8 ก.ค. 2022 เวลา 12:28 • ข่าวรอบโลก
EDF คือใคร ทำไมรัฐบาลฝรั่งเศส ต้องการถือหุ้นทั้งหมด เพราะอะไร
บริษัท EDF จำกัด( Electricite de France ) เป็นบริษัทผลิตไฟฟ้าทดแทนขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส และผู้นำด้านพลังงานลม บนบกและนอกชายฝั่ง พลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึง พลังงานนิวเคลียร์
1
บริษัท EDF จำกัด นี้มีความ เชี่ยวชาญด้านไฟฟ้า ตั้งแต่วิศวกรรมไปจนถึงการจัดจำหน่าย การดำเนินงานของบริษัท ได้แก่ การผลิตและการจำหน่ายไฟฟ้า การออกแบบ ก่อสร้าง และรื้อถอนโรงไฟฟ้า การซื้อขายพลังงาน และการขนส่ง มีการใช้งานในเทคโนโลยีการผลิตกระแสไฟฟ้า เช่น พลังงานนิวเคลียร์ ไฟฟ้าพลังน้ำพลังงานทางทะเล พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ชีวมวล พลังงาน ความร้อนใต้พิภพและพลังงานจากฟอสซิล
โดยมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ติดตั้งไว้ 61.4 GW และโรงไฟฟ้าพลังงานจากฟาร์มกังหันลมบนบก 18.5 GW และโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง 40 GW รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานเซลล์แสงอาทิตย์มากกว่า 100 GW
บริษัท EDF จำกัด นี้ รัฐบาลฝรั่งเศส ถือหุ้น 84 % และ นักลงทุนเอกชน ถือหุ้น 14 % และ อีก 1 % ถือหุ้นโดยพนักงาน EDF
2
โดยมีสินทรัพย์รวม 360,966 พันล้านยูโร(2021) และมีรายได้ 84.5 พันล้านยูโร( 2021) และมีรายได้จากการดำเนินงาน18 พันล้านยูโร(2021)
สื่อ RT รายงานว่า ทางนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส Elisabeth Borne กล่าวกับรัฐสภา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ว่า รัฐบาล ต้องการที่จะควบคุม Electricite de France (EDF) และถือครองหุ้นทั้งหมด
โดยอ้างถึงเหตุผลว่า เรามีความจำเป็นในการเป็นอิสระด้านพลังงาน เมื่อเผชิญกับความขัดแย้งในยูเครน และกล่าวต่อว่า เราต้องประกันอธิปไตยของเรา เมื่อเผชิญกับผลที่ตามมาจากสงครามและการท้าทายครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น
นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันยืนยันกับคุณ ถึงความตั้งใจของรัฐบาลที่จะเป็นเจ้าของหุ้นของ EDF 100% และเราต้องควบคุมการผลิตและประสิทธิภาพของไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่
และสิ่งเกิดจาก การรณรงค์ที่จะลดพลังงานฟอสซีล ชองประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ที่จะขยายขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส ที่ท่านกล่าวว่าประเทศเราจะเป็นประเทศนิเวศวิทยาที่ยิ่งใหญ่แห่งแรกที่ออกจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเพราะปารีสไม่สามารถพึ่งพาน้ำมันและก๊าซของรัสเซียได้อีกต่อไป
เหตุผล จากการวิเคราะห์โดยละเอียด
1. ปารีสไม่ต้องการใช้หรือนำเข้า น้ำมันและก๊าซของรัสเซีย เพื่อผลิตไฟฟ้า แต่ ในฐานะรัฐบาลเป็นหุ้นใหญ่ของ EDF สามารถกำหนดนโยบาย ควบคุมและกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เชื้อเพลิงใด มาผลิตไฟฟ้าได้อยู่แล้ว ข้อนี้น่าจะเป็นเหตุผลรองๆ
2. ปารีส น่าจะใช้นโยบายประชานิยม เพื่อในการตรึงหรือกำหนดค่าไฟฟ้า เท่าเดิมหรือถูกลง และ EDF สามารถรองรับการขาดทุน โดยไม่มีเสียงคัดค้าน จากผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ โดยสามารถกำหนดราคาต่อหน่วยได้ ไม่ให้ต้นทุนผันผวน ตามราคาก๊าซและน้ำมัน เปลี่ยนไปตามราคาตลาดโลก
3. เมื่อปารีส ต้องการถือครองหุ้นทั้งหมด เหมือนของไทย เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ป้องกันเสียงคัดค้าน ในการทำธุรกรรมบางอย่างของผู้บริหารชุดใหม่ ที่ไม่โปร่งใสได้ ทั้งนี้เพราะไม่ต้องรายงานธุรกรรมใดๆ ต่อสาธารณชน
4. ปารีส สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพลังงานของประเทศ โดยหยุดการนำเข้าน้ำมัน และก๊าซได้ แล้วมาใช้ EDF เพื่อผลิตไฟฟ้าทั้งหมด เช่น เพิ่มจำนวนโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อีก
ถ้าท่านผู้อ่าน มีความเห็นเพิ่มเติม ช่วยกัน comments ด้วยครับ
โฆษณา