10 ก.ค. 2022 เวลา 12:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
MACD สามารถอ่านว่า เอ็ม เอ ซี ดี หรือบางคนเรียกว่า แม็ค ดี เป็นหนึ่งในศาสตราวุธ หรือ Indicator ที่จอมยุทธหลายๆ ท่านน่าจะเคยได้ยินชื่อ หรือใช้งานกัน วันนี้ผมแบงค์จะขอเขียนเกี่ยวกับเรื่อง MACD ให้ทุกท่านได้ทำความเข้าใจกันมากขึ้น เพื่อเป็นเหมือนคัมภีร์พื้นฐานสำหรับจอมยุทธ์ เพื่อให้เอาตัวรอดในโลกยุทธจักรการเทรดได้ เอาละมาเริ่มกันเลย คาราวะสามจอกแด่ทุกท่าน
1
**บทความนี้ไม่ได้ชี้ชวน หรือแนะนำให้ลงทุนในสินทรัพย์ใด ผู้ศึกษาควรศึกษา และตัดสินอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
MACD (Moving Average Convergence Divergence) เป็น Indicator ที่ใช้แนวคิดการวาดเส้นเคลื่อนที่เฉลี่ย (Moving Average) ขึ้นมา 2 เส้น เพื่อใช้แนวโน้มของราคาสินทรัพย์ ปกติค่าดั้งเดิม เส้นเคลื่อนที่เฉลี่ย จะใช้ EMA 12 วัน และ EMA 26 วัน (เรื่อง EMA เดี๋ยวจะขอแปะไว้เขียนในครั้งถัดๆ ไปนะครับ) ซึ่งทั้ง 2 ค่าผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนได้เอง แล้วแต่ความถนัดของผู้ใช้งาน หรือแล้วแต่สินทรัพย์ที่จะใช้งาน
โดย MACD เป็นเครื่องมือที่ถูกคิดค้นมา 41 ปีแล้ว!!! (เกิดก่อนผู้เขียนซะอีก) แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ได้รับการยอมรับ และใช้งานจนถึงปัจจุบัน
ความสามารถที่โดดเด่นของ MACD คือให้ข้อมูลได้ 2 อย่าง
• แรงส่งของราคาสินทรัพย์ – Momentum
• แนวโน้มทิศทางราคาสินทรัพย์ – Trend
รูปการใช้ MACD คู่กับกราฟแท่งเทียน
การใช้งาน MACD ในการบอกแนวโน้ม และแรงส่งของราคา
1. เส้น MACD มีการตัดกัน Signal Line เป็นการบอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงแรงส่งของราคาเป็นทางตรงข้าม
• เส้น EMA 12 (สีฟ้า) ตัดเส้น EMA 26 (สีส้ม) ขึ้น ทิศทางราคาเปลี่ยนเป็นขาขึ้น
• เส้น EMA 12 (สีฟ้า) ตัดเส้น EMA 26 (สีส้ม) ลง ทิศทางราคาเปลี่ยนเป็นขาลง
2. เส้น MACD อยู่เหนือ Center Line หรือใต้ Center Line ไว้บอกแรงส่งของราคา โดย Center Line คือเส้น 0 ในแนวนอน ค่ากลางของ MACD
• เส้น MACD อยู่เหนือ Center Line แสดงว่าแรงส่งเป็นขาขึ้น
• เส้น MACD อยู่ใต้ Center Line แสดงว่าแรงส่งเป็นขาลง
ถ้าจะให้สรุปการดู MACD สามารถบอกสถานะปัจจุบันได้ทั้งหมด 4 แบบ
1. เส้น MACD ทั้งสองเส้นมีค่าเป็นบวก และเส้น EMA 12 ตัดเส้น EMA 26 ขึ้น และอยู่เหนือ Center Line แสดงว่าทิศทางราคาสินทรัพย์เป็นขาขึ้น และแรงส่งของราคาก็เป็นขาขึ้น
2. เส้น MACD ทั้งสองเส้นมีค่าเป็นบวก และเส้น EMA 12 ตัดเส้น EMA 26 ลง และอยู่เหนือ Center Line ทิศทางราคาสินทรัพย์เริ่มเป็นขาลง และแรงส่งราคาก็เริ่มลดลงด้วย
3. เส้น MACD ทั้งสองเส้นมีค่าเป็นลบ และเส้น EMA 12 ตัดเส้น EMA 26 ขึ้น และอยู่ใต้ Center Line ทิศทางราคาเริ่มกลับเป็นขาขึ้น และแรงส่งทิศทางขาลงเริ่มน้อยลง
4. เส้น MACD ทั้งสองเส้นมีค่าเป็นลบ และเส้น EMA 12 ตัดเส้น EMA 26 ลง และอยู่ใต้ Center Line ทิศทางราคาเป็นขาลง และแรงส่งของราคาก็เป็นขาลง
1
รูปอธิบายการดู MACD แบบง่ายๆ
จากข้อสรุปการใช้งาน MACD จะเห็นได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ดีในการใช้บอก แนวโน้มราคาได้ แต่ว่าตัวผมไม่แนะนำให้ใช้ MACD เป็นเครื่องมือหากินเพียงตัวเดียวในการตัดสินใจลงทุน คือไม่แนะนำให้ทำการซื้อสินทรัพย์นั้นทันทีเมื่อ MACD Signal Line ตัดกันขึ้น หรือขายทันที เมื่อ MACD Signal Line ตัดกันลง เนื่องด้วยตัวผมเคยทดลอง และ Back Test การใช้งานแล้ว ขอบอกได้เลยว่าเล่นได้ แต่กำไรยาก และผลสุดท้ายเป็นไปได้ที่จะขาดทุนมากกว่าได้กำไร
บางคนก็อาจจะสงสัยว่าแล้วจะมาเสียเวลาอ่านเรื่อง MACD ทำไม แบบนี้ใช้ Indicator เครื่องมืออื่นเลยไม่ดีกว่าหรือ คำตอบคือ MACD ใช้งานได้ครับ แต่ใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินเท่านั้น ควรใช้งาน Indicator อื่น หรือดูองค์ประกอบอื่น เช่น เกิดการ Divergence (ขอติดไว้เป็นเรื่องที่สอง ฮา) หรือดู RSI CCI Stochastic เป็นต้น ประกอบในการตัดสินใจด้วย
เพื่อไม่ให้เงินทุนของเหล่าจอมยุทธ์ต้องแห้งเหือดไปโดยไม่จำเป็น ตัวผมจึงอยากมาขอเตือนการใช้งาน MACD ด้วย ไว้เจอกันใหม่ใน EP ที่ 3 ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ขอคิดก่อน ขอบคุณครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา