8 ก.ค. 2022 เวลา 02:50 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ทำไม เนื้อหมู สำคัญกับเศรษฐกิจจีน จนรัฐบาลต้องแทรกแซง
อัตราเงินเฟ้อเดือนล่าสุดของไทยอยู่ที่ 7.7%
สหรัฐอเมริกา 8.6%
อังกฤษ 9.1%
ในขณะที่ จีน นั้นอยู่ที่ราว 2%
2
แม้จะดูเหมือนว่าจีนจะได้รับผลกระทบในเรื่องเงินเฟ้อน้อยกว่าประเทศอื่นในโลก
เนื่องจากไม่ได้อัดฉีดเงินมากเหมือนประเทศอื่น ๆ ในช่วงที่ผ่านมา
รวมถึงจุดแข็งในเรื่องความมั่นคงทางอาหาร และภาคการผลิต
1
แต่ว่า “ราคาเนื้อหมู” ในประเทศจีนที่กำลังเพิ่มขึ้นนั้น
กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ ที่ทำให้รัฐบาลจีนถึงกับต้องเข้ามาแทรกแซง
เพื่อให้การควบคุมอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศนั้น ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลได้ตั้งไว้
แล้วเนื้อหมูที่แสนอร่อยนั้น สำคัญกับเศรษฐกิจจีนอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ต้องบอกว่าหนึ่งในอารยธรรมแรก ๆ ของโลก ที่รู้จักการเลี้ยงหมู ก็คือ ประเทศจีน
1
รู้หรือไม่ว่ามีการค้นพบร่องรอยการเลี้ยงหมู ที่บริเวณจังหวัดกุ้ยหลิน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน ตั้งแต่ราว 8,000 ปีก่อน ซึ่งก็เก่าแก่กว่าการที่มนุษย์เริ่มจับสัตว์ปีกอย่าง ไก่ มาเลี้ยงเกือบ 5,000 ปี
1
และด้วยความที่ หมู นั้นมีความทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศ และเลี้ยงง่าย
เนื่องจากว่า หมู เป็นสัตว์ที่กินได้เกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหารสัตว์ พืชผลทางการเกษตร หรือแม้แต่สิ่งปฏิกูล
2
แถมหมูยังให้ลูกดก สามารถสร้างเนื้อและไขมัน ซึ่งเป็นแหล่งพลังงาน และสารอาหารที่สำคัญของมนุษย์ได้อย่างรวดเร็ว และตัวเนื้อหมูนั้นก็มีรสชาติอร่อยไม่แพ้สัตว์ใหญ่ชนิดอื่น ๆ
2
ทำให้แทบจะทุกครัวเรือนของจีนในยุคโบราณนั้น มีการเลี้ยงหมูติดบ้านไว้ เพื่อเป็นแหล่งอาหารสำคัญ
นอกจากนี้ หมู ยังถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งสมบูรณ์ และโชคดี จึงได้กลายเป็นของสำคัญที่ใช้ในพิธีการสำคัญต่าง ๆ ทางวัฒนธรรมมาตั้งแต่โบราณ
ด้วยเหตุผลเหล่านี้เอง ทำให้ เนื้อหมู ได้แทรกซึมเข้าไปอยู่ในวัฒนธรรมอาหารของชาวจีนอย่างเหนียวแน่น และครองตำแหน่งเนื้อสัตว์ที่ชาวจีนบริโภคมากที่สุดมาหลายพันปี
และถ้าถามว่าคนจีนรักการบริโภคเนื้อหมูมากแค่ไหน ?
ในปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา ทั่วโลกมีผลผลิตเนื้อหมู อยู่ที่ประมาณ 110 ล้านตัน
ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งของการบริโภคที่เกิดขึ้นนั้น ก็อยู่ที่ประเทศจีนนี่เอง
2
และหากมองลึกย่อยลงไปอีกก็จะพบว่า เนื้อสัตว์ที่คนจีนบริโภคมากที่สุด
ก็คือ เนื้อหมู คิดเป็นถึงราว 65% ของเนื้อสัตว์ที่บริโภคทั้งหมด
1
โดยผู้คนในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ที่มีฐานะทางการเงินเฉลี่ยดีกว่านั้น บริโภคเนื้อหมูเฉลี่ยสูงถึง 61 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ในขณะที่คนจีนในแผ่นดินใหญ่นั้น บริโภคเนื้อหมูเฉลี่ยอยู่ที่ 37 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
1
ปัจจุบัน ประชากรจีนมีอยู่ประมาณ 1.4 พันล้านคน คิดเป็นการบริโภคถึงราว ๆ 51 ล้านตันต่อปี
และยังมีจำนวนประชากรหมูในประเทศถึงราว 450 ล้านตัว
ด้วยเหตุผลเหล่านี้เอง ก็คงพอเข้าใจแล้วว่า คนจีนนั้นรักการบริโภคเนื้อหมูขนาดไหน
และเศรษฐกิจเรื่องหมู ๆ ในจีนนั้นใหญ่มากแค่ไหน
การที่ ราคาของเนื้อหมู ซึ่งเป็นอาหารหลักของคนในประเทศ มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นในระยะยาวนั้น
จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ ที่จะกระทบกับต้นทุนค่าครองชีพของคนถึง 1.4 พันล้านคน
1
โดยในช่วงสามเดือนล่าสุด ระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายนปีนี้
ราคาเนื้อหมูในประเทศนั้นปรับตัวสูงขึ้นมาถึง 28%
ซึ่งก็ทำให้รัฐบาลจีนต้องรีบเข้ามาควบคุมเรื่องนี้
ด้วยการออกข้อบังคับให้ผู้ผลิตนั้น ยังคงกำลังการผลิตให้ออกมาอย่างต่อเนื่อง
โดยห้ามไม่ให้มีการฉวยโอกาสปั่นราคาเนื้อหมูภายในประเทศ
เพราะหากราคาเนื้อหมูยังคงพุ่งสูงต่อไปนั้น
ก็จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในประเทศจีนพุ่งสูงขึ้นเกินเป้าที่ตั้งไว้
ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจจีนในปีนี้ ไม่หมูอย่างที่คิด..
1
หนังสือ BRANDING THE NATION หนังสือที่เล่าถึงการสร้างแบรนด์ของแต่ละประเทศที่ทำให้ แต่ละประเทศเป็นแบบทุกวันนี้
เช่น ทำไมเยอรมนีเป็นประเทศแห่งรถยนต์ ทำไมฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งแบรนด์หรู สั่งซื้อเลยที่
โฆษณา