6 ก.ค. 2022 เวลา 12:37 • ข่าวรอบโลก
มองวิกฤต รัสเซีย-ยูเครน ยุติได้ เมื่อปูติน ได้ตัวตลก
“เซเลนสกี้”
ต้องยอมรับว่า วิกฤต รัสเซีย-ยูเครน นั้นยังไม่มีท่าทียุติได้ในเร็ววัน เพราะ รัสเซีย ไม่มีทางยอมหยุดสงครามครั้งนี้ง่ายๆ เพราะตั้งแต่ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดียูเครน จากการมีชื่อเสียงขึ้นมาด้วยการเป็นนักแสดงซีรี่ย์เรื่องหนึ่ง ซึ่งรับบทเป็น ประธานาธิบดี ที่ต่อสู้กับเผด็จการ ด้วยหัวใจประชาธิปไตย จนได้รับชัยชนะในที่สุด แล้ววันนั้นก็มาถึง เพราะเขาอาศัยชื่อเสียงจากการเป็นนักแสดง ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี
2
แต่ นี่คือชีวิตจริง เรื่องจริง ไม่ใช่ซีรี่ย์
ต้องท้าวความไปตอนสมัยอดีตสหภาพโซเวียต ยูเครน เป็นส่วนหนึ่งของโซเวียตและเป็นเขตอุตสาหกรรมหนักในสมัยนั้น ทั้งเครื่องบิน Antonov ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เรือบรรทุกเครื่องบิน ที่เคยขายให้จีนไป หรือแม้แต่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิลที่โซเวียตได้สร้างไว้เมื่อครั้งยังรุ่งเรือง และนี่คือความแตกต่างที่หลายๆคนสงสัย ทำไมรัสเซียถึงไม่สนใจประเทศแถบทะเลบอลติกอย่าง ลัตเวีย เอสโตเนีย ลิธัวเนีย และเป็นคำตอบว่า ทำไมรัสเซียถึงไม่ยอมให้ยูเครนเข้าร่วม EU และ NATO
2
ก่อนหน้านี้ หลายคนที่ติดตามข่าวการเมืองระหว่างประเทศคงเคยได้ยินข่าวที่ประธานาธิบดี ปูติน ได้ออกมาเตือนตะวันตกว่า “อย่าล้ำเส้น” อยู่หลายต่อหลายครั้ง การเตือนดังกล่าวสื่อนัยยะถึง เรื่องยูเครนนั่นเอง และแล้ว พ่อหนุ่มนักแสดง
เซเลนส์กี้ ก็กล้าแหย่ปากเสือ ด้วยการล้ำเส้นขอเข้าร่วม NATO จริงๆ และก่อนหน้านี้รัสเซียก็เคยผนวกดินแดนไครเมียร์มาในปี 2014 และยูเครน ได้ทำการปราบปรามกลุ่มกบฏที่ฝักใฝ่รัสเซียหรือกลุ่มประชากรที่พูดภาษารัสเซีย สร้างความไม่พอใจให้ฝั่งรัสเซียเป็นอย่างมาก จึงได้เปิดปฏิบัติการพิเศษ
ปฏิบัติการพิเศษทางทหารที่ว่า พูดง่ายๆคือ การเข้าไปปลดปล่อยกลุ่มที่ต้องการกลับมาอยู่กับรัสเซีย และต้องยึดสถานที่สำคัญต่างๆทางตะวันออกของยูเครน เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในมือของอเมริกา หากยูเครนได้เข้าร่วม NATO รัสเซียจึงถือโอกาสชิงปฏิบัติการก่อน เพราะถ้าปล่อยให้เข้าร่วมสมาชิก NATO นั่นหมายถึงถ้ารัสเซียจะปฏิบัติการ ก็เท่ากับ ประกาศสงครามกับกลุ่ม NATO ซึ่งอาจส่งผลเสียมากกว่าตอนนี้ทวีคูณหลายเท่านัก จึงทำให้เกิดการสู้รบกันจนถึงปัจจุบัน กล่าวง่ายๆ คือรัสเซีย ไม่มีวันยอมให้ยูเครน เข้าร่วม NATO เด็ดขาด
3
ตัดภาพมาดูฝั่งยูเครน ที่เหล่าคณะรัฐมนตรี ของเซเลนส์กี้ก็มาจากพวกพ้องเก่าสมัยเป็นนักแสดง ทั้ง อดีตผู้กำกับหนัง,โปรดิวเซอร์ และทีมงานกองถ่าย ที่แทบไม่มีความรู้ ประสบการณ์ด้านการเมืองเลย แต่เก่งและเชี่ยวชาญด้านสงครามการข่าว หรือ IO และเก่งเรื่องขอความช่วยเหลือจากบรรดาเหล่าประเทศมหาอำนาจตะวันตก จนเข้าตาสหรัฐฯ ซึ่งได้โอกาสบั่นทอนความแข็งแกร่งทางทหารของรัสเซียทันที ทั้งการแบน แซงค์ชั่น กีดกันการค้า ยึดทุนสำรองระหว่างประเทศ และทรัพย์สินของเหล่าโอลิการ์ด ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีฐานะและมีอิทธิพลในรัสเซีย
