3 ก.ค. 2022 เวลา 12:38 • กีฬา
เหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีก ไม่ได้มาครองง่ายๆ ต่อให้อยู่ทีมแชมป์ก็ใช่ว่าจะได้ทุกคน คำถามคือเงื่อนไขคืออะไรบ้างที่จะทำให้คุณได้เหรียญมาครอง วิเคราะห์บอลจริงจังจะอธิบายให้ฟังแบบเข้าใจง่าย
3
สำหรับนักฟุตบอลที่เล่นในอังกฤษ คงไม่มีความฝันอะไรจะยิ่งใหญ่ไปกว่าการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกแล้ว
1
ทางบริษัทพรีเมียร์ลีก ผู้จัดการแข่งขันก็ทราบดีว่าผู้เล่นแต่ละคนที่ได้แชมป์ มันรู้สึกภาคภูมิใจแค่ไหน ดังนั้นมันก็น่าจะดี ถ้าหากทางผู้จัด ทำของที่ระลึกอะไรสักอย่าง มอบให้นักเตะได้เก็บเอาไว้เพื่อเป็นเกียรติยศกับวงศ์ตระกูลด้วย
1
เมื่อคิดได้ดังนั้น ทำให้ตั้งแต่พรีเมียร์ลีก ซีซั่นแรกสุด (1992-93) ทางผู้จัดได้จัดทำ "เหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีก" โดยจะมอบให้กับนักเตะของทีมแชมป์ในแต่ละปี เป็นของรางวัลพิเศษ
เหรียญพรีเมียร์ลีก มีส่วนผสมของทองคำ มีมูลค่าประมาณ 2,000 ปอนด์ต่อ 1 เหรียญ (86,000 บาท) ซึ่งก็ถือว่า มีราคาสูงพอควร แต่แน่นอนว่า ถ้าเอาเหรียญนี้ไปประมูล คุณจะทำเงินได้ก้อนโตยิ่งกว่านี้อีก
3
ย้อนกลับไป ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2005-06 เชลซีของโชเซ่ มูรินโญ่ คว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ โดยในเกมตัดสินแชมป์ แมตช์วันที่ 29 เมษายน 2006 เชลซีเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งพอได้แชมป์ปั๊บ ก็มีพิธีมอบถ้วยมอบเหรียญ ให้กับผู้ชนะตามธรรมเนียม
1
นักเตะทุกคนที่ได้รับก็เก็บเหรียญไว้อย่างดี อย่างไรก็ตาม โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมเชลซี ได้โยนเหรียญเข้าไปในสแตนด์ให้กับแฟนบอลดื้อๆ เลย ปรากฏว่าแฟนบอลชื่อ เซบาสเตียน คายิล คว้าเหรียญของมูรินโญ่ได้สำเร็จ
1
คือตัวมูรินโญ่นั้นสบายๆ เพราะเคยได้เหรียญมาแล้วตั้งแต่ซีซั่นก่อน (2004-05) พอได้เหรียญอีกครั้ง คราวนี้ก็เลยโยนให้แฟนๆ มันซะเลย โดยมูรินโญ่ให้สัมภาษณ์ว่า "ผมคิดว่าเหรียญแชมป์มันสมควรเป็นของแฟนบอลทุกคนเช่นกัน แต่พูดตรงๆนะ ผู้ชายคนที่คว้าเหรียญของผมที่โยนไป ถือเป็นคนที่โชคดีมาก เพราะเขามีทางเลือกว่าจะเก็บเอาเหรียญนี้ไว้เป็นความทรงจำล้ำค่า หรือเอาไปลงวางขายในอีเบย์เพื่อทำกำไร"
3
ให้ทายครับ ว่าแฟนบอลเชลซีคนนั้นตัดสินใจอย่างไร? เลือกเก็บความทรงจำ หรือเลือกเงิน
1
คำตอบนั้น ไม่ได้โรแมนติกเลย เพราะนายเซบาสเตียน ประกาศประมูลขายอย่างรวดเร็วว่องไวมากๆ รักส่วนรัก ตอนนี้เอาเงินไว้ก่อนโว้ยยยย
ในการประมูลแย่งชิงเหรียญพรีเมียร์ลีกของแท้ ไปจบที่ราคา 16,800 ปอนด์ (720,000 บาท) และนั่นคือครั้งเดียว ที่มีการนำเหรียญแชมป์ลีกไปวางขายในท้องตลาด
1
ในปี 2005 ยังขายกัน 16,800 ปอนด์ เชื่อกันว่า ถ้ามาปล่อยขายกันในยุคนี้ ราคาอาจพุ่งทะยานไป 5-6 หมื่นปอนด์ได้สบายๆ
ย้อนกลับไปในปี 1992 ตอนพรีเมียร์ลีกตั้งใจจะทำเหรียญมอบให้กับนักเตะที่คว้าแชมป์ ด้วยความที่ราคาจัดทำเบื้องต้นมันก็สูงถึงเหรียญละ 2,000 ปอนด์แล้ว ทางผู้จัดจึงออกนโยบายว่า "จะไม่ได้มอบให้นักเตะทุกคน แต่จะมอบให้ผู้เล่นที่ลงเล่นอย่างน้อย 10 เกมต่อฤดูกาล"
ใน Handbook ของพรีเมียร์ลีกระบุว่า "ทีมแชมป์ลีกในแต่ละปี จะได้รับเหรียญแชมป์จำนวน 21 เหรียญ โดยสโมสรต้องนำ 21 เหรียญนี้ มอบให้กับผู้เล่นที่ลงสนามครบ 10 เกมให้ครบ และถ้าให้เหรียญครบแล้ว ก็สามารถเอาไปมอบให้ผู้บริหาร หรือสตาฟฟ์ หรือนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ต่อไปได้"
1
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในฤดูกาลแรกสุดที่ได้แชมป์ (1992-93) มีผู้เล่นที่ลงสนามถึง 10 นัดในลีก แค่ 16 คนเท่านั้น ซึ่งพอแจกให้นักเตะครบแล้ว เหรียญที่เหลือ สโมสรจะเอาไปให้ใครต่อก็ได้
ถ้าเป็นผู้จัดการทีมบางคนที่ใจดีหน่อย ก็จะเข็นนักเตะลงให้ครบ 10 นัดให้ได้ เช่นในฤดูกาล 2003-04 ยุคอาร์เซน่อลได้แชมป์แบบไร้พ่าย ตอนเหลืออีก 4 เกมสุดท้ายของฤดูกาล มาร์ติน คีโอว์น เพิ่งลงเล่นไปแค่ 6 เกมเท่านั้น ยังไม่พอที่จะได้เหรียญ
1
ดังนั้นอีก 4 เกมสุดท้ายของฤดูกาล เวนเกอร์ส่งคีโอว์นลงสนามเป็นตัวสำรองทั้งหมด นัดที่ 35 เจอเบอร์มิงแฮม ลง 1 นาที, นัดที่ 36 เจอปอร์ทสมัธ ลง 1 นาที, นัดที่ 37 เจอฟูแล่ม ลง 3 นาที และ นัดที่ 38 เจอเลสเตอร์ ลง 3 นาที
1
รวมแล้ว คีโอว์นลงเล่น 10 เกมพอดีเป๊ะ ได้เหรียญแชมป์อินวินซิเบิ้ลไปครองอย่างน่าภาคภูมิใจ คือเวนเกอร์นั้นช่วยลูกทีมเต็มที่จริงๆ
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำแบบนั้น อย่างเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะไม่ได้ใส่ใจจุดนี้มากนัก ในฤดูกาล 1998-99 เดวิด เมย์ และ จอร์ดี้ ครัฟฟ์ เล่นไม่ครบ 10 นัด ไม่ได้เหรียญ หรือในฤดูกาล 1999-00 รอนนี่ ยอห์นเซ่น ก็ไม่ได้เหรียญ
จริงอยู่ถ้าเหรียญเหลือ สโมสรอาจมอบให้กับนักเตะคนที่เล่นไม่ถึง 10 เกมก็ได้ แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีว่า นักเตะจะได้เหรียญมาครอง
ตัวอย่างเช่น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้แชมป์ลีกในฤดูกาล 2006-07 โดยปีนั้นมีผู้เล่น ที่ลงสนามเกิน 10 นัดทั้งหมด 19 คน เหรียญแชมป์จึงเหลืออยู่นิดหน่อย ซึ่งเฮนริค ลาร์สสัน กองหน้าสวีเดน ที่ย้ายมาอยู่กับทีมช่วงสั้นๆ และได้ลง 7 เกม ก็หวังว่าสโมสรอาจมอบเหรียญที่เหลือให้เขา แต่สุดท้ายลาร์สสันก็ไม่ได้รับ
ประเด็นเรื่องเหรียญ กลายเป็นปัญหาอย่างมาก เพราะผู้จัดการทีมเองก็โดนแรงกดดันจากนักเตะให้ส่งลงเล่นถึง 10 นัด ทำให้การจัดทีมยุ่งยากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนั้นพวกกลุ่มสตาฟฟ์โค้ชก็เริ่มไม่พอใจ เพราะทีมงานเบื้องหลังไม่ได้เหรียญด้วย ทั้งๆที่ก็ควรได้รับเครดิตไม่แพ้คนที่อยู่เบื้องหน้า กลายเป็นว่า 21 เหรียญที่พรีเมียร์ลีกกำหนดไว้ มันน้อยเกินไปมากๆ
