอนุญาตให้ใช้พลาสติกรีไซเคิลในบรรจุภัณฑ์อาหาร👇
✅Un-Virgin นวัตกรรมเม็ดพลาสติกรีไซเคิล คุณภาพสูง
รายละเอียดเพิ่มเติม : www.psmplasitech.com
Line : thitipun_aim
Tel : 089-1151256
โฆษณา