4 ก.ค. 2022 เวลา 03:38 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ถ้าใครติดตามข่าวสารบ้างแม้เพียงเล็กน้อย เราเชื่อว่าช่วงนี้ต้องเจอข่าวธนาคารยกเลิกโปรโมชั่นดอกเบี้ยคงที่ ปรับเป็นดอกเบี้ยลอยตัวกันบ้างแหละ แล้วก็เชื่อว่าต้องมีหลายคนที่คิดว่าดอกเบี้ยขึ้นแค่ 0.25% เองมันจะเป็นอะไรไป
ช้าก่อน การขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ไม่ได้หมายความว่าเราผ่อนเพิ่มขึ้น 0.25% มันมีบางอย่างซ่อนอยู่
แต่อย่างอเมริกา FED เองก็ไม่ได้ขึ้นดอกเบี้ยแค่รอบเดียว และรอบล่าสุดก็ขึ้นทีเดียว 0.75%
เพราะฉะนั้นเลยขอยกตัวอย่างการขึ้นดอกเบี้ย 1% ไปเลยแล้วกัน (ขี้เกียจแหละดูออก)
สมมุติบ้าน 1 ล้านบาท ผ่อนเดือนละ 7000 บาท ปีนึงก็ 84000 บาท ดอกเบี้ย 3% เท่ากับปีละ 30000 บาท เท่ากับว่า1ปี เงินต้นลดไป 54000 บาท
ถ้าดอกเบี้ยขึ้น 1% เป็น 4% เท่ากับดอกเบี้ยปีละ 40000 บาท จะทำให้เงินต้นลดไป 44000 บาท
เพราะฉะนั้นการที่ดอกเบี้ยขึ้น 1% ทำให้เราต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 10000 บาท คือ จาก 30000 บาท เป็น 40000 บาท หมายถึงดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 33% คิดถึงเกตซึโนว่ามั๊ย 1% ที่ไม่ใช่ 1%
แต่ว่าแบงค์ก็มีการคำนวนเผื่อดอกเบี้ยเปลี่ยนแปลงไว้แล้วทำให้เมื่อดอกเบี้ยขึ้น เราสามารถผ่อนเท่าเดิมได้ เพียงแต่ยอดเงินต้นจะลดน้อยลง ทำให้ต้องผ่อนนานขึ้นนั่นเอง แต่ทีนี้ถ้าดอกเบี้ยขึ้นไปสูงมากๆ เช่น ขึ้นไป 6% จาก 3% เป็น 9% อันนี้เราจะผ่อน 7000 เท่าเดิมไม่ได้แล้วนะ เพราะมันไม่พอจ่ายดอกเบี้ยจ้า ไม่ต้องพูดถึงเงินต้นเลย
เวอร์ไปป่าวขึ้นดอกเบี้ยอะไรที 6% ก็ไม่นะ ลองเทียบจากโปรปัจจุบันพอ โปรอยู่ที่ 3% พอพ้น 3 ปีเป็น MRR ก็อยู่ที่ 6% แล้วโดยที่ยังไม่ต้องขึ้นดอกเบี้ยเลย
แล้วทำไมธนาคารต้องมาขึ้นดอกเบี้ยตอนนี้ด้วย ก็ต้องบอกว่าประเทศไทยก็เป็นแค่ประเทศเล็กๆในโลกนี้ เมื่อต่างชาติเค้าขึ้นดอกเบี้ย ถ้าเราไม่ขึ้นตามเงินก็ไหลออกไปหาประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเป็นธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาเพราะมันจะส่งผลให้ค่าเงินอ่อนและส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศอีกต่อ เอาเป็นว่ากลับมาที่ดอกเบี้ยบ้านก่อนดีกว่าว่าเราจะทำยังไงดี
ก็ต้องเช็คก่อนกว่าเรามียอดหนี้คงเหลืออีกเท่าไหร่ แล้วมีระยะที่ดอกเบี้ยคงที่อีกนานเท่าไหร่ จากนั้นก็คำนวนดูว่าถ้าโปะจะหมดทันก่อนดอกเบี้ยลอยตัวมั๊ย ถ้าทันคุณคือคนที่โชคดีมาก โปะด่วน ถ้าคำนวนไม่ถูกก็ลองใช้เครื่องคิดเลขของกรุงศรีดู https://www.krungsri.com/th/calculator/home-calculator/repayment-amount-calculator
แต่ทีนี้ถ้านั่งคิด นอนคิด ตีลังกาคิดแล้วโปะยังไงก็ไม่ทัน ก็ให้ผ่อนไปตามเดิม ไม่ต้องโปะ เงินที่จะโปะให้เก็บไว้ เก็บไว้อย่างดี
ทำไมแนะนำอะไรแปลกๆผ่อนบ้านพอมีเงินก็ต้องรีบโปะสิ ดอกเบี้ยวิ่งทุกวัน ใจเย็นก่อน เราไม่รู้ว่าดอกเบี้ยจะขึ้นเร็ว ขึ้นแรง ขึ้นนานแค่ไหน ไปถามใครก็ไม่มีใครรู้ ธนาคารที่ปล่อยกู้เราก็ไม่รู้เหมือนกัน เราเลยจำเป็นต้องเตรียมเงินก้อนไว้เจรจากับธนาคาร ใช่ ก้อนนั้นแหละที่ให้เก็บไว้อย่างดี
เมื่อดอกเบี้ยลอยตัวไม่ใช่เราคนเดียวหรอกที่เจอปัญหา ทุกคนล้วนเจอปัญหาเดียวกัน แปลว่ายอดหนี้เสียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ถ้าเรามีเงินก้อนไปเจรจา ย่อมดีกว่าไม่มีข้อต่อรองอะไรกับธนาคารเลย ที่สำคัญยอดนั้นอาจกลายเป็นการปิดหนี้ ไม่กลายเป็นหนี้เสีย ธนาคารก็ไม่ต้องเอาบ้านเราไปเร่ขายลดราคาให้คนอื่น แฮปปี้ทั้ง 2ฝ่าย
คงต้องถึงเวลาที่ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปบ้าง เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ ดีกว่ารอปัญหาเข้ามาทักทายนะจ๊ะ
ดอกเบี้ยบ้านลอยตัว
โฆษณา