2
มาถึงจุดนี้ ตะวันตกคิดว่ารัสเซียคงจะแย่จากการแบน และแซงค์ชั่นต่างๆ อย่างหนักจากสหรัฐฯและพันมิตร จนต้องยอมแพ้ไป แต่อย่าลืมว่ารัสเซียนั้นมีมิตรแท้อย่างจีนที่เคยจับมือออกสื่อด้วยกันบ่อยครั้ง ด้วยคำว่า พันมิตรสูงสุด อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จีนจึงเป็นตัวแปรสำคัญในสงครามครั้งนี้ ด้วยการช่วยซื้อพลังงานจากรัสเซีย แทนที่ยุโรป ทำให้มาตรฐานคว่ำบาตรรัสเซีย แทบไม่กระทบกระเทือนฝั่งรัสเซียเลยด้วยซ้ำ แถมยังเป็นดาบสองคม ทำให้เหล่าบรรดาพันธมิตรทั้งยุโรปและสหรัฐฯ ต่างต้องเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อ ข้างของแพง
2
จนมีการประท้วงของประชาชนจากบางประเทศในกลุ่ม EU และ NATO ซ้ำร้ายกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันที่สำคัญของโลก อย่าง OPEC ที่มีซาอุดีอาระเบียเป็นแกนนำต่างหันหลังให้กับสหรัฐโดยการไม่เพิ่มการผลิตน้ำมันตามคำขอจากสหรัฐฯ และการเลิกใช้ปิโตร-ดอลลาร์ที่เคยทำให้ทุกประเทศต้องใช้เงินดอลลาร์ในการซื้อขายน้ำมันเท่านั้น แต่หันมาใช้เงินสกุลท้องถิ่น เช่น หยวน รูเบิล หรือ รูปีแทน ทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างหนัก มิหนำซ้ำ จีนยังได้เรียกประชุมกลุ่ม BRICS (กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่)
5
เพื่อถ่วงดุลอำนาจโลกกับกลุ่มอำนาจเก่า คือ สหรัฐฯและยุโรป ที่เป็นผู้จัดระเบียบโลกมาตั้งแต่สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งถือเป็นเรื่องดีสำหรับประเทศกำลังพัฒนา ที่สามารถมีสิทธิ์ มีเสียงในเวทีโลกบ้าง สรุปคือ รัสเซียเปิดให้ ที่เหลือ ประเทศที่เคยอยู่ใต้ระเบียบโลกเก่าได้กล้าออกมาแสดงจุดยืน และแสดงให้เห็นว่าการคว่ำบาตรรัสเซียนั้นไม่ได้ผลแต่ย้อนกลับไปหาเหล่าประเทศที่ได้กระทำกับรัสเซีย กลับโดนพิษเศรษฐกิจเล่นงานเสียเอง และในสงครามครั้งนี้ เปรียบเสมือน การที่รัสเซียและจีน ช่วยกันต่อสู้กับกลุ่มอำนาจเก่า
1
ที่เคยเอาเปรียบประเทศเล็กๆ มาช้านาน รัสเซียมีกองทัพแข็งแกร่ง อาวุธยุทโธปกรณ์ล้ำสมัย ช่วยต่อสู้ด้านการทหาร ส่วนจีน เก่งกาจเรื่องการค้า ช่วยต่อสู้ด้านเศรษฐกิจ จนทำให้สหรัฐฯและพันธมิตรต้องรีบเรียกประชุมกลุ่มประเทศ G7 เป็นการด่วน ส่วนฝั่งจีน ก็งัดข้อด้วยการ เรียกประชุมกลุ่ม BRICS อย่างมีนัยยะสำคัญเช่นกัน ซึ่งการประชุมของกลุ่ม BRICS นั้น เกิดขึ้นก่อนการประชุม G7 เพียงไม่กี่วัน งานนี้ มีทางออกอยู่ 2 ทางคือ กลุ่มอำนาจเก่าชนะสงคราม ได้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จต่อไป หรือ รัสเซียชนะสงคราม ทำลายระบบอำนาจเก่าลงได้
3
โฆษณา