10 ก.ค. 2022 เวลา 04:41 • หุ้น & เศรษฐกิจ
บทเรียนจากศรีลังกา
5
สิ่งที่เกิดที่ศรีลังกา อาจเกิดได้กับอีกหลายๆ ประเทศในช่วง 2 ปีข้างหน้า
บ่อยครั้งที่วิกฤตเศรษฐกิจ ลุกลามเป็นวิกฤตทางสังคมและการเมือง
1
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ
เมื่อคนอดอยาก ตกงาน ไม่มีรายได้ อย่างกว้างขวาง
ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาสังคมต่างๆ จะตามมา
2
ยิ่งไปกว่านั้น
ด้วยชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่ลำบากขึ้นเรื่อยๆ
1
จากราคาอาหาร พลังงาน น้ำมัน สิ่งของต่างๆ ที่พุ่งขึ้นสูง
จะนำไปสู่ความไม่พอใจในการบริหารจัดการเศรษฐกิจ และความไม่พอใจในรัฐบาลในที่สุด
2
ยิ่งประเทศไหนมีเงินสำรองระหว่างประเทศน้อย
ปัญหาก็สามารถลุกลามรุนแรงขึ้นไปอีกขั้น
เพราะเงินสำรองระหว่างประเทศที่น้อย หมายความว่าประเทศจะไม่สามารถดูแลค่าเงินของตนเองได้
2
ทำให้ค่าเงินอ่อนฮวบลง
ยิ่งหากเป็นเป้าของการถูกโจมตีเก็งกำไรค่าเงินด้วยแล้ว ก็จะยิ่งลำบากมากขึ้นเท่าทวีคูณ เพราะประเทศในกลุ่ม Emerging Market จำนวนมากมีเงินสำรองเพียงหยิบมือเดียว
3
อย่างศรีลังกา ก็มีอยู่แค่ 4-5 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น
ในช่วงสั้นๆ ค่าเงินศรีลังกาอ่อนค่าลงมาก จาก 200 รูปีต่อดอลลาร์ เมื่อต้นมีนาคม มาเป็น 360-370 รูปี/ดอลลาร์ นับแต่พฤษภาคมที่ผ่านมา
1
ทำให้ราคาสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
เงินเฟ้อจึงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 10% เมื่อปลายปีที่แล้ว มาเป็น 54.6% ในปัจจุบัน !!!
3
แต่ปัญหาไม่ใช่เพียงแค่ข้าวของแพงมาก
1
แม้กระทั่งจะสั่งซื้อนำเข้าจากต่างประเทศ ก็ไม่มีเงิน
ทำให้เกิดการขาดแคลนสินค้า อาหาร พลังงาน
คนต้องอยู่กันอย่างกระเบียดกระเสียด
1
นำไปสู่ความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อรัฐบาลที่ครองอำนาจ
ตอนแรกเริ่มจากการวิพากษ์วิจารณ์ของนักวิชาการ และผู้ชำนาญการต่างๆ
แต่ด้วยความโกธรแค้นของประชาชน ที่จะสะสมตัวขึ้นเรื่อยๆ
จากความหิว ความอดอยาก ความลำบาก
สุดท้ายปะทุขึ้นเป็นการประท้วง
การเดินขบวน
การขับไล่รัฐบาล
การเผชิญหน้าที่อาจจะลุกลามรุนแรง
สร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สิน
บานปลายกลายเป็นวิกฤตทางการเมือง ที่ทำลายเสถียรภาพของรัฐบาลและประเทศในที่สุด
1
อยากจะบอกว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นในศรีลังกาเป็นเพียงแค่หนังตัวอย่าง"
1
เพราะขณะนี้ เริ่มมีการเดินขบวนในประเทศอื่นเช่นกัน
กาน่า เปรู ปากีสถาน เอควาดอร์ ซิมบับเว้ อาร์เจนตินา
ขบวนใหญ่บ้าง เล็กบ้าง แต่ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ซึ่งเมื่อคิดไปถึงความเสี่ยงที่รอเราอยู่ในช่วงถัดไป
(1) วิกฤตอาหารโลก Global Food Crisis ที่จะลุกลามขึ้น โดยเฉพาะในฤดูกาลเก็บเกี่ยวถัดไป จากปัญหาปุ๋ยราคาแพง ซึ่งทำให้เกษตรกรทั่วโลกจำเป็นต้องประหยัดการใช้ปุ๋ยไปบางส่วน และจะส่งผลต่อไปยังผลผลิตที่จะออกมา
4
ก็ต้องสรุปว่า ปัญหาการขาดแคลนอาหารของโลก มีแต่จะรุนแรงเพิ่มขึ้น
2
(2) ฐานะเศรษฐกิจที่อ่อนแอของหลายประเทศใน Emerging Markets
ที่นักลงทุนโลกพร้อมผสมโรงซ้ำเติม ด้วยการการดึงเงินออก การไม่ปล่อยกู้ยืม และการโจมตีเก็งกำไรค่าเงินในที่สุด
1
ตารางข้างล่างจาก Bloomberg แสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า ขณะนี้ เรดาห์ของนักลงทุนกำลังจับจ้องอยู่ที่ใคร
เอลซาวาดอร์ กาน่า ตูนิเซีย ปากีสถาน อียิปต์ เคนย่า อารเจนติน่า ยูเครน เป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้นเท่านั้น
ครั้นเมื่อคนเริ่มมีความกังวลใจเกี่ยวกับ Emerging Markets ทั้งหมด มากขึ้นเรื่อยๆ
เงินทุนจะเริ่มไหลออกจากกลุ่มนี้
ทำให้หลายประเทศกู้ยืมได้ยากขึ้น
เงินสำรองระหว่างประเทศของหลายประเทศ จะรั่วไหลลดลงจนเข้าสู่ระดับวิกฤต
5
นำไปสู่ปัญหาค่าเงิน ปัญหาการนำเข้าสินค้า ปัญหาเงินเฟ้อพุ่งสูง
2
ทั้งหมดนี้ หมายความว่า "มรสุมของวิกฤตใน Emerging Markets" กำลังรอเราอยู่ข้างหน้า พร้อมพัดวน สร้างความเสียหายครั้งใหญ่ ไม่เพียงด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่อาจลุกลาม นำไปสู่การประท้วง การเผชิญหน้า บานปลายกลายเป็นวิกฤตการเมืองของรัฐบาลในอีกหลายประเทศ ดังเช่นที่เห็นในศรีลังกา ครับ
2
#ท่องเศรษฐกิจกับดรกอบ #EmergingMarketCrisis
ขอขอบคุณภาพจาก Sky News และ Bloomberg
โฆษณา