3 ก.ค. 2022 เวลา 12:28 • ข่าว
ทองคำสัปดาห์หน้าแกว่งไซด์เวย์ แนวโน้มดีดปรับตัวขึ้นหลังจากสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำบริษัทฯจีน 5 แห่ง ลุ้นทำนิวไฮรอบใหม่ หลังเงินบาทอ่อนทุบสถิติรอบ 5 ปี 6 เดือน
นายวรุต รุ่งขํา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เปิดเผยถึงทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์หน้าว่า ทองคำในต้นสัปดาห์แกว่งไซด์เวย์ มูลค่าการซื้อขายเบาบาง เนื่องจาก ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการเนื่องในวันชาติสหรัฐ หรือ Independence Day
โดยปัจจัยที่ติดตามความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีน หลังสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลอเมริกันขึ้นทะเบียนบริษัทในประเทศจีนเพิ่ม 5 แห่ง ในบัญชีดำด้านการค้า ซึ่งฝ่ายสหรัฐฯกล่าวหาว่าบริษัทเหล่านี้สนับสนุนกองทัพรัสเซียและฐานผลิตด้านอุตสาตหรรมกลาโหมของรัสเซีย ทำให้การตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำและกดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นปรับฐานลง
นอกจากนี้ติดตามรายงานผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดเมื่อวันที่14-15 ก.ค.ที่ผ่านมา จากเดิมที่เฟดกังวลเงินเฟ้อทำให้ต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งการรายงานจะชี้นำนโยบายการเงินในเดือนก.ค.เพื่อดูมุมองของเฟด โดยนักลงทุนคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไป 0.75% แต่ถ้ารายงานระบุว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยไม่หยุดเพื่อลดแรงกดดันเงินเฟ้ออาจทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยถึง 1% ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดทองคำ
ขณะเดียวกันติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนโดย ADP และดัชนี PMI/ISM ภาคบริการเดือน มิ.ย . ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน พ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯแย่กว่าตลาดคาดอาจทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยเพียง0.75%
ทั้งนี้ให้แนวรับแรกที่ 1,786 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวรับถัดไปที่ 1,752 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองแท่งเฉลี่ยอยู่ที่ 29,550-30,100 บาท (คิดอัตราแลกเปลี่ยนที่ 35.16 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) แนวต้านที่ 1,834 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และแนวต้านต่อไปที่ 1,879 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองแท่งเฉลี่ยอยู่ที่ 30,900-31,650 บาท และถ้าเงินบาทอ่อนค่ามีโอกาสที่ทองคำจะปรับขึ้นต่อ
นอกจากนี้การที่รัฐเตรียมภาษีหุ้นจะทำให้เม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นไทย จากเดิมที่ลงทุนแล้วไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันตลาดขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีน้ำหนักแข็งค่าหลังนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดพูดในเวที ECB ฟอรั่มตอกย้ำนโยบายการขึ้นดอกเบี้ยโดยไม่กังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยสะท้อนว่าการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% อาจไม่พอต้องขึ้นถึง 1% ส่วนธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางยุโรปส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยน้อยกว่าเฟด
นอกจากนี้การที่รัฐเตรียมภาษีหุ้นจะทำให้เม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นไทย จากเดิมที่ลงทุนแล้วไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันตลาด
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีน้ำหนักแข็งค่าหลังนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดพูดในเวที ECB ฟอรั่มตอกย้ำนโยบายการขึ้นดอกเบี้ยโดยไม่กังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยสะท้อนว่าการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% อาจไม่พอต้องขึ้นถึง 1% ส่วนธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางยุโรปส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยน้อยกว่าเฟด
สำหรับราคาน้ำมันแพงเป็นปัจจัยฉุดเศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจไทยปีนี้คาดว่าโต 2.9% ส่วนแนวโน้มดอกเบี้ยทิศทางขาขึ้น ซึ่งหากไทยไม่ปรับขึ้นจะทำให้จะทำให้เงินบาทยิ่งอ่อนค่า ดังนั้นต้องระมัดระวังการลงทุนส่วนทองคำจะทำนิวไฮรอบใหม่ขึ้นกับค่าเงินบาทจะอ่อนค่ามากน้อยแค่ไหน โดยปัจจุบันปัจจัยเสี่ยงมาจากนอกประเทศเป็นหลักถ้ามีความเสี่ยงมากก็จะทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนทองคำในสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่ม ล่าสุดเงินบาทเมื่่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทุบสถิติใหม่อ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปี 6 เดือน
1
ลุ้นทองคำทุบสถิตินิวไฮรอบใหม่หลังเงินบาทอ่อนค่า
โฆษณา