Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
SoccerSuck
•
ติดตาม
6 ก.ค. 2022 เวลา 05:28 • กีฬา
แดงเดือดต้องทำใจหรือโทษใครดี
ทัวร์นาเมนท์แดงเดือดระหว่าง แมนฯยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ในสยามประเทศใกล้เข้ามาทุกขณะจิตซึ่งนับนิ้วแล้วเหลือเวลาอีกเพียง 1 สัปดาห์ที่คู่อริตลอดกาลจะเหินฟ้ามาอวดโฉมต่อหน้าแฟนบอลชาวไทยถึงถิ่น
แต่ก่อนหน้านั้นเส้นทางเอเชียอาคเนย์ที่เหมือนไม่มีอะไรกลับมีดราม่า “พิมรี่พาย” จนเกิดแรงกระเพื่อมไปยัง 2 สโมสรที่ต้องจับมือกันออกมาแถลงข่าวทั้งเรื่องกินข้าวกับนักเตะและไม่มีนโยบายการรีเซลบัตร
จนล่าสุดแฟน “ปีศาจแดง” และ “หงส์แดง” รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวหายใจไม่สะดวกกับข่าวที่ว่านักเตะตัวจริงระดับซุปตาร์อาจไม่ได้วาดลวดลายบนพื้นหญ้าราชมังคลากีฬาสถานในวันที่ 12 กรกฏาคมนี้
ทั้ง โม ซาลาห์, เวอร์กิล ฟาน ไดตค์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อลิสซอน หรือแม้กระทั่ง ดาร์วิน นูเญซ หอกป้ายแดง(และตัวจริงขาประจำรายอื่นๆ)ที่ล้วนแล้วแต่ติดภารกิจรับใช้ชาติหลังจบซีซั่นที่ผ่านมา
เมื่อพักน้อยกว่าจึงได้รับอนุญาตจากสโมสรให้กลับมารายงานตัวช้ากว่ากลุ่มที่กลับมารายงานตัวไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ผมไม่แน่ใจว่าในสัญญามีระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเหมือนเวลาจ้างทีมระดับโลกมาเตะว่าต้องส่งนักเตะคนนั้นคนนี้ลงไว้หรือไม่
ถ้าสัญญาหลวมๆเช่นมีในรายชื่อแต่ไม่ได้บอกว่าลงหรือส่ง 5 นาที 10 นาที ทุกอย่างก็จบทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้
แต่ระดับอาชีพแล้วการที่นักเตะกลับมาซ้อมวันที่ 9 กรกฏาคมและเดินทางวันที่ 10 ก่อนเตะวันที่ 12 จึงแทบไม่มีความเป็นไปได้เลยที่สโมสรจะส่งผู้เล่น “ซุปตาร์” ลงเล่นโดยที่ยังไม่มีการเรียกความฟิตหรือประเมินสภาพความฟิตหลังไปอาบแดดพักผ่อนกันมา
เพราะมันจะเสี่ยงทำให้เจ็บหนักและไม่คุ้มเลยกับแมทช์โชว์อะไรแบบนี้
เราอาจต้องยอมรับสภาพและทำใจด้วยว่าการจ้างมาอุ่นเครื่องในช่วงต้นเดือนกรกฏาคมมันจะมีปัญหาเรื่องเหล่านี้อยู่แล้วแต่แฟนบอลหลายคนอาจหน้ามืดไม่ทันคิดกลายเป็นบทเรียนราคาแพงไป
1
หลายๆประเทศจึงมักพิจารณาจากระยะเวลาเรื่องความฟิตและเลือกที่จะล็อกวันให้ไม่ใกล้ต้นเดือนกรกฏาคมจนมากเกินไป
โดยปกติแล้วสโมสรใหญ่ๆจะมีอุปกรณ์เช็กความฟิตของนักเตะที่ “คัมแบ็ค” ดังที่เราเห็นของเล่นใหม่ของ ลิเวอร์พูล กันไปตามหน้าสื่อแล้ว
ผู้เล่นบางคนจะอยู่ในสภาพร่างกายที่ดีและฟิตโดยธรรมชาติแต่หลายคนจะปลดปล่อยร่างกายหากร้างสนาม
สัปดาห์แรกนักเตะที่กลับมารายงานตัวอย่าง เจมส์ มิลเนอร์, อเล็กซ์ออกเลด เชมเบอร์ลิน, หลุยส์ ดิอาซ, โจเอล มาติ๊ป หรือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ฯลฯ กลุ่มนี้จะเป็นหน่วยกล้าตายลงเล่นแน่ๆ
ในขณะที่ แมนฯยูไนเต็ด นอกจากยังไม่มีนักเตะชื่อดังรายใหม่เข้ามาแล้วแต่ “เร้ดอาร์มี่” ยังต้องลุ้นกันตัวโก่งเพราะ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ กำลังมีข่าวอำลาทีมอย่างหนักหน่วง
ความซวยจึงตกไปอยู่ผู้ที่ซื้อตั๋วไปแล้วเพราะที่จ่ายๆกันไปบอกได้ว่าแพงโคตรๆเมื่อเทียบกับสภาพเศรษฐกิจบ้านเราตอนนี้กับตั๋วแพงสุด 25,000 บาท