ทำให้ในฤดูกาล 2011-12 พรีเมียร์ลีก เพิ่มเหรียญให้ทีมแชมป์เป็น "30 เหรียญ" ในเงื่อนไขเดิมคือ มอบให้ผู้เล่นที่ลงสนาม 10 นัดก่อน แล้วเหรียญที่เหลือเอาไปมอบให้กับใครก็ได้
1
แต่จำนวน 30 เหรียญก็ยังน้อยเกินไป ผู้จัดโดนตำหนิว่า จะงกไปถึงไหน ค่าผลิตเหรียญมันแค่ 2,000 ปอนด์เอง พรีเมียร์ลีกทำเงินปีละเป็นหมื่นล้านปอนด์ แค่จัดทำเหรียญให้มันเยอะๆ มากพอกับนักกีฬาและสตาฟฟ์ มันยากตรงไหนกัน
นอกจากนั้นการกำหนดให้เล่นถึง 10 นัด มันก็เยอะเกินไปหน่อยหรือเปล่า อย่างตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กที่ทีมส่วนใหญ่ไม่ค่อยเปลี่ยนคู่ตัวจริงกัน เซ็นเตอร์แบ็กสำรองก็ยากนะ ที่จะลงสนามถึง 10 นัดในแต่ละซีซั่น
จากคำตำหนิมากมาย ทำให้สุดท้าย ในฤดูกาล 2013-14 พรีเมียร์ลีกก็เปลี่ยนกฎอีกครั้ง คือมอบเหรียญทั้งหมดให้ทีมแชมป์ "40 เหรียญ" โดยสโมสรต้องมอบเหรียญให้นักเตะที่ลงสนามอย่างน้อย 5 นัด ให้ครบก่อน แล้วที่เหลือจะเอาไปแจกจ่ายให้กับใครก็ได้ ตามที่ต้องการ
3
นอกจากนั้นพรีเมียร์ลีกยังระบุว่า ถ้าหากทีมแชมป์ มีนักเตะที่ลงสนามเกิน 5 นัด ในฤดูกาลนั้น มากกว่า 40 คน ก็มาขอเหรียญเพิ่มเป็นกรณีพิเศษได้ด้วย
นี่คือกฎที่สมเหตุสมผลและยอมรับได้ ทำให้กฎ 40 เหรียญ จึงถูกใช้ตั้งแต่ปี 2013 มาจนถึงปัจจุบันก็เป็นระยะเวลารวม 10 ฤดูกาลพอดี
ดังนั้นนักเตะแต่ละคนในทีมแชมป์ ถ้าเป็นพวกตัวสำรอง ก็จะแอบหวังในใจ ขอให้ได้ลงเล่น 5 นัด ก็พอใจแล้ว อย่างน้อยที่สุดก็ได้ชื่อว่ามีเหรียญแชมป์ครอบครอง
เลสเตอร์ ซิตี้ ฤดูกาล 2015-16 ดาเนียล อมาร์ตีย์ และ ก็อคคาน อินแลร์ ได้ลง 5 นัดพอดี ได้เหรียญไปครองอย่างฉิวเฉียด
หรือเชลซี ฤดูกาล 2016-17 อันโตนิโอ คอนเต้ เข็นรูเบน ลอฟตัส-ชีค ลงสำรอง 5 นัดรัวๆ ท้ายซีซั่น นัดนึงได้เล่นไม่กี่นาที แต่เมื่อครบ 5 นัดปั๊บ ก็ทำให้เขาได้สิทธิ์รับเหรียญไปโดยปริยาย
เช่นเดียวกับแมนฯ ซิตี้ ฤดูกาล 2017-18 ที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อยากให้ฟิล โฟเด้น ที่ตอนนั้นอายุ 17 ปี ได้รับเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีก เพื่อเป็นการซื้อใจกันในระยะยาว เขาลงส่งโฟเด้นลงสำรอง 5 นัด เพื่อให้โฟเด้นได้ครอบครองเหรียญแชมป์โดยชอบธรรม
1
นับจากปี 1992 จนถึงปัจจุบัน 2022 มีนักฟุตบอลทั้งหมด 292 คนที่ได้รับเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีก โดยคนที่มีเหรียญครอบครองมากที่สุดคือ ไรอัน กิ๊กส์ จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีถึง 13 เหรียญด้วยกัน
5
ถามว่าเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีก มันมีราคาแค่ไหน คำตอบคือ ถ้าเป็นมูลค่าในการผลิตก็แค่ 2,000 ปอนด์ ถือว่าน้อยนิดมาก หากเทียบกับรายได้ของนักฟุตบอลอาชีพ
อย่างไรก็ตาม คุณค่าของเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีกไม่ได้อยู่ที่ราคาตรงนั้น แต่อยู่ที่เกียรติยศของมัน เพราะกว่าคุณจะได้มันมาต้องใช้ความพยายามอย่างสุดชีวิตเลยทีเดียว
1
#EPLMEDAL
โฆษณา