จ่ายราคานี้แต่ไม่ได้เห็นลีลาของ โรนัลโด้, พอล ป็อกบา, ซาลาห์, VvD, TAA, ดาร์วิน นูเญซ เชื่อว่าแฟนบอลรู้สึกเหมือนถูกหลอก ”แดกเงินก้อนโต”
ถามว่าพวกแฟนบอลฝรั่งทั้งของ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล จะตามมาดูทีมรักด้วยไหม ผมว่าถ้าไม่แวะมาเที่ยวยังไงก็ไม่มาดูให้เสียเวลาแน่ๆครับ
เพราะอยู่บ้านเขาค่าตั๋วถูกกว่านี้เยอะแถมได้ดูเกมที่เข้มข้นเอาจริงเอาจังมากกว่านี้ด้วย
ยกตัวอย่างตั๋วที่ แอนฟิลด์ เมนสแตนด์ ตกที่ 59 ปอนด์หรือ 2,655 บาท อันนี้คือแพงสุดแล้วนะถ้าถูกสุดก็ฝั่ง แอนฟิลด์ โร้ด 48 ปอนด์ (2,160 บาท)
ฝรั่งที่นั่นดูบอลทุกเมื่อเชื่อวันจนเบื่อเขาก็หันมาหารายได้จากพวกเราชาวเอเชียที่บ้าคลั่งด้วยการปล่อยตั๋วปี (season ticket) ที่เป็นบัตรแข็งให้เรา ดูจบก็รวบรวมส่งกลับ แค่เกมเดียวก็คืนทุนแล้วมัํง
ด้วยความเคารพผมเคยดูแดงเดือดที่ แอนฟิลด์ มาแล้ว (เสมอ 0-0 ยุค โจเซ่ มูรินโญ่) ผมเลยไม่มีแรงจูงใจอยากไปดูเกมที่ราชมังฯเพราะผมจ่ายราคานี้ไม่ไหวจริงๆครับ
จ่ายแล้วยังต้องไปดูนักเตะเล่นกันป้อแป้เพราะมันแค่เกมปรีซีซั่นที่มีแต่นักเตะเซฟตัวเอง
เสี่ยวินิจกำลังเจอความท้าทายกับงานอีเว้นฟุตบอลใหญ่ระดับโลกเป็นครั้งแรกเพราะเงินที่ลงทุนไปร่วม 1,000 ล้านบาท
ถามว่าต่อให้ขายบัตรหมดเกลี้ยง 59,000 ใบยังไม่พอเงินค่าจัดการแข่งขันเลยด้วยซ้ำ ทางออกเดียวคือสปอนเซอร์และลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดทั้งทางทีวีและออนไลน์
สังเกตได้ว่าไทยเราเป็นหนึ่งในลูกค้าของเหล่าบรรดาทีมในพรีเมียร์ลีกที่เกินกว่าครึ่งนึงหรือ 10 ทีมที่ตัดสินใจ “ออนทัวร์” นอกยุโรปจากการอัดอั้นจากการระบาดของโควิดมาร่วม 2 ปี
อาร์เซนอล, เชลซี, เอฟเวอร์ตัน และ แมนฯซิตี้ เลือกมุ่งหน้าไป อเมริกา ในขณะที่ แอสตัน วิลล่า, คริสตัล พาเลซ, ลีดส์ ยูไนเต็ด และ แมนฯยูไนเต็ด ฝังตัวเองที่ ออสเตรเลีย
ส่วน ลิเวอร์พูล นอกจากทำศึกแดงเดือดแล้วยังจะไปหวดต่อที่ สิงค์โปร์ ในขณะที่ สเปอร์ส ตีตั๋วไป เกาหลีใต้
นอกจากนี้ 2 ทีมระดับโลกอย่าง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า จะไปทำศึก เอลกาลซิโก นอก สเปน เป็นหนที่ 3 ที่ อเมริกาในวันที่ 23 นี้
ค่าตัวทีม “แม่เหล็ก” เหล่านี้ราคางามจนแทบไม่มีใครอยากปักหลักเตะอุ่นเครื่องอยู่แต่ในบ้านตัวเองเหมือนสมัยก่อนอีกแล้ว
แมนฯยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด และทีมหัวกระทิที่มีแฟนบอลอยู่ทั่วทุกมุมโลกสามารถทำเงินได้มากถึง 2 ล้านปอนด์ต่อเกม
ในทางกลับกันทีมกลางตารางพรีเมียร์ลีกก็มีเรตในราคาย่อมเยาคือ 410,000 ปอนด์ต่อเกมที่ทางสโมสรใน เมเจอร์ ลีก เชิญให้มาแข่งด้วย
ครับการเชิญทีมดังๆมาอุ่นเครื่องชนิดข้ามน้ำข้ามทะเลเราอาจพูดได้ว่าคงจะให้ intensive เหมือนในลีกของเขาเองคงไม่มีทาง copy มาหมดทั้งโฟลเดอร์ได้แน่ๆ
แต่ในมุมมองของแฟนบอลมันคือครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้เห็นนักเตะระดับโลกที่ตามเชียร์มาตลอดต่อหน้าต่อตา
ดังนั้นข่าวนักเตะเกรด A+ อาจไม่ได้ลงสนามทำให้เงินค่าตั๋วไม่ว่าจะเรด 25,000 ยันหมื่นนอกจากจะแพงเกินเบอร์ในสายตาแฟนบอล (ที่ไม่ได้ทำการบ้าน) มันยังเหมือนถูกหลอกซ้ำซ้อนตั้งแต่ดราม่ารีเซลบัตรราคาถูกมันยิ่งเติมเชื้อเพลงเข้าไปอีก
หลังเกมวันที่ 12 กรกฏาคมผมว่าเสี่ยวินิจอาจต้องตอบคำถามประชาชนอีกเยอะครับ
